ไฟไหม้โกดังน้ำตาลที่บุรีรัมย์ กลางดึก ระดมรถดับเพลิงกว่า 30 คันเข้าฉีดน้ำสกัดด้วยความยากลำบาก แถมน้ำตาลเป็นเชื่อไฟอย่างดี ระดมดับถึงเช้าก่อนเพลิงสงบลง ผลน้ำตาลมูลค่ากว่า 650 ล้านบาท วอดเกลี้ยงโกดัง
วันนี้ (16 พ.ค.) เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.ท.วุฒิพงษ์ ปานาลาด ร้อยเวรฯ สภ.หินเหล็กไห อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์
รับแจ้งว่าเกิดไฟไหม้โกดังน้ำตาลของโรงงานน้ำตาลบุรีรัมย์อย่างรุนแรง จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.เชิดชัย เปรมปรีด์ สวญ. และแจ้งรถดับเพลิงเทศบาลหินเหล็กไฟ รถดับเพลิงหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ เบื้องต้นพบว่าเป็นโรงงานน้ำตาลบุรีรัมย์ตั้งอยู่กลางตลาดหินเหล็กไฟซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ พบว่าไฟกำลังลุกไหม้ภายในโกดังที่ 1 อย่างรุนแรงจึงวิทยุขอกำลังรถดับเพลิงจากทุกอำเภอทั้ง 23 อำเภอกว่า 30 คันมาช่วยสกัด แต่การสกัดเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะเกิดลมกรรโชกอย่างรุนแรง และมีประชาชนมามุงดูจำนวนมากอีกทั้งถนนทางเข้าคับแคบ มีรถจอดขวางยากต่อการเข้าดับไฟและไฟได้โหมไหม้ทำท่าจะลุกลามไปยังโกดังข้าง ๆ
ต่อมานายสันทัด จัตุชัย ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์
พล.ต.เอกศักดิ์ ไสยสุข ผบ.จทบ.บร. ได้มาอำนวยการดับเพลิง ไฟได้ไหม้จนรุ่งเช้าก็ยังไม่สามารถสกัดเพลิงได้เพราะน้ำตาลทรายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จนไฟเผาไหม้วอดหมดทั้งโกดังแต่ไม่ลามไปโกดังที่ 2 ซึ่งอยู่ติดกัน จากการสอบถามนายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ อายุ 44 ปี กรรมการผจก.โรงงานน้ำตาลบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า “ช่วงก่อนเกิดเหตุคนงานซึ่งมีบ้านพักอยู่หลังโกดัง ได้วิ่งมาแจ้งว่าเห็นไฟลุกไหม้ตามสายไฟในโกดังที่ 1 ซึ่งเป็นโกดังใหญ่ภายในบรรจุน้ำตาลทรายจำนวน 40,000 ตัน เป็นน้ำตาลทรายที่เตรียมส่งออกนอกเมื่อไปดูพบว่าไฟได้ลุกไหม้ภายในอย่างรุนแรง จึงรีบแจ้งตำรวจและรถดับเพลิงมาดับไฟแต่ก็ไหม้จนหมดต้องใช้รถแบ็คโฮทำลายกำแพงเพื่อสกัดเพลิง เบื้องต้นความเสียหายคาดว่ากว่า 650 ล้านบาท ทางตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบหลังเพลิงสงบก่อนแต่ในเบื้องต้นคาดไฟฟ้าลัดวงจรเพราะโกดังที่เกิดเหตุเป็นโกดังเก่าสร้างมานานหลายสิบปี.