ฆ่าทุบหัวสาวทอมบอยวัย 17ปี
หมกไร่อ้อยด่านช้าง สุพรรณบุรี สอบแม่เหยื่อพบเบาะแส ขี่จยย.ออกไปกับ 2 เพื่อนวัยโจ๋ ตร.ตามไปรวบได้ที่บ้าน หนุ่มอายุ 15 เปิดปากรับสิ้น ซัดทอดเพื่อนอีกคนวัย 17 วางแผน ฆ่า ต้องการชิงมอเตอร์ไซค์ สบโอกาสคว้าไม้กระหน่ำตี แต่ตนเองไม่เกี่ยว อ้างห้ามปรามแล้ว บุกล่าตัวถึงบ้าน ไหวทันหนีไปได้ ล้อมป่าละเมาะล่า
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 เม.ย. พ.ต.ท.วรวุฒิ กาญจนวณิชย์ พนักงานสอบสวน (สบ3) สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวถูกหมกอยู่ในไร่อ้อย ริมถนนสายบ้านบ่อยาง-บ้านหนองโดน หมู่ 11 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ. เสริมศักดิ์ สกุลวิวรรธน์ ผกก.สภ.ด่านช้าง, พ.ต.ท.สานิต ชินจอหอ รองผกก.สส., พ.ต.ท. วัชรินทร์ วิไลลักษณ์ รองผกก.ป., พ.ต.ต.ชาญ เอี่ยมวิจารณ์ สว.สป., พ.ต.ต.ปัญญา สุวรรณสิงห์ สว.สส. นำกำลังตำรวจ และแพทย์เวร ร.พ.ด่าน ช้าง รุดไปที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.สมาพร น้ำจันทร์ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1068/2 หมู่ 12 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง สภาพศพนอนคว่ำหน้า มีใบอ้อยคลุมร่าง สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์สีดำ มีบาดแผลถูกทุบตีด้วยของแข็งเข้าที่ท้ายทอยจนกะโหลกแตก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วกว่า 30 ชั่วโมง
จากการสอบสวน นางศรีไพร น้ำจันทร์ อายุ 52 ปี แม่ผู้ตายที่เดินทางมาดูศพลูกสาว ให้การว่า
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา มีเพื่อนของลูกสาวเป็นชายวัยรุ่นอายุ 15 ปี บ้านอยู่ ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง และอีกคนเป็นชายวัยรุ่นอายุ 17 ปี บ้านอยู่ ต.นิคมกระเสียว อ.ด่านช้าง มาชวนลูกสาว ซึ่งมีนิสัยเป็นทอมบอย ชอบคบหากับเพื่อนผู้ชาย แล้วพากันไปเที่ยว โดยลูกสาวขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ทะเบียน รตล 883 กทม. ที่เป็นผู้ซื้อให้ หลังจากนั้นก็หายตัวไป ทางบ้านและญาติพี่น้องพยายามติดตามหาก็ไม่พบ กระทั่งมาทราบจากตำรวจว่าถูกฆ่าอยู่ในไร่อ้อย
ต่อมาตำรวจเดินทางไปยังบ้านพักของเพื่อนชายวัยรุ่นอายุ 15 ปี และควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ด่านช้าง กระทั่งยอมเปิดปากรับสารภาพว่า
หลังจากชวน น.ส.สมาพร ออกมาจากบ้านแล้ว เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้จอดรถจักรยาน ยนต์ จากนั้นเพื่อนอีกคนอายุ 17 ปี ใช้ไม้กระหน่ำตีผู้ตายจนล้มคว่ำแน่นิ่ง แล้วลากศพเข้าไปในไร่อ้อย ใช้ใบอ้อยคลุมศพ และล้วงเอาโทรศัพท์มือถือ และขับขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายนำโทรศัพท์มือถือไปทิ้งในคลองชลประทานใกล้กับจุดเกิดเหตุ โดยก่อนหน้าจะลงมือฆ่า เพื่อนบอกว่าต้องการรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ตนเองพูดห้ามปราม แต่ไม่ฟัง และขณะเกิดเหตุได้แต่ยืนดู ไม่มีส่วนร่วมด้วยแต่อย่างใด
จากนั้น พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ สั่งระดมกำลังตำรวจเดินทางไปยังบ้านของผู้ต้องหาหนุ่มวัย 17 แต่ไหวตัวทัน วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะหลังบ้าน ทางตำรวจกระจายกำลังล้อมป่า และพบรถจักรยานยนต์ของ น.ส.สมาพร ผู้ตายจอดอยู่ในบ้าน แต่ถูกแปลงสภาพ จึงยึดไว้เป็นของกลางนำมาที่ สภ.ด่านช้าง ขณะที่ญาติของผู้ต้องหาวัยโจ๋ ติดต่อกับตำรวจว่าจะนำตัวเข้ามอบตัว