โจรใจบาปฆ่าโหดเจ้าอาวาสวัย 82 หมกสวนข้างกุฏิที่อุดรธานีสภาพโดนจอบตีที่ท้ายทอย-แผ่นหลังมรณภาพสยอง ในมือขวายังกำมีดปังตอ ตำรวจมุ่งปมโดนฆ่าชิงทรัพย์ หรือปมขัดแย้งทุบรูปปั้นยักษ์ที่ซุ้มประตู ของอดีตเจ้าอาวาสคนก่อนที่สร้างไว้ จนเกิดเป็นกรณีพิพาทเรียกค่าเสียหาย 2 หมื่นบาท ตร.เร่งสอบพยานหาหลักฐานตามจับฆาตกรโหดแล้ว
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 5 พ.ค. ร.ต.ท.ก้องภากิจ พุฒิโชคธนัช ร้อยเวร สภ.เมืองอุดรธานี
รับแจ้งมีเหตุพระถูกฆ่าตายภายในวัดศรีสุข หรือวัดบ้านธาตุโพน ทอง ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และพร้อมด้วยพล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ. ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ณัฐนนท์ ประชุม รองผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.อุดร ธานี พ.ต.ท.กิตติพงษ์ จิตรคาม สว.สส. พ.ต.ต.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ สว. ร.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย รองสว. แพทย์เวรร.พ.ศูนย์อุดรธานี เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเมธาธรรมสถานรุดไปสอบสวน
พบว่าที่เกิดเหตุอยู่ทางด้านทิศเหนือของวัด
ใกล้กับกุฏิเจ้าอาวาสซึ่งเป็นสวนป่า ข้างต้นยางนาพบศพพระอาจารย์สุข จิตวังโส อายุ 82 ปี เจ้าอาวาสวัดศรีสุข ซึ่งเป็นพระสายธรรมยุต สภาพศพนอนหงาย จีวรด้านบนหลุดมีรอยเปื้อนเลือด มือขวายังกำมีดปังตอ มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ท้ายทอยโดนจอบทุบหัว และแผ่นหลังใกล้หัวไหล่ซ้าย แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง ใกล้กันพบจอบเปื้อนเลือดตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และตรวจสอบภายในกุฏิซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร ไม่พบสิ่งผิดปกติ
อำมหิต-ฆ่าสมภาร จอบทุบหัว ทิ้งศพอนาถ-ข้างกุฏิ
นายสี เพียอินทร์ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.6 บ้านธาตุโพนทอง และเป็นมัคนายกวัด ให้การว่า
ตนและพระอาจารย์สุขสนิทสนมกันมาตั้งแต่ยังเป็นฆราวาสด้วยกัน พระอาจารย์สุข จิตวังโส เดิมชื่อนายสุข สุขประภา อุปสมบทมา 18 พรรษาแล้ว จนได้เป็นเจ้าอาวาส ปกติพระอาจารย์สุขจะออกบิณฑบาตในช่วง 6 โมงเช้า ตนจะทำหน้าที่รับข้าวปลาอาหารที่ญาติโยมใส่ล้นบาตร อยู่ภายในบริเวณถนนในหมู่บ้าน เพื่อนำกลับมาส่งที่วัด และเช้าวันเดียวกันนี้ไม่เห็นพระอาจารย์สุขออกมาบิณฑบาต คงมีเพียงพระลูกวัด 2 รูปที่ออกบิณฑบาตอีกสาย จึงคิดว่าต้องเกิดเรื่องร้ายขึ้นอย่างแน่นอน จึงรีบกลับมาที่วัด แต่ไม่พบพระอาจารย์สุขอยู่ในกุฏิ พบประตูเปิดทิ้งไว้ จึงออกเดินตามหา รอบๆ กุฏิ กระทั่งพบว่ากลายเป็นศพอยู่ในสวนป่า จึงแจ้งให้ญาติๆ ทราบ และตรวจสอบภายในกุฏิ ซึ่งไม่แน่ใจว่าพระเครื่องมีค่าหายไปกี่องค์
ด้านนายอนันต์ สุขประภา อายุ 57 ปี บุตรชายพระอาจารย์สุข กล่าวว่า
หลวงพ่อกำลังบูรณะวัดด้วยการสร้างซุ้มประตูใหม่ โดยรื้อถอนสิ่งก่อสร้างเดิมออกหมด ไม่มีศัตรู จะมีก็เพียงกรณีพิพาทกับพระถาวร วัดบ้านโนนชมพู บ้านอีเลี่ยน ซึ่งอดีตเคยจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีสุข และเป็นผู้สร้างยักษ์ปูนปั้น 2 ตนไว้หน้าประตูทางเข้าวัด แต่เมื่อจำเป็นต้องทุบทิ้งจึงมีการเรียกร้องค่าช่างจำนวน 2 หมื่นบาท ซึ่งหลวงพ่อก็พร้อมจะจ่ายคืนให้
พ.ต.ท.ณัฐนนท์ ประชุม กล่าวว่า ชุดสืบสวนเร่งหาพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด และตั้งไว้ 2 ประเด็นหลัก
โดยแบ่งชุดสืบสวนออกเป็น 2 ทีม ทีมแรกให้พ.ต.ต.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ เป็นหัวหน้าทีม สืบสวนประเด็นฆ่าชิงทรัพย์ และให้ร.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย เป็นหัวหน้าทีมสืบสวนประเด็นขัดแย้งเรื่องการก่อสร้างซุ้มประตูวัด สำหรับประเด็นฆ่าชิงทรัพย์ได้เรียกพยานที่เป็นคนงานก่อสร้างซุ้มประตูวัดมาสอบสวน และพบว่ายังมีอีก 2 คนที่หายไปหลังเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังเรียกตัววัยรุ่นที่น่าสงสัย ที่มาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้วัดก่อนเกิดเหตุมาทำการสอบสวนด้วย โดยสงสัยว่าคนร้ายอาจจะบุกเข้ามาขโมยทรัพย์สิน แต่หลวงพ่อมาเห็นเสียก่อนจึงเกิดการต่อสู้กัน
พ.ต.ท.ณัฐนนท์กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นกรณีพิพาทการก่อสร้างซุ้มประตูวัดนั้น ได้สอบปากคำพระครูวรรณะ เจ้าอาวาสวัดป่าหนองแก รองเจ้าคณะอำเภอเมืองอุดรธานี
ซึ่งยอมรับว่ามีกรณีพิพาทเรื่องการรื้อทุบสร้างซุ้มประตูวัดจริง โดยก่อนหน้านี้พระอาจารย์ถาวร วัดโนนชมพู อดีตเจ้าอาวาสว่าจ้างช่างปั้นปูนรูปยักษ์ 2 ตนไว้ที่ทางเข้าวัดในราคา 2 หมื่นบาท ต่อมาพระอาจารย์สุขบูรณะซ่อมแซมรื้อสร้างซุ้มประตูใหม่ มีความจำเป็นที่จะต้องรื้อทุบยักษ์ 2 ตนทิ้ง แต่ถูกพระอาจารย์ถาวรคัดค้านว่าเป็นสิ่งไม่ดี ไม่ควรทำ จึงเกิดกรณีพิพาทขึ้น ซึ่งเรื่องนี้จะเรียกสอบพระอาจารย์ถาวรด้วย เพื่อคลี่คลายคดีการสังหารในครั้งนี้