ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวันที่ 23 เม.ย. เกิดพายุฝนถล่มในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลรุนแรง
ถนนหลายสายในกรุงเทพฯ ติดขัดอย่างหนักเพราะเป็นเวลาเลิกงานหรือช่วงเวลาเร่งด่วนพอดี ขณะเดียวกัน พ.ต.ต.รังสรรค์ คำสุข สารวัตรเวร สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ริมถนนเทพารักษ์ปากซอยไทรอัมพ์ ถล่มทับคนตายและรถยนต์เสียหายหลายคัน จึงนำกำลังไปตรวจสอบ
พบป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ขนาดกว้าง 12 เมตร ยาว 10 เมตร และสูง 15 เมตร
เป็นป้ายโฆษณาอะไหล่รถจักรยานยนต์ พังถล่มลงมาทับรถยนต์ที่จอดอยู่ในซอยพังเสียหายยับเยิน 3 คัน ประกอบด้วยรถเบนซ์ รุ่น E200 ทะเบียน ศธ 4545 กรุงเทพมหานคร รถเก๋งนิสสัน เซฟิโร่ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน วฐ 5674 กรุงเทพมหานคร และรถปิกอัพอีซูซุ ไม่ทราบทะเบียน ส่วนที่โคนป้ายมรณะพบศพนายฉลาด แก่งวาด อายุ 41 ปี อาชีพขี่รถ จยย.รับจ้างวินปากซอยดังกล่าว ถูกโครงเหล็กป้ายโฆษณาทับร่างเละ นอกจากนั้นมีผู้บาดเจ็บอีกคนถูกนำส่ง รพ.บางพลีก่อนแล้ว คือนายพงษ์สัน ลาภเจริญ อายุ 29 ปี อาชีพขี่ จยย.รับจ้างวินเดียวกัน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีพายุฝนพัดถล่มอย่างหนัก ทำให้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ต่อต้านแรงลมไม่ไหว
เลยพังครืนลงมาทับรถยนต์ที่จอดอยู่ในซอยพังยับเยิน จังหวะเดียวกันผู้ตายวิ่งหนีไม่ทันถูกป้ายยักษ์ทับร่างเละตายสยองดังกล่าว ต่อมานายสมชัย กฤษณะกาญจน์ อายุ 37 ปี เจ้าของป้ายเดินทางเข้าพบพนักงานสวน ให้การว่า ป้ายดังกล่าวก่อสร้างมานานร่วม 2 ปีแล้ว โดยให้บริษัทแห่งหนึ่งเช่าโฆษณาอะไหล่รถ จยย. ซึ่งตนพร้อมรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด จึงบันทึกปากคำไว้เป็นหลักฐาน ก่อนปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อรอรวบรวมพยานหลักฐาน และคุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนภาคกลางพื้นที่ จ.สิงห์บุรี เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนพัดถล่มอย่างหนักนานนับชั่วโมง
ส่งผลให้ต้นยางยักษ์ขนาด 5 คนโอบอายุกว่า 200 ปี ที่วัดกระดังงาบุผาราม หมู่ 8 ต.บางกระบือ อ.เมืองสิงห์บุรี ถูกพายุพัดหักโค่นลงมาทับเมรุเผาศพพังทั้งหลัง มูลค่าความเสียหายราว 2 แสนบาท ขณะที่บ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ ถูกพายุพัดหลังคาสังกะสีปลิวว่อนกว่า 90 หลังคาเรือน แถมเสาไฟหักโค่นไฟฟ้าดับชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก