ฆ่าเปลือยม่าย มัดมือไพล่หลัง

ฆ่าเปลือยแม่ม่ายสาว ฆาตกรโหดมัดมือไพล่หลัง รัดคอ แถมใช้ผ้ายัดปาก แล้วจ้วงแทงเสียชีวิต

เผยเป็นเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยว เผยช่วงเกิดเหตุลูกชายวัย 8 ขวบและลูกจ้างสาวนอนอยู่นอกห้องแต่ไม่รู้เรื่อง เพื่อนบ้านบอกก่อนเกิดเหตุทะเลาะรุนแรงกับเสี่ยหนุ่มที่คอยส่งเสีย ตำรวจมุ่งปมชู้สาวและชิงทรัพย์ เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 14 พ.ค. พ.ต.ท.สมชาย สารชน พนักงานสอบสวน สบ.3 สภ.เมือง ฉะเชิง เทรา รับแจ้งจากอาสาสมัครตำรวจประจำตำบลบาง ไผ่ ว่ามีเหตุฆ่ากันตายภายในร้านขายอาหาร ตั้งอยู่ริมถนนสาย 304 สายฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี หมู่ที่ 10 ต.บางไผ่ อ.เมือง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา, พ.ต.อ.นภดล ศรสำราญ ผกก. สภ.เมือง, พ.ต.ท.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ รอง ผกก.ส., พ.ต.ท.สิทธิพลว์ ศิริธานิยะภักดี สวป., น.พ.ธนัทเทพ เบญจศิริ แพทย์ประจำ ร.พ.เมืองฉะเชิงเทรา, พ.ต.ต.หญิงนันนะนัตถ์ อิ่นพร สารวัตรแผนกพิสูจน์หลักฐาน วิทยาการฉะเชิงเทรา พร้อมตำรวจชุดสืบสวนและกู้ภัยฉะเชิงเทรา

บริเวณที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวชั้นเดียว ปลูกติดกันเปิดเป็นร้านขายอาหารจำนวน 10 ห้อง

ใกล้กับสถานีบริการน้ำมันเจ็ท ห้องเกิดเหตุเลขที่ 96/4/8 เปิดเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว เลือดหมู-ตือฮวน ชื่อร้าน "ก๋วย เตี๋ยวแปดริ้ว" ห้องนอนภายในร้าน พบศพนางประ คอง หรือ "จอย" พรมศักดิ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 300 หมู่ 9 ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี เสียชีวิตอยู่บนที่นอนฟูก โดยมีผ้าห่มนวมห่มทับร่างเอาไว้ เมื่อเปิดผ้าห่มนวมออกพบว่าผู้ตายไม่สวมเสื้อชั้นใน เสื้อยืดสีดำถูกเลิกไปเหนือราวนม กางเกงยีนส์ขาสั้นถูกถอดกองไว้ที่ปลายเท้า มือทั้งสองข้างถูกจับมัดไพล่หลังด้วยผ้าสีชมพู บริเวณลำคอยังถูกรัดด้วยผ้าผืนเดียวกัน นอกจากนี้ปลายผ้าสีชมพูชิ้นเดียวกันนี้คนร้ายยังนำไปอุดไว้ที่ปาก เบื้องต้นแพทย์คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วราว 6 ช.ม. และยังไม่สามารถระบุได้ว่า ผู้ตายถูกข่มขืนหรือไม่ จะต้องส่งศพไปตรวจสอบที่สถาบันนิติเวช

ส่วนบาดแผลบริเวณเหนือราวนมซ้าย ถูกแทงด้วยมีดปลายแหลม 5 แห่ง เลือดไหลเปื้อนที่นอนและผ้าห่มนวม

ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และทรัพย์สินของผู้ตายมีสร้อยคอทองคำหนักสองสลึง 1 เส้น สร้อยข้อมือรูปปลาโลมาหนัก 2 บาท 1 เส้น และโทรศัพท์ โนเกีย เอ็น 70 หายไป โดยที่ครัวด้านหลังมีลิ่มเลือดตกอยู่ 2 แห่ง และตาข่ายลวดหลังครัวมีรอยถูกดึงแล้วมุดออกมีจักรยานปิดทับไว้ รวมทั้งรอยรองเท้าที่นอกครัวหลายแห่ง คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นช่องทางนี้หลบออกไปทางด้านหลังซึ่งเป็นป่าละเมาะ และมีทางเดินออกไปทางปั๊มเจ็ทได้

น.ส.นิด อายุ 23 ปี ชาวกัมพูชาลูกจ้างประจำร้านให้การว่า

ก่อนเกิดเหตุประมาณ 19.00 น. ไฟฟ้าบริเวณร้านค้ารวมทั้งอาคารที่ตั้งริมถนนทั้งหมดเกิดดับ ตนกับนางประคองผู้ตายและ "น้องบีม" ลูกชายวัย 8 ขวบของผู้ตายยังอยู่ภายในบ้าน เมื่อไฟดับต่างคนต่างเข้านอน โดยนางประคองเข้าไปนอนในห้องเพียงลำพัง ส่วนตนและน้องบีมนอนอยู่ด้านนอก จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. ไฟฟ้าติด นางประ คองออกมาจากห้อง มาดูตนและน้องบีมก่อนที่จะเข้า ไปนอน และไม่ทราบว่าเวลาเท่าใด มีเสียงคล้ายเสียงคนร้อง แต่ไม่สนใจและนอนต่อจนกระทั่งเช้าก็พบว่านางประคองถูกฆ่าตาย

สอบสวนเพื่อนบ้านนางประคองทราบว่า ผู้ตายเป็นชาว จ.อุดรธานี มีลูกติดคนหนึ่งชื่อ ด.ช.สุกิจ หรือ "บีม" โศรกระโทก อายุ 8 ขวบ

เรียนอยู่ชั้น ป.2 ร.ร.วัดทด ต.บางไผ่ ส่วนสามีแยกทางกันเมื่อ 7 ปีก่อน ต่อมาทำงานร้านอาหาร "ลูกน้ำ" อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 ก.ม. ภายหลังเลิกอาชีพเด็กเสิร์ฟแล้ว มาเช่าร้านที่เกิดเหตุขายอาหารโดยมีเสี่ยหนุ่ม อาชีพรับเหมาทำเฟอร์นิเจอร์ ชักชวนมาและคอยให้การสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านอาหาร และมักไปมาหาสู่กันเป็นประจำถือเป็นภรรยาน้อยของเสี่ยคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนเศษ เสี่ยหนุ่มกับนางประคองทะเลาะกันอย่างรุนแรงเรื่องที่ผู้ตายจะขอให้เสี่ยคนดังกล่าวไปส่งที่บ้านใน จ.อุดรธานี เพื่อเยี่ยมเยียนพ่อแม่ ญาติพี่น้อง แต่เสี่ยหนุ่มไม่ยอมไปส่ง จึงเกิดมีปากเสียงกัน หลังจากนั้นเสี่ยรับเหมาคนดังกล่าวไม่ยอมมาหาอีก แต่ส่งลูกน้องมารับตัวเพื่อปรับความเข้าใจแต่นางประคองไม่ยอมไป

ด้านนางหยาดรุ้ง ซุ่นเจริญ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านขายอาหารที่อยู่ติดกันเปิดเผยว่า
 
ปกติแล้วนางประคอง จะนอนอยู่ที่ร้านกับลูกชายและลูกจ้างอีกคน โดยนางประคองผู้ตายจะนอนในห้องตามลำพัง ส่วนลูกชายกับลูกจ้างจะนอนด้วยกันนอกห้อง บริเวณด้านหน้าร้าน จนกระทั่งในตอนเช้า ด.ช.สุกิจ ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าแม่ยังคงนอนอยู่ในห้องไม่ออกมาจัดเตรียมของเพื่อเปิดร้าน จึงเคาะประตูเรียกแต่ก็ไม่มีการขานรับ จึงเปิดประตูห้องดูและพบว่าผู้เป็นแม่นอนจมกองเลือดอยู่บนที่นอน ด.ช.สุกิจ จึงวิ่งมาบอกตนด้วยอาการที่ตกใจ จึงรีบเข้ามาดูจึงพบว่าถูกฆ่าตายและโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

พล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มุ่งประเด็นไปที่เรื่องของการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ หรือเรื่องชู้สาว โดยคนร้ายอาจย่องเข้ามาเพื่อต้องการข่มขืนแต่ว่าผู้ตายไม่ยอมหรืออาจรู้จักกับคนร้ายจึงลงมือฆ่าเพื่อปิดปาก