เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 เม.ย. ร.ต.ท.สุรชัย ท่างาม ร้อยเวร สภ.เมืองแพร่ รับแจ้งมีเหตุคนถูกทำร้ายเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 60 บ้านหนองห้า หมู่ 5 ต.แม่คำมี อ.เมืองแพร่ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว ผบก.ภ.จ.แพร่ พ.ต.อ.สุกิจ เศรษฐิยานนท์ รอง ผบก. พ.ต.อ.ธีรพล อินทรลิบ ผกก.สภ.เมืองแพร่ แพทย์เวร รพ.แพร่ หน่วยกู้ภัยแพร่ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จำนวนหนึ่ง
กะซวก-ปาดคอ! ผัวฆ่าเมียผีพนัน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบร่างผู้เสียชีวิต
ทราบชื่อนางสุดารัตน์ ลือโฮ้ง อายุ 28 ปี เจ้าของบ้าน ลักษณะศพเปลือยมีผ้าห่มคลุมศพอยู่ ลำคอมีบาดแผลถูกเชือดด้วยของมีคมหลอดลมขาด ตามร่างกายมีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมเป็นแผลเหวอะหวะนับได้รวม 15 แผล ใกล้กันพบมีดปลายแหลมเปื้อนเลือดยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้สังหารจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบภายในห้องนอนอย่างละเอียดยังพบร่องรอยการต่อสู้ ข้าวของล้มระเนนระนาด และรอยเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณฝาผนังและพื้นห้อง นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.แพร่ ก่อนหน้าแล้ว 1 ราย ทราบชื่อนายบุญยก ลือโฮ้ง อายุ 43 ปี สามีของนางสุดารัตน์ ลำคอมีบาดแผลถูกเชือดด้วยของมีคมอาการเป็นตายเท่ากัน
สอบปากคำพยานเป็นญาติพี่น้องที่มีบ้านอยู่ ละแวกใกล้กันได้ความว่า
ทั้งคู่เพิ่งจะอยู่กินกันมาประมาณ 6 เดือน โดยนายบุญยกยึดอาชีพตีมีดขาย มีแผงขายมีด อยู่ริมถนนยันตรกิจโกศล อ.เมืองแพร่ ส่วนภรรยาชอบเล่นการพนัน ช่วงที่ผ่านมาทั้งคู่มักจะมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องที่นางสุดารัตน์ ภรรยา ติดการพนันจนต้องไปกู้เงินนอกระบบมาใช้หนี้เสียดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาท ทำให้รายได้จากการขายมีดไม่พอจะใช้หนี้ ช่วงเช้าวันเกิดเหตุญาติพี่น้องได้ยินเสียงทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันอีกครั้ง จับใจความได้ว่านายบุญยกต่อว่านางสุดารัตน์เรื่องที่หายตัวไปทั้งคืนและไปก่อหนี้ไว้มากมายจนไม่สามารถตามใช้คืนได้ หลังจากนั้นได้ยิน เสียงนางสุดารัตน์ร้องลั่นคล้ายคนถูกทำร้าย เมื่อญาติวิ่งไปดูพบว่านางสุดารัตน์ถูกแทงเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนนายบุญยกนอนหายใจรวยรินจมกองเลือดจึงรีบนำส่ง รพ.
ในชั้นต้นตำรวจประมวลเหตุการณ์แล้วเชื่อว่า
มือมีดคือนายบุญยกเนื่องจากไม่พอใจที่นางสุดารัตน์หายไปทั้งคืนและยังก่อหนี้สิ้นอีนุงตุงนังจนตามใช้คืนไม่ไหว ทำให้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรงจนระงับอารมณ์ ไม่อยู่ คว้ามีดกระหน่ำแทงนางสุดารัตน์แล้วจับปาดคอซ้ำหลอดลมขาดเสียชีวิต ก่อนจะใช้มีดเล่มเดียวกันปาดคอตัวเองหมายฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด แต่ญาติมาประสบเหตุนำนายบุญยกส่ง รพ. แพทย์ช่วยเหลือไว้ได้ทัน