พล.ต.ท.อัศวิน สั่งการให้ พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.หน.ศส.บช.น. ตั้งศูนย์ปฏิบัติการสั่งการและควบคุมการสืบสวน ประกอบกำลัง ศส.บช.น. เข้าร่วมกับ กก.สส.บก.น.6 และฝ่ายสืบสวน สน.พลับพลาไชย 2
ออกแกะรอยหาข้อมูลกลุ่มผู้ต้องสงสัย กระทั่ง ด.ต.ฉันทวัฒน์ รุ่งกิจวัฒนา ผบ.หมู่ ศส.บช.น. ได้เบาะแสจากสายลับว่า นายสมชาย ศรีอำพรรณ์ อายุ 31 ปี อยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัยนำของกลางบางส่วนไปปล่อยขายร้านรับซื้อย่านสะพานควายและมีฐานะร่ำรวยผิดปกติ เพิ่งซื้อรถเก๋งคันใหม่ป้ายแดงด้วยเงินสด ทีมสืบสวนเลยตัดสินใจล็อกตัวมาจากริมถนนพระราม 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. ไปสอบปากคำรับสารภาพว่า ร่วมกับพวกเข้าโจรกรรม ทรัพย์สินในบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างช่วงวันหยุดสงกรานต์จริง
ต่อมา ชุดสืบสวน ศส.บช.น. นำโดย พ.ต.อ.ธัมรงค์ วงศ์แป้น
ผกก. พ.ต.ท.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผกก. พ.ต.ท.อรรถพร สุริยเลิศ รอง ผกก. พ.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผกก. พ.ต.ต.คัมภีร์ พรหมสนธิ สว. พ.ต.ต. คมสันต์ วงศ์สม สว. และ ร.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ รอง สว.กับพวก ได้แยกย้ายกันออกติดตามผู้ต้องหาที่เหลือ ก่อนจับกุมนายวันชัย หรือเก่ง เหรียญตระกูล บริเวณสถานีรถไฟหลักสี่ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. นายสมบัติ อยู่เจริญ จากหน้าสำนักงานป่าไม้ อ.เมืองนครสวรรค์ นายสมชาย หรือตี๋อ่าง วิมุตสี ที่อาคารรุ่งโรจน์แมนชั่น ซอยกิ่งจันทร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. นายนาท หรือตึ๋ง สีเป้ กับนายพรมมา หรือเล็ก บุญครอง บริเวณริมถนนสักกระโพหลุ่ม บ้านโนนเขา อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี และนาย พิสิทธิ์ หรือเซี๊ยะ อรรถพงศ์เมธี เจ้าของร้านรับซื้อของเก่าย่านสะพานควาย
ทั้งหมดยอมรับสารภาพว่า นายสุชัย หรือเฮีย พะนอจันทร์ อายุ 56 ปี เจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้างเหมือนกับผู้เสียหาย
แต่ช่วงหลังธุรกิจไม่ดีขาดทุน มักจะมายืมเงินนายประเสริฐเป็นประจำ วางแผนทั้งหมด เมื่อรู้ว่านายประเสริฐไม่อยู่บ้าน พาครอบครัวไปต่างประเทศหลายวันจึงให้นายสมชาย ศรีอำพรรณ์ ที่พักอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุหาสมัครพรรคพวกเข้าไปลักทรัพย์เมื่อวันที่ 14 เม.ย. โดยปีนป้ายโฆษณาที่อยู่ด้านข้างขึ้นไปบนดาดฟ้า ตัดเหล็กดัดหน้าต่างเข้าในบ้าน รื้อค้นทรัพย์สิน และงัดตู้เซฟ ได้เงินสด 1 ล้านบาท ของมีค่าอีกหลายรายการ แต่ยังมีทรัพย์สินเหลือจำนวนไม่น้อย ทั้งหมดจึงย้อนกลับมาขนอีกรอบในวันรุ่นขึ้น ก่อนถ่าย อุจจาระทิ้งไว้ที่พื้นเอาเคล็ดแล้วนำของกลางไปตระเวนขายแบ่งเงินแยกย้ายกันหลบหนี มีผู้ต้องหาที่เหลือร่วมแก๊งอีก 2 คน นอกจากนายสุชัย ผู้บงการแล้ว คือ นายศุภเสกข์ หรือกอล์ฟ ไชยเกต อายุ 21 ปี และนายชาตรี หรือตี่ฟู ธรรมรักษา อายุ 37 ปี