สั่งฟันพระเกย์ถ่ายรูปเล่นน้ำตกกับเด็กหนุ่ม

อนาถรูปพระเกย์เล่นน้ำตกกับเด็กหนุ่ม วธ.ระบุมีการฟอร์เวิร์ดเมล์ไปทั่ว

พฤติกรรมส่อลามกอนาจาร เรียกร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ไข แฉเป็นพระเมืองนนท์ นำทีมโดยพระระดับรักษาการเจ้าอาวาส ซึ่งมีปัญหาด้านพฤติกรรมหลายเรื่อง ทางด้าน"พระพรหมโมลี"เจ้าคณะภาค 1 สั่งพระสังฆาธิการลงโทษตามพระธรรมวินัยแล้ว พร้อมเสนอมหาเถรสมาคมวางมาตรการให้พระอุปัชฌาย์เข้มงวดในการบวชพระกว่านี้ เพื่อป้องกันพระเกย์เข้ามาแฝง อีกเรื่องอื้อฉาว ร้องแหม่มสาวแก้ผ้าถ่ายรูปในวัดเมืองไทย เร่งตรวจสอบหาสถานที่เป็นที่ใด

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า

ได้รับร้องเรียนจากเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับพฤติ กรรมที่ไม่เหมาะสมของพระภิกษุสงฆ์ที่ไปเที่ยวนํ้าตกแห่งหนึ่ง พร้อมกับเด็กวัยรุ่นชายกลุ่มหนึ่ง และมีภาพถ่ายที่บ่งบอกถึงความสนิทสนมและส่อไปในทางลามกอนาจร ทั้งนี้เครือข่ายเฝ้าระวังฯ ได้ส่งภาพดังกล่าวมาให้ตนผ่านทางอีเมล์ส่วนตัว โดยเครือข่ายเฝ้าระวังฯ ระบุว่าได้รับภาพดังกล่าวมาจากการฟอร์เวิร์ดเมล์อีกต่อ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง จึงขอให้ศูนย์เฝ้าระวังฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งแก้ไขเรื่องนี้โดยด่วน

น.ส.ลัดดากล่าวต่อว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้วไม่ได้ความคืบหน้ามากนัก และยังไม่รู้ว่าเป็นพระจริงหรือปลอม

จึงได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดส่งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อให้ตรวจสอบรายละเอียดที่มาของพระสงฆ์ที่ปรากฏในภาพ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแล้วตนมีความเห็นว่าพฤติกรรมของพระสงฆ์ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นพระจริงหรือพระปลอมก็ไม่สมควรทำพฤติกรรมที่ส่อไปในทางลามกอนาจารเช่นนั้น เพราะจะทำให้พระพุทธศาสนามัวหมอง และทำให้พุทธศาสนิกชนเกิดความเสื่อมถอยทางจิตใจ ดังนั้น อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมของพระสงฆ์ดังกล่าวด้วย


ด้านพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวถึงกรณีที่มีภาพถ่ายพระภิกษุสงฆ์แสดงกิริยาคล้ายหญิงและลงไปเล่นน้ำตกกับเด็กชายว่า
 
เรื่องนี้อาตมาเพิ่งทราบข่าว โดยพระสงฆ์รูปดังกล่าวจำวัดอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ใกล้กับวัดสวนแก้ว แต่อาตมาไม่รู้จัก และไม่มีความสนิทสนมกับพระรูปดังกล่าว เนื่องจากเป็นพระรุ่นใหม่และอายุยังน้อย แต่หากเป็นเจ้าอาวาสองค์เก่าจะสนิทสนมกัน
หลังจากอาตมาเห็นรูปภาพดังกล่าวเผยแพร่ทางสื่อและอินเตอร์เน็ต จึงอยากจะฝากไปซื้อชุดบิกินีมาให้พระรูปดังกล่าวใส่แทนจีวร เพราะดูแล้วพระรูปดังกล่าวคงไม่อยากใส่จีวรแล้ว

พระพยอมกล่าวต่อว่า สำหรับที่พระสงฆ์ที่ไปเล่นน้ำตกถือเป็นภาพที่น่าอนาถและไม่สมควร

เมื่อวานมีสื่อมวลชนและญาติโยมโทรศัพท์เข้ามาสอบถามว่าทราบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ เนื่องจากวัดอยู่ใกล้กัน แต่ในช่วงนี้อาตมาต้องไปจำวัดที่จ.บุรีรัมย์ ทำให้ไม่ทราบข่าว อีกทั้งอาตมาเป็นพระสงฆ์ด้านสงเคราะห์ เผยแผ่และพัฒนา จึงไม่มีอำนาจที่จะดูแลและจัดการเรื่องที่เกิดขึ้น แต่หากอาตมาเป็นพระสงฆ์ด้านปกครองก็คงเข้าไปดูแลเรื่องนี้ อาตมาคิดว่าในไม่ช้าก็คงมีผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลและแก้ไข

"สำหรับภาพที่ออกมาถึงว่าเป็นการแสดงออกที่น่าเกลียดน่าชัง ถ้าดูตามศีลถือว่ายังไม่ขาดการจากเป็นพระสงฆ์ แต่หากพระสงฆ์ไปเสพทวารของเด็กชายก็จะถือว่าขาดจากการเป็นพระ ตอนนี้จึงถือว่ายังไม่ขาดจากการเป็นพระ แต่เป็นโลกวัชชะและเป็นสิ่งที่น่าติเตียน ส่วนที่พระสงฆ์เดินทางไปเที่ยวน้ำตกนั้น สามารถเดินทางไปได้ แต่ต้องไปเวลาที่ประชาชนและชาวบ้านเดินทางกลับกันหมดแล้ว ไม่ใช่ไปในช่วงเวลาที่ชาวบ้านเที่ยวกันและไปแสดงกิริยาท่าทางกับเด็กตามภาพ เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่ขาดสมณสัญญาอย่างมาก"
เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วกล่าว


พระพยอมกล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีที่พระมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไปทางหญิง ถือเป็นเรื่องที่น่าระแวงอีกเรื่องหนึ่ง

ที่ผ่านมาทราบว่ามีพระสงฆ์บางรูปพาเด็กชายไปพักที่รีสอร์ตตามลำพัง ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ในปัจจุบันพระสงฆ์กลุ่มดังกล่าวยังแสดงพฤติกรรมแปลกๆ อาทิ เมื่อมีงานบุญหรืองานศพ พระสงฆ์กลุ่มนี้มักจะชอบจัดดอกไม้และแสดงกิริยาท่าทางคล้ายหญิง อีกทั้งยังมีนิสัยชอบประจบ ทำให้ญาติโยมรักใคร่ ที่ผ่านมาทราบว่ามีบางวัดที่โน้มเอียงตามพระสงฆ์กลุ่มนี้ และมีการสร้างห้องน้ำแยกไว้ให้ สิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ ห้องน้ำของกลุ่มชายที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนมักจะมีเงินบริจาคสูงกว่าห้องน้ำของผู้ชายและผู้หญิง ทำให้เห็นว่าโลกในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปมาก

"สำหรับแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น คิดว่าน่าจะสร้างสำนักขึ้นมาใหม่และแยกพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนออกไป เนื่องจากกลัวผลเสียที่จะตามมา อาทิ เณรที่มาบวชเรียนในภาคฤดูร้อน พระสงฆ์กลุ่มนี้มักจะชอบเข้ามาโอบกอดและลูบคลำ อาตมาเคยเจอพระสงฆ์ลักษณะเช่นนี้มาครั้งหนึ่ง โดยพระสงฆ์รูปดังกล่าวเข้ามาโอบกอดและเอาคางมาเกย ครั้งนั้นอาตมายังเอาศอกกระแทกท้องไป 1 ครั้ง"
พระพยอมกล่าว

ทางด้านนางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีพระเกย์กลุ่มหนึ่งในจ.นนทบุรี

ที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับสมณเพศ มีการเปิดรีสอร์ตมั่วสุมกับวัยรุ่นชายว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ยังไม่มีการรายงานมาถึงสำนักพุทธฯ อย่างเป็นทาง การ แต่จากที่ทราบตามที่มีรายงานข่าวเข้ามา ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมแต่อย่างใด สำหรับพระสงฆ์ที่ควรวางตัวให้สำรวมน่าเลื่อมใส ทั้งนี้ สำนักพุทธฯ คงเข้าไปจัดการเรื่องนี้โดยตรงไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของพระสังฆาธิการชั้นผู้ใหญ่ในเขตวัดในปกครองที่เกิดเรื่อง เป็นผู้เข้ามาจัดการพิจารณาให้ความเป็นธรรม เป็นเรื่องของพระสงฆ์ในเขตจ.นนทบุรี ที่จะต้องจัด การปัญหาตรงนี้ เชื่อว่า พระสังฆาธิการในจังหวัดนนท บุรี ตั้งแต่ระดับเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะตำบล คงจะทราบและดำเนินการกันอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศของกะเทยและเกย์ เป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ หากกลุ่มคนเหล่านี้ต้องการบวชเรียน คงจะตรวจสอบค่อนข้างลำบาก
 
ทุกวันนี้ พระอุปัชฌาย์ที่สามารถประกอบพิธีอุปสมบทให้ชายหนุ่มเข้ามาบวชเป็นพระ ได้รับการฝึกอบรมเป็นอย่างดีแล้ว รวมทั้งขั้นตอนขอบวชในปัจจุบัน ก็มีความเข้มงวดกว่าแต่ก่อนมาก เพราะในช่วงขอบวช กลุ่มคนเหล่านี้ มีการวางตัวที่เป็นผู้ชายตามปกติ แต่เมื่อเข้ามาสู่ร่มกาสาวพัสตร์ อาจจะเผอเรอลืมตัว แสดงอากัปกิริยาอย่างไม่อาจควบคุมไว้ได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ หากคนกลุ่มนี้เข้ามาบวช ขอให้มีจิตสำนึกในการเดินเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์แห่งพระพุทธศาสนา ควรวางตัวให้เหมาะสม เพื่อมิให้ศาสนามัวหมอง หากคิดว่าปฏิบัติตนวางตัวสำรวมกิริยาไม่ได้ ต้องขอให้ลาสิกขาบทไปใช้ชีวิตคฤหัสถ์เยี่ยงคนธรรมดา ซึ่งสามารถใช้ชีวิตอิสระตามใจปรารถนา โดยไม่มีใครมาห้ามได้


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์