คู่หูขี้ยายิง พตท.เจ็บ โผล่เข้ามอบตัวแล้ว

จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญสะท้านกรุง เมื่อ พ.ต.ท.ภูษิต วิเศษคามินทร์ รอง ผกก.จร.สน.พญาไท

นำกำลังตั้งด่านสกัดจับชายต้องสงสัย 2 คน ขี่รถ จยย.ซ้อนท้ายหนีการตรวจค้นจากท้องที่ สน.ดุสิต มุ่งหน้ามาถึงแยกอุรุพงษ์ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. แล้วเกิดพลาดท่าถูกคนร้ายชักปืนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ได้ทันควัน ทราบชื่อ นายจิตติโชตน์ โชคชัย อายุ 27 ปี หนุ่มขี้ยาที่มีประวัติต้องคดียาเสพติดมาอย่างโชกโชน และเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกเพียงเดือนเศษ ส่วนเพื่อนคู่หูอีกคนหลบหนีไปได้หวุดหวิด
 

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 พ.ค. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการ ผบ.ตร.

พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 เดินทางไปยังห้องไอซียู รพ.พญาไท 1 เพื่อเข้าเยี่ยม พ.ต.ท.ภูษิต วิเศษคามินทร์ รอง ผกก.จร. สน.พญาไท ที่ยังคงนอนพักรักษาตัว หลังถูกกระสุนคนร้ายยิงใส่บาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่ โดยพล.ต.อ.พัชรวาทเปิดเผยว่า ขอแสดงความชมเชย พ.ต.ท.ภูษิต ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ ทั้งที่รู้ว่าคนร้ายมีปืน แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบสูง หากตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างนี้ ประชาชนก็จะอุ่นใจ ส่วนเรื่องเงินสวัสดิการช่วยเหลือต่างๆ ตร.มีระเบียบอยู่ กองสวัสดิการจะเข้ามาดูแล
 

พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนในเรื่องของการระวังตัวระหว่างปฏิบัติหน้าที่

ต่อไปนี้ต้องมีการทบทวนและสร้างมาตรฐานใหม่ว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรกับคนประเภทนี้ แต่จะใช้ความรุนแรงคงไม่ใช่ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ผู้สื่อข่าวถามว่า หากคนร้ายต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.พัชรวาทย้ำว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย หากคนร้ายต่อสู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องป้องกันตัว เป็นเรื่องของวิสามัญฆาตกรรมตามปกติ

ด้าน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. กล่าวว่า

ได้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาตลอดว่า ให้ระมัดระวังเกี่ยวกับคนร้ายที่มักใช้ความรุนแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้มาตรการที่ละเอียดถี่ถ้วน มีการตั้งด่านตรวจค้นอย่างถี่ยิบตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ขณะเดียวกัน ให้ทำงานเชิงรุกมากขึ้น พยายามเดินเข้าไปหาปัญหา อย่ารอให้ปัญหาเข้ามาหา ส่วนผู้ใต้บังคับบัญชาก็ไม่ได้ทอดทิ้ง กรณี พ.ต.ท.ภูษิต บช.น.เตรียมเสนอสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอขั้นพิเศษให้ด้วย
 

สำหรับอาการบาดเจ็บของ รอง ผกก.ฝีมือดีที่ตกเป็นเหยื่อกระสุนคนร้ายแก๊งยานรกนั้น นพ.เกริกยศ ชลายนเดชะ ผู้อำนวยการ รพ.พญาไท 1 แถลงว่า อาการทั่วไปถือว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว

พ.ต.ท.ภูษิตถูกยิงเข้าที่แขนซ้าย 1 นัด กระสุนทะลุเข้าช่องท้องทำให้ลำไส้เล็กทะลุ 4 จุด นอกจากนี้ ยังพบกระดูกข้อเท้าซ้ายแตก คณะแพทย์ผ่าตัดรักษาจนอาการทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ กระดูกที่แขนซ้าย และขาซ้ายแพทย์ใช้เหล็กดามไว้ ส่วนกระสุนที่ฝังอยู่กระดูกสันหลังบั้นเอวข้อที่ 4 คณะแพทย์พิจารณาแล้วเห็นว่า หากผ่าออกจะมีความเสี่ยงและเกิดผลเสียมากกว่า เพราะอยู่ใกล้เส้นเลือดใหญ่ หากไม่เอาออกก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนไข้ คาดว่าอีก 2 วัน คนไข้สามารถออกจากห้องไอซียู และอีกประมาณ 2-3 เดือนแพทย์จะอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้

ส่วนการติดตามผู้ต้องหาร่วมแก๊งที่เหลืออีกคน ปรากฏว่า นายธนาเดช สุขปัญญา อายุ 36 ปี ได้พานายวรวรรณ สุขปัญญา อายุ 23 ปี น้องชาย

อยู่บ้านเลขที่ 275 ถนนจักรพรรดิพงษ์ แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.เข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 หลังจากพนักงานสอบสวน สน.พญาไท นำหลักฐานขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับไปก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมง ทั้งนี้ นายวรวรรณให้การว่า รู้จักกับนายจิตติโชตน์ โชคชัย อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาที่ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่นาน ก่อนเกิดเหตุมายืมรถ จยย.ของตนอ้างว่าจะไปหาเพื่อน ตนไม่ไว้ใจจึงขอซ้อนท้ายไปด้วย ไม่ ทราบว่านายจิตติโชตน์พกปืนและพาซ้อนท้ายไปติดต่อซื้อยาบ้าย่านเกียกกาย แต่ไม่สามารถซื้อได้ ขากลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิตไล่ตามมา นายจิตติโชตน์พยายามขี่หนีจนถึงที่เกิดเหตุถูกตำรวจจราจรล็อกคอจนรถ จยย.ล้ม ตนได้อาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านพี่ชายย่านบางขุนนนท์ ขอยืนยันว่าไม่ได้ร่วมก่อเหตุ และชกต่อยเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยอมรับว่าติดยาบ้า และเคยถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาบ้า ท้องที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา เมื่อปี 49

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ร่วมกันต่อสู้ ขัดขวางเจ้าพนักงาน

โดยมีหรือใช้อาวุธปืน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ด้วย เนื่องจากผลการตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง ต่อมาเที่ยงวันเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว. มหาดไทย ได้เดินทางไปเยี่ยม พ.ต.ท.ภูษิต วิเศษคามินทร์ ที่โรงพยาบาล พร้อมมอบเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ โดย ร.ต.อ.เฉลิมได้กล่าวชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ อย่างกล้าหาญของ พ.ต.ท.ภูษิต สมเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ก่อนเดินทางไปร่วมสอบปากคำนายจิตติโชตน์ โชคชัย และนายวรวรรณ สุขปัญญา 2 ผู้ต้องหาที่ สน.พญาไท และยังกล่าวตักเตือนให้ผู้ต้องหากลับตัวกลับใจเป็นคนดี ไม่ให้ออกมาก่อเหตุลักษณะนี้อีก