สองแม่ลูกร้อง เจ๊ปิ๊ก อดีตผัวหึงโหดสาดน้ำกรด-ตามราวีขู่ฆ่า
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2549 17:04 น.
ผู้เป็นแม่พาลูกสาวนั่งเครื่องบินจากภูเก็ต เข้าร้องเรียน เจ๊ปิ๊ก ช่วยคุ้มครองความปลอดภัย หลังถูกอดีตสามีสาดน้ำกรดรดหัว ใบหน้าและลำตัวจนบาดเจ็บสาหัส แถมยังตามราวีไม่เลิก โทรศัพท์ขู่ฆ่าไม้เว้นแต่ละวัน ด้าน เจ๊ปิ๊ก อ้าแขนรับให้ความช่วยเหลือทันที ส่งเรื่องให้ ผู้การแจ๊ส ล่าอดีตผัวตัวแสบ บี้ ผกก.กระทู้ล่าตัวอีกทาง ส่วนเหยื่อน้ำกรดส่งเข้ารักษาบาดแผลและทำศัลยกรรมที่ รพ.ยันฮี เยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ
วันนี้ (26 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี นางสุขศรี เรืองรัตน์ อายุ 44 ปี พา น.ส.ทัศญา วานิช อายุ 24 ปี บุตรสาว นั่งเครื่องบินเดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต เข้าร้องเรียนต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่ น.ส.ทัศญา บุตรสาวถูกสามีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ใช้น้ำกรดสาดใส่เข้าศีรษะ ใบหน้าและลำตัวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซ้ำยังตามข่มขู่คุกคามตลอดเวลาจวบจนปัจจุบัน จึงขอให้นางปวีณาให้การช่วยเหลือประสานตำรวจติดตามจับกุมตัวสามี น.ส.ทัศญา มาดำเนินคดี และช่วยเหลือในการรักษาบาดแผลด้วย
เบื้องต้น น.ส.ทัศญา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ได้อยู่กินกับนายบวรวิวัฒน์ เอียดตลอด อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 2 ต.หลักช้าง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช โดยไม่ได้จดทะเบียนด้วย และมีบุตรสาวที่ปัจจุบันอายุ 3 ขวบ 1 คน โดยในช่วงที่อยู่กินกันสามีเริ่มมีอาการขี้หึง และหึงหวงอย่างออกนอกหน้าจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายตน เนื่องจากเกรงว่าจะไปมีชายอื่น และเกิดปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันมาตลอด โดยตนเป็นฝ่ายถูกทำร้ายร่างกายอย่างสม่ำเสมอ หนักที่สุดเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ถูกนายบวรวิวัฒน์สามีพยายามฆ่าโดยใช้สายเตารีดรัดคอแต่ก็รอดมาได้ หลังจากนั้นยังมีปัญหามาเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อประมาณปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา นายบวรวิวัฒน์ถึงขั้นบุกเข้าไปหาเรื่องถึงที่ทำงานขณะเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารอยู่ภายในโรงแรมป่าตอง โดยนายบวรวิวัฒน์ตรงเข้ามาทำร้ายร่างกายด้วยการใช้มีดคัตเตอร์พยายามกรีดหน้าแต่ก็หลบทัน ทว่าใบมีดไปบาดถูกบริเวณรูหูจนได้รับบาดเจ็บ และตั้งแต่นั้นมาก็ได้แยกทางกันอยู่ โดยตนได้ไปอาศัยพักที่บ้านยายเลขที่ 29/2 ถนนพิสิฐกรณี ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต
ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา นายบวรวิวัฒน์มาหาที่บ้านยาย จากนั้นเรียกดิฉันออกไปพูดคุยตกลงปัญหากันที่หน้าบ้าน โดยดิฉันยืนกรานไปว่าหากทำร้ายร่างกายกันอย่างนี้ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ จึงขอเลิกทางและต่างคนต่างอยู่ ซึ่งนายบวรวิวัฒน์ก็ยินยอมเลิกด้วยดี แต่เมื่อดิฉันหันหลังกลับกำลังจะเดินเข้าบ้าน ก็ถูกนายบวรวิวัฒน์เอาน้ำกรดที่เตรียมมาสาดใส่ตั้งแต่บริเวณศีรษะลงมาถูกใบหน้า และลำตัว มีอาการปวดแสบปวดร้อน ทุรนทุราย ญาติที่ประสบเหตุได้นำตัวส่งโรงพยาบาลวชิรภูเก็ต ส่วนนายบวรวิวัฒน์ก็หลบหนีไป น.ส.ทัศญา กล่าว
น.ส.ทัศญา กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุ นางสุศรีมารดาได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.โสภณ บริรักษ์ สารวัตรเวร สภ.อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งต่อมาตำรวจได้ออกหมายจับนายบวรวิวัฒน์ ตามหมายจับเลขที่ 268/2549 ลงวันที่ 6 พ.ค.49 ในข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในขณะที่นายบวรวิวัฒน์ได้หลบหนีไป และตลอดเวลาที่อยู่ระหว่างการหลบหนี นายบวรวิวัฒน์ยังพยายามตามราวีไม่เลิก ได้โทรศัพท์มาขู่ฆ่าอยู่ตลอดเวลา บางครั้งได้ส่งข้อความเข้ามาข่มขู่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่เลิกพฤติกรรม และเมื่อปรึกษากับมารดาแล้วเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงเดินทางจาก จ.ภูเก็ต เข้ามาร้องเรียนกับนางปวีณา ขอความช่วยเหลือให้ช่วยติดตามจับกุมนายบวรวิวัฒน์ และขอความช่วยเหลือในเรื่องการรักษาพยาบาลบาดแผลต่อไปด้วย
ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส. และพ.ต.อ.พีระพล ทิพย์เจริญ ผกก.สภ.อ.กระทู้ ท้องที่เกิดเหตุ ให้เร่งติดตามจับกุมนายบวรวิวัฒน์มาดำเนินคดี โดยล่าสุดทราบว่านายบวรวิวัฒน์ยังคงยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ที่บ้านเกิด ส่วนเรื่องการรักษาพยาบาลให้กับ น.ส.ทัศญานั้น จะได้ประสานและพาไปโรงพยาบาลยันฮี ทำการรักษาบาดแผลและทำศัลยกรรมต่อไป