เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ รอง ผบช.ประจำ สนง.ตร. ทำหน้าที่ดูแลศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กเยาวชนและสตรี พ.ต.อ. นราเดช กรมทุกสิ่ง ผกก.ฝ.ทท.2 บก.ทท. และ พ.ต.อ. นภดล วงษ์น้อม ผกก.สภ.พัทยา ร่วมกันแถลงจับกุมนายโวล์ฟ รูจิเกอร์ เอ็นเจอร์กี อายุ 66 ปี สัญชาติเยอรมัน ใน ข้อหากระทำอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และพรากผู้เยาว์
พล.ต.ต.ปัญญาเปิดเผยเบื้องหลังการจับกุมว่า
สืบเนื่องจากตนมีคำสั่งให้ตำรวจท่องเที่ยวทั่วประเทศสืบสวนติดตามพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและสตรี โดยเฉพาะในเมืองพัทยา กระทั่งตำรวจท่องเที่ยวพัทยาสืบพบพฤติกรรมของนายโวล์ฟที่เข้ามาทำงานเป็นอาจารย์พิเศษสอนภาษาเยอรมัน มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก พาเด็กชายไปล่วงละเมิดทางเพศ ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 13 พ.ค. นัดเด็กชาย 2 คนไปที่ห้องพัก 209 อินฉัตรอพาร์ตเมนต์ ตั้งอยู่เลขที่ 273/55 หมู่ 10 ซอยสุณีย์พลาซ่า พัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงวางแผนจับกุม
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงพบนายโวล์ฟนอนเปลือยกายอยู่กับเด็กชาย 2 คน
คือ ด.ช.โจ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี และ ด.ช.โอ๋ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี และพบถุงยางอนามัยใช้แล้ว 2 อัน จากการสอบสวนทราบว่า นายโวล์ฟจ่ายเงินให้เด็กคนละ 500 บาท จากนั้นให้สับเปลี่ยนกันอมนกเขาและใช้มือสำเร็จความใคร่ให้ถึง 2 ครั้ง หลังจับกุมตำรวจส่งเด็กชายทั้ง 2 คนให้กับสถานสงเคราะห์เด็กบ้านบางละมุงรับไปดูแล ส่วนนายโวล์ฟหลังถูกจับถึงกับเป็นลมล้มพับต้องหามส่งโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาและจากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
รอง ผบช.ก.กล่าวอีกว่า ได้สั่งให้ตำรวจท่องเที่ยวดำเนินการกับชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวโดยมีผู้ต้องสงสัยอยู่ประมาณ 200 คนทั่วประเทศ
ส่วนใหญ่จะแฝงเข้ามาในคราบนักท่องเที่ยวและมักใช้เมืองท่องเที่ยวเป็นสถานที่เสพสุข โดยกำชับให้สืบสวนจับกุมให้หมด เพื่อให้เมืองท่องเที่ยวปลอดจากพวกบ้ากามเหล่านี้ นอกจากนี้ฝากเตือนไปถึงบรรดาพวกผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม อพาร์ตเมนต์ และห้องเช่าต่างๆต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจ ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีในข้อหาสมรู้ร่วมคิดด้วย