หื่นหอพัก- ภาค 5 จับกุมนายณัฐรินทร์ วังแก้ว อายุ 31 ปี บุกหอพักทั่วเมืองลำพูน ใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์เหยื่อ ก่อเหตุมาแล้ว 16 ครั้ง ข่มขืนเหยื่อสาว 5 ราย ล่าสุดถ่ายคลิปแบล็กเมล์ ตำรวจเช็กสัญญาณมือถือก่อนโดนรวบ เมื่อวันที่ 4 พ.ค. |
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 พ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ ร่วมแถลงจับกุมตัวนายณัฐรินทร์ วังแก้ว มีฉายาว่า
"นัส วิสต้า" อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 2 ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้สาวตามหอพัก ชิงทรัพย์ ข่มขืน และถ่ายวิดีโอคลิปแบล็กเมล์เหยื่อ พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .38 กระสุน 2 นัด โทรศัพท์มือถือ คีย์การ์ดและกุญแจห้องพักของผู้เสียหาย และทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้จากการชิงทรัพย์ โดยจับกุมตัวได้ที่ริมถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่
พล.ต.ท.ธีรศักดิ์ เปิดเผยว่า
ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมใช้อาวุธปืนเข้าจี้ชิงทรัพย์ตามหอพักต่างๆ ในเขต จ.ลำพูน และข่มขืนเจ้าของห้องพักที่เป็นผู้หญิงด้วย โดยใช้อาวุธปืนจี้บังคับ พร้อมทั้งถ่ายคลิปมือถือไว้แบล็กเมล์สาวเจ้าของห้อง ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว 16 ครั้ง ข่มขืนสาวเจ้าของห้องพัก 5 ราย ขอให้ผู้เสียหายที่เคยถูกผู้ต้องหารายนี้ชิงทรัพย์ข่มขืน และแบล็กเมล์ ขอให้มาดูของกลาง และแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ สภ.เมือง จ.ลำพูน
ผบช.ภาค 5 กล่าวว่า
ล่าสุดผู้ต้องหาก่อเหตุเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น. ใช้อาวุธปืนเข้าไปจี้บังคับเหยื่อสาวที่หอพักฝ้ายคำแลนด์ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน และข่มขืน ก่อนชิงสร้อยข้อมือทองคำหนัก 50 สตางค์ ต่อมาคนร้ายโทรศัพท์มาข่มขู่ผู้เสียหายว่า ได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ขณะร่วมเพศกับผู้เสียหาย ขอเงินจำนวน 10,000 บาท หากไม่ได้ จะนำคลิปเผยแพร่ พร้อมทั้งนัดให้มาหาอีกครั้ง เพื่อข่มขืนซ้ำ ผู้เสียหายจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจ สภ.เมือง จ.ลำพูน ทางตำรวจตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของคนร้ายที่ติดต่อกับเหยื่อ จนทราบแน่ชัดและสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
พล.ต.ท.ธีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า
ส่วนสาเหตุที่ผู้ต้องหากระทำการตามหอพักในจ.ลำพูน เสียส่วนมาก เนื่องจากหอพักส่วนใหญ่ในจ.ลำพูน ไม่ติดกล้องวงจรปิด คนร้ายจึงฉวยโอกาสกระทำการก่อเหตุ อยากให้เจ้าของหอพักติดตั้งกล้องวงจรปิดเสีย นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ตำรวจ จ.ลำพูน สืบสวนสอบสวนขยายผลอีกว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุในจ.เชียงใหม่ ด้วยหรือไม่
ด้านนายณัฐรินทร์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ว่าก่อเหตุทั้งหมด 16 ครั้ง ได้ทรัพย์สินจำนวนมาก และข่มขืนเหยื่อสาวมาแล้ว 5 ราย ก่อนหน้านี้เคยประกอบอาชีพค้าขายกับภรรยา แต่ไปไม่รอดจึงเลิก ส่วนฉายาที่ได้ มาจากเล่นสนุ้กเกอร์เก่ง และเล่นอยู่ที่โต๊ะสนุ้กเกอร์วิสต้าในตัวเมืองเชียงใหม่ สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ขโมยมาจากหอพักไม่มีชื่อหน้าสถานีขนส่งช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อเดือนมี.ค.2550 และก่อคดีชิงทรัพย์ตามหอพักเรื่อยมา ขณะที่เหยื่อรายล่าสุด ได้ถ่ายคลิปมือถือขณะข่มขืนด้วย ขู่จะนำภาพไปเผยแพร่ และเรียกร้องเงินจากเหยื่อ กระทั่งถูกจับกุม ส่วนภาพในคลิปมือถือลบไปหมดแล้ว ทุกคดีทำคนเดียว ภรรยาไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด