จากกรณีคนร้ายบุกฆ่าโหดลูกค้าร้านเสริมสวยใต้อพาร์ทเมนต์ย่านศรีนครินทร์เสียชีวิต
โดยได้ก่อเหตุแทงเจ้าของร้านและลูกสาวได้รับบาดเจ็บ ตามที่เสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายธนาชัย หรืออ๊อฟ เสือมาก อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 222 ม.8 ต.มะขุนหวาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิกสีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน รธฉ-903 กทม.กางเกงยีนส์ 1 ตัว เสื้อวอร์มสีเขียวปักชื่อ ธนาชัย เสือมาก 1 ตัว หมวกนิรภัยติดสติ๊กเกอร์หมายเลข 10 ด้านหลัง 1 ใบ รองเท้าแตะยาง 1 คู่ และอาวุธปืนปลอม 1 กระบอก โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านเลขที่ 108 ม.11 ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่านายธนาชัยได้มาเช่าห้องพักอยู่ที่ห้องเลขที่ 52 ของพีเค อพาร์ทเม้นท์ ใกล้กับที่เกิดเหตุ
โดยหลังจากที่ก่อเหตุแล้วได้กลับมาทิ้งกางเกงยีนส์และเสื้อวอร์มจากชั้น 5 แล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่พบกางเกงยีนส์เปื้อนเลือดถูกทิ้งไว้ที่ริมรั้วของพีเค อพาร์ทเม้นท์ ห่างจากจุดเกิดเหตุ 300 เมตร และพบเสื้อวอร์มสีเขียวเปื้อนเลือดตกอยู่บนหลังคาร้านพวงทอง ซึ่งนายธนาชัยทิ้งลงมาจากชั้น 5 หลังจากก่อเหตุ ที่หน้าอกด้านขวาเสื้อวอร์มปักชื่อธนาชัย เสือมาก จึงนำส่งที่สถาบันนิติเวชวิทยาเพื่อตรวจสอบคราบเลือดที่เสื้อวอร์มพบว่าดีเอ็นเอตรงกันกับผู้ตาย จึงทำให้เชื่อว่านายธนาชัยเป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุ
จากการสอบสวนนายธนาชัย ยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุจริง
แต่เป็นเพราะโกรธแค้นที่ผู้ตายว่าจ้างให้ตนส่งอาวุธปืนให้เพื่อนที่ย่านบางนา และนัดให้มารับค่าจ้าง 20,000 บาทที่ร้านเสริมสวยดังกล่าว แต่เมื่อไปถึงผู้ตายกลับทำเป็นไม่สนใจทั้งยังทำเป็นไม่รู้จัก ตนจึงโมโหใช้อาวุธมีดแทง ส่วนที่ต้องแทงเจ้าของร้านและลูกสาวก็เนื่องจากว่ายืนขวางทาง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา และเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะตั้งใจไปก่อเหตุอื่นๆด้วยเนื่องจากมีการพกอาวุธปืนปลอม อาวุธมีด เสื้อคลุม และหมวกนิรภัย ซึ่งพร้อมที่จะทิ้งได้ตลอดเพื่ออำพรางคดี
คาดว่าผู้ต้องหาน่าจะตั้งใจที่จะไปชิงทรัพย์ผู้ตายมากกว่าเรื่องส่วนตัว เพราะจากการสอบปากคำพยานทราบว่าผู้ตายไม่เคยรู้จักกับผู้ต้องหามาก่อน ทั้งนี้จะนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างกายว่ามีอาการทางจิตด้วยหรือไม่ และจะเชิญญาติพร้อมทั้งภรรยาของผู้ต้องหามาสอบปากคำอย่างละเอียดต่อไป