รวบสาวทมิฬเลือดเย็น!ฆ่า8ขวบ

ยืนดูตายต่อหน้าต่อตา ฉก"มือถือ"เด็กไปขายกลัวผิดลวงมาเล่นนํ้า!ใช้ไม้ดันเหยื่อไปที่ลึกว่ายไม่เป็นจมนํ้าสิ้นใจ
รวบสาวเสิร์ฟทมิฬ ลวงฆ่าเด็กวัย 8 ขวบ อย่างเลือดเย็น

ทั้งที่เป็นลูกสาวเพื่อนบ้านที่สนิทกัน สาเหตุแค่ต้องการมือถือหนูน้อยไปขาย เพื่อนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ หลังหลอกเด็กจนได้มือถือไปขายก็กลัวแม่เด็กจะรู้เรื่อง ออกอุบายลวงไปเล่นน้ำในสระ ใช้ไม้ยันร่างเด็กไปที่ลึก แล้วยืนดูหนูน้อยเคราะห์ร้ายตะเกียกตะกาย-จมหายไปต่อหน้าต่อตา ตร.คุมตัวทำ แผนหวิดโดยประชาทัณฑ์

กรณี นางวราพร ทวาแสน อายุ 27 ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ว่าลูกสาวชื่อ ด.ญ.สุรีย์ศรี ทวาแสน หรือน้องออย อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 ได้หายออกจากบ้านตั้งแต่ตอนเที่ยงของวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา และได้ร่วมกับญาติ ๆ ออกตามหาจนทั่วเมืองแต่ไม่พบ จนกระทั่งมีชาวบ้านไปพบเป็นศพอย่างมีเงื่อนงำอยู่ในสระน้ำของโรงแป้งมันเก่า ซอยบุญนาค หมู่ 4 ต.หนองปรือ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ในสภาพคอหัก และแก้มขวาบวมปูดนั้น


ความคืบหน้าของเรื่องนี้เมื่อวันที่ 9 พ.ค. พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย ผกก.สภ.บาง ละมุง และกำลังได้ร่วมกันจับกุม น.ส.มัลลิกา หรือนุ้ย ผาจวง อายุ 26 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 256 หมู่ 6 ต.นาเกลือ อาชีพสาวเสิร์ฟร้านอาหาร ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ จากนั้นนำตัวมาสอบสวนขยายผล จนยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนลวง ด.ญ.สุรีย์ศรี หรือน้องออย ไปฆ่าที่สระน้ำดังกล่าวจริง โดย น.ส.มัลลิกา ให้การถึงเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนได้เช่าบ้านอยู่ติดกับบ้านของน้องออยและรู้จักกันเป็นอย่างดี ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 5 พ.ค. เห็นน้องออยนั่งเล่นอยู่ที่สนามเด็กเล่นในหมู่บ้าน จึงเข้าไปพูดคุยด้วย และสังเกตเห็นว่าน้องออยมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อแอลจีอยู่ 1 เครื่อง ด้วยความอยากได้จึงออกอุบายพาไปเดินเที่ยวที่ตึกคอม พัทยาใต้ แล้วพูดจาหว่านล้อมขอโทรศัพท์เพื่อนำไปขายจนได้เงินมา 500 บาท

แล้วด้วยความกลัวว่าแม่เด็กจะทราบเรื่อง จึงวางแผนพาน้องออยไปเล่นน้ำที่สระน้ำของโรงแป้งมันเก่า

ห่างจากบ้านพักประมาณ 3 กม.เพื่อหวังฆ่าปิดปาก ตนทำทีให้น้องออยลงไปเล่นน้ำ โดยตนยื่นไม้ยาวประมาณ 3 เมตรให้จับประคองตัว จากนั้นจึงใช้ไม้ยันให้ร่างของน้องออยลอยออกห่างจากตลิ่ง ซึ่งน้องออยได้ร้องขอให้ช่วยชีวิตเนื่องจากกำลังจมน้ำ แต่ตนไม่สนใจยืนมองดูน้องออยพยายามตะเกียกตะกายจนจมน้ำ หายไปต่อหน้าต่อตา จึงเดินทางกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

กระทั่ง นางวราพร แม่ของน้องออย ทราบว่าลูกตัวเองหายไป จึงได้ร่วมกับญาติ ๆ ออกตามหาทั้งคืน

โดยตนทำทีเป็นห่วงใยและ ได้ร่วมออกตามหาด้วย ไม่คิดว่าจะมีคนรู้เรื่อง กระทั่งตำรวจมาจับกุมตนในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ซึ่งเป็นคดีเก่า และสอบเค้นจนต้องยอมเปิดปากรับสารภาพดังกล่าว ทั้งนี้สาเหตุที่ทำไปเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ต้องการเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ไม่ได้โกรธแค้นเด็กแต่อย่างใด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.มัลลิกา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางบรรดาไทยมุงและญาติของน้องออย ประมาณ 300 คนที่เดินทางมาดู พร้อมตะโกนสาปแช่งและฮือเข้ามาจะทำร้ายผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องรีบนำตัวกลับโรงพักโดยไม่ได้ขอขมาต่อหน้าศพ แต่ได้เชิญนางวราพรกับนายสุรศักดิ์ เชิดแสง พ่อและแม่ของน้องออย เดินทางไปที่โรงพักเพื่อให้ น.ส.มัลลิกา ขอขมาจากนั้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และปกปิดซ่อนเร้นความผิดที่ตนกระทำฯ ซึ่งมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์