โจรสลัดควบเรือสปีดโบ๊ต ปล้นเรือน้ำมันในอันดามัน

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 27 เม.ย. น.อ.รณภพ กาญจนพันธุ์ ผู้อำนวยการกองยุทธการ กองเรือภาคที่ 3 กองเรือยุทธการ

ได้รับแจ้งจากนายพินิจ รัตนพันธ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 7 ต.ควนเมา อ.รัษฎา จ.ตรังกัปตันเรือบรรทุกน้ำมันภัทรวาริน 2 ว่า ถูกคนร้ายปล้นกลางทะเลอันดามัน หลังเกิดเหตุนำเรือมาจอดลอยลำอยู่ ห่างจากท่าเรือน้ำลึก ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ตราว 3 กิโลเมตร นายพินิจให้รายละเอียดว่า นำเรือบรรทุกน้ำมันภัทรวาริน 2 บรรทุกน้ำมัน Jet A-1 หรือน้ำมันที่ใช้ กับเครื่องบินกว่า 2 ล้านลิตรจากโรงกลั่นน้ำมันเออาร์ซีที่มาบตาพุด จ.ระยอง จะไปส่งคลังน้ำมัน ปตท. ที่อ่าวมะขามจ.ภูเก็ต ออกจากโรงกลั่นวันที่ 22 เม.ย. จะถึงคลังน้ำมัน ปตท.ภูเก็ตเช้าวันที่ 27 เม.ย.

โดยใช้เส้นทางเดินเรือสากลตามปกติช่วงเที่ยงคืนวันที่ 25 เม.ย.

ขณะแล่นอยู่กลางทะเลอันดามัน บริเวณละติจูดที่ 01-31.5 ลิปดาเหนือ ลองจิจูดที่ 104-24.4 ลิปดาใต้ เดินตรวจรอบเรือแล้วเข้ามา ภายในห้องหัวเรือเพื่อเขียนรายงานและคอยสังเกตการณ์ เพราะแล่นเข้าน่านน้ำสิงคโปร์ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีเรือคับคั่ง ระหว่างนั้นได้ยินเสียงเรียกจึงหันไปมอง เห็นนายจรัส สีมาตย์ หนึ่งในลูกเรือถูกมัดมือ มีชาย 2 คนสวมหมวกไหมพรมปิดหน้าและมีปืนทั้งคู่ใช้ปืนจ่อหัวนายจรัสคนร้ายคนหนึ่งเข้ามาใช้ปืนจ่อหัวตนและจับมัดมือก่อนสั่งให้เบาเครื่องยนต์ จึงบอกไปว่าเบาไม่ได้ ต้องแจ้งช่างยนต์ล่วงหน้า เพื่อเปลี่ยนน้ำมันเชื้อเพลิงก่อนมิเช่นนั้นเครื่องยนต์จะเสียหาย คนร้ายไม่พอใจใช้ด้ามปืนตีหัวจึงต้องยอมเบาเครื่องลง ระหว่างนั้นนายชัยเดช บัวเจริญ ตำแหน่งต้นกลเรือเข้ามาในห้องเลยถูกจับมัดไว้ที่สะพานเดินเรือ
 

ขณะเดียวกัน นายไชยยศ บุญประดิษฐ์ ต้นเรือ ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ลดความเร็วลงคิดว่าเครื่องยนต์ ขัดข้องจึงออกจากห้องพักมาดู

ถูกคนร้ายที่อยู่ด้านนอกห้องลากมามัดที่สะพานเดินเรือ ส่วนลูกเรือที่เหลืออีก 9 คนที่นอนอยู่ในห้องถูกคนร้ายอีกชุดหนึ่งใช้ปืนจี้พาออกมามัดรวมกันที่สะพานเดินเรือทั้งหมด และคนร้ายถามว่าบรรทุกน้ำมันอะไรมา ได้ตอบไปว่าเป็นน้ำมันที่ใช้กับเครื่องบินไม่ใช่น้ำมันดีเซล คนร้ายทั้งหมดต่างหันไปมองหน้ากัน หนึ่งในกลุ่มที่คาดว่าเป็นหัวหน้าสั่งให้ลูกน้องทั้งหมดเข้าไปกวาดทรัพย์สินตามห้องพัก มีคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก 4 เครื่อง เงินสดกว่า 120,000 บาท นาฬิกา 2 เรือน ราคากว่า 40,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 12 เครื่องสร้อยคอทองคำหลายเส้นหนักรวม 12 บาท มูลค่า 170,000 บาท วิทยุรับส่ง 3 เครื่อง มูลค่ากว่า 50,000 บาท แล้วหนี ไปลงเรือสปีดโบ๊ตที่มีพวกอีก 2 คนจอดเทียบด้านข้างแล่นหนีไป


สำหรับคนร้ายมีทั้งหมด 8 คน ขึ้นมาบนเรือ 6 คน พร้อมอาวุธปืนและมีด รออยู่ในเรืออีก 2 คน

ส่วนใหญ่ใส่กางเกงขายาว สวมเสื้อแจ๊กเกต บางคนใส่กางเกงยีนขาสั้นรองเท้าผ้าใบ แต่สวมหมวกไหมพรมคลุมหน้าทุกคนภาษาที่ใช้ขณะปล้นเป็นภาษาอังกฤษ แต่สื่อสารกันในกลุ่มคล้ายภาษาอินโดนีเซีย ส่วนเรือสปีดโบ๊ตที่คนร้ายใช้ยาวประมาณ 20 ฟุต ใช้เครื่องยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าขนาด 300 แรงม้า 2 เครื่อง
 

หลังจากสอบสวนรายละเอียดแล้ว น.อ.รณภพ กาญจนพันธุ์ ผู้อำนวยการกองยุทธการ กองเรือภาคที่ 3 นำนายพินิจเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองภูเก็ต ขณะเดียวกันได้ รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อหาทางป้องกันต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์