ผบช.ก. อ้างยังไม่มีทนาย ขอเลื่อนคดี สนธิ ฟ้องหมิ่น
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2549 16:03 น.
ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขอเลื่อนไต่สวนคดีที่ถูก สนธิ ลิ้มทองกุล ฟ้องหมิ่นประมาท กรณีให้สัมภาษณ์กล่าวหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยอ้างยังไม่มีทนายต่อสู้คดี ขณะที่คดี 5 แกนนำพันธมิตรฯ ถูกตำรวจดำเนินคดีล้มล้างการปกครอง อัยการเลื่อนสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 4 ก.ค.เวลา 10.00 น.
วันนี้ (29 พ.ค.) เวลา 13.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีให้สัมภาษณ์ชี้นำว่านายสนธิกระทำความผิดจริงในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะพบว่าคดีมีมูลและปรากฏหลักฐานการกระทำความผิดชัดเจน ทั้งภาพและเสียงสัมภาษณ์ของนายสนธิ
โดยคดีนี้โจทก์ฟ้อง สรุปว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนในคดีที่โจทก์ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ และเมื่อระหว่างวันที่ 11 เม.ย.2549 จำเลยได้บังอาจให้สัมภาษณ์ซึ่งเป็นการใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ ตามที่มีปรากฏและรายงานในสื่อแขนงต่างๆ
โดย พล.ต.ท.มนตรี กล่าวถึงกรณีการออกหมายเรียกนายสนธิมารับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า
จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานตามที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษกว่า 100 ราย พบว่าคดีมีมูลและปรากฏหลักฐานการกระทำความผิดชัดเจน ทั้งภาพและเสียงสัมภาษณ์ของนายสนธิ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะให้โอกาสออกหมายเรียก 2 ครั้ง หากไม่มาตามนัดหมายจะเสนอศาลขออนุมัติหมายจับทันที
คำฟ้องระบุว่า ข้อความที่จำเลยให้สัมภาษณ์ว่า ล่าสุดนายสนธิได้ให้ทนายความติดต่อไปยังพนักงานสอบสวนกองปราบปรามขอเลื่อนนัดออกไปอย่างไม่มีกำหนด และข้อความที่ว่า พบว่าคดีมีมูลและปรากฏหลักฐานการกระทำความผิดชัดเจนทั้งภาพ และเสียงสัมภาษณ์นายสนธิ นั้น เป็นข้อความที่กล่าวใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สาม โดยทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง เพราะจำเลยกล่าวข้อความดังกล่าวในลักษณะยืนยันข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นผู้กระทำความผิด และโจทก์พยายามที่จะหลบหนีหรือประวิง การสอบสวนดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน ด้วยการเดินทางไปประเทศจีนและยังไม่มีกำหนดกลับ ทำให้ประชาชนที่อ่านหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์ข้อความดังกล่าว เชื่อว่าโจทก์กระทำความผิด และตั้งใจที่จะหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศจริง
การกระทำของจำเลยมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์อย่างชัดเจน โดยจำเลยอาศัยอำนาจหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพนักงานสืบสวนสอบสวน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานัดไต่สวนตัวแทนของ พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ได้ยื่นต่อศาลเพื่อขอเลื่อนการไต่สวนคดีออกไปก่อน โดยอ้างว่าจำเลยอยู่ระหว่างการแต่งตั้งทนายความเพื่อต่อสู้คดี ศาลถามทนายฝ่ายโจทก์ และโจทก์ไม่คัดค้าน ศาลจึงอนุญาตให้เลื่อนการไต่สวนออกไป เป็นวันที่ 12, 13 ตุลาคม เวลา 09.00 น.
วันเดียวกันเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของ 5 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เข้ารับฟังคำสั่งในคดีที่ พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. หัวหน้าพนักงานสอบสวน พล.ต.ท.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ.9) พล.ต.ต.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รอง ผบช.น. สั่งฟ้อง 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ต่อพนักงานอัยการกองคดีอาญา ใน 5 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดที่มิใช่เป็นการกระทำโดยความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร หรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย 2.มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และมีผู้เป็นหัวหน้าสั่งการ 3.ร่วมกันเดินขบวนลักษณะเป็นการกีดขวางการจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ร่วมกันวางตั้งหรือแขวนสิ่งใดในลักษณะกีดขวางการจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 5.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดย นายวันชัย สร้อยทอง อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา แจ้งว่า ก่อนหน้านี้ทางผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้อัยการสอบพยานบุคคลเพิ่มเติม และขณะนี้อัยการยังไม่ได้รับผลการสอบปากคำเพิ่มเติม จึงจำเป็นต้องเลื่อนฟังการสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 4 ก.ค.เวลา 10.00 น.