หวิดซ้ำ54ศพ รถบรรทุกพม่า

หวิดซ้ำรอย คดีพม่าตายในรถ 54 ศพ ตร.ตากจับแรงงานหม่องซุกมาในรถอีก 9 คน

สภาพแออัดยัดเยียดกันมาในรถบรรทุก 6 ล้อ ที่ตบตาตร.ดัดแปลงกระบะเป็นโครงเหล็กทับด้วยกระสอบปุ๋ยเปล่า ช่วงกลางทำเป็นช่องกว้างๆ มีพัดลมเป่ากันความร้อน 3 ตัว ตรวจสอบบางคนมีสภาพอิดโรย เป็นลม จนท.ต้องช่วยปฐมพยาบาลก่อนที่จะคุมตัวไปดำเนินคดี ส่วนที่โคราชจับ 19 แรงงานลาว นั่งปิกอัพยัดเยียดหลบหนีเข้าเมืองเช่นกัน

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 เม.ย. พ.ต.ท.โอภาส คงเมือง รองผกก.หน.สภ.แม่ท้อ อ.เมือง ตาก

สั่งการให้ด.ต.เสาร์ แก้วใจ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม ตั้งจุดสกัดที่บริเวณสามแยกบ้านท่าเล่ ม.5 ต.หนองบัวใต้ อ.เมือง ตาก เพื่อสกัดรถบรรทุกสิ่งผิดกฎหมายที่วิ่งผ่านไปมา บนถนนสายตาก-แม่สอด โดยพบรถยนต์บรรทุก 6 ล้อต้องสงสัย ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 82-6521 นครสวรรค์ จึงเรียกตรวจค้นพบที่ท้ายกระบะดัดแปลงเป็นโครงเหล็ก ช่วงกลางทำเป็นช่องว่างกว้าง 2 เมตร ยาว 3 เมตร สูง 1.20 เมตร ภายในติดพัดลมกันความร้อน 3 ตัว มีน้ำสำหรับดื่ม โครงเหล็กปิดทับด้วยกระสอบปุ๋ยเปล่าที่รับมาจากโรงงานแห่งหนึ่งในอ.แม่สอด แต่ภายในโครงเหล็กอัดแน่นด้วยแรงงานต่างด้าวชาวพม่า เป็นชาย 3 คน หญิง 6 คน รวม 9 คน ซึ่งบางคนเป็นลม บางคนมีสภาพอิดโรย เนื่องจากอากาศร้อนกว่า 41 องศาฯ หวิดเป็นศพเหมือนแรงงานพม่า 54 ศพที่จ.ระนอง เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลจนฟื้นเป็นปกติ ก่อนจะควบคุมตัวนายสงกรานต์ แก้วมาลี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180 ม. 2 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก คนขับรถ พร้อมผู้ต้องหาทั้งหมดส่งร.ต.ต.สิทธิชัย ปัญญาสงค์ ร้อยเวรสภ.แม่ท้อ ดำเนินคดี

สอบสวนนายสงกรานต์ให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขนแรงงานต่างด้าว มาจากชายแดนอำเภอแม่สอด

ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 20,000 บาท พาไปส่งที่โรงงานแห่งหนึ่งในอ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ทำมาแล้วหลายครั้ง สามารถรอดพ้นการตรวจจับ เนื่องจากรถของตนเป็นรถบรรทุกขนส่งสินค้าประจำทางเข้าออกแม่สอดเป็นประจำ สามารถผ่านได้โดยสะดวก จนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว

นางซูจี แรงงานพม่าที่โดนจับ ให้การว่าเคยเดินทางไปทำงานที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัดมาหลายครั้ง

ในแต่ละครั้งเสียค่านายหน้าครั้งละ 12,000 บาท เคยทำงานเป็นลูกจ้างในโรงงานทำลูกชิ้นแห่งหนึ่ง ได้ค่าจ้างเดือนละ 3,000-3,500 บาท ที่ต้องลักลอบเข้ามาทำงานในเมืองไทยเพราะเงินเดือนดี มีงานทำตลอด ดีกว่าอยู่ในประเทศพม่าที่ต้องอยู่อย่างอดๆ อยากๆ


ที่จ.ปราจีนบุรี เวลา 16.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.สมชาย เดชแพ รองผกก.1 ศสส.สตม. นายธิติวัฒน์ ศิริกุลเลิศรัฐ นักวิชาการแรงงาน 7 กระทรวงแรงงาน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

เข้าตรวจค้นบริษัท ไฮเออร์อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ภายในเขตอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี ถนน 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จับกุมแรงงานพม่าจำนวน 74 คน สอบสวนทั้งหมดรับสารภาพว่ามาทำงานได้ค่าจ้างวันละ 155 บาท จึงควบคุมตัวดำเนินคดีต่อไป

อีกรายที่จ.นครราชสีมา เวลา 06.10 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.นิธิศ บุญเมฆ สว.ส.ทล.1 ฝ่ายปฏิบัติการ 3 ปากช่อง จ.นครราชสีมา

พร้อมด้วยร.ต.อ.ศุกโชค มีทอง รอง.สว.ทล. พร้อมด้วยด.ต.ชัยเดชา โสดาโฮ หน.ตู้ยามทางหลวงด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด พร้อมกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจสภ.ด่านขุนทด นำโดยด.ต.ไชยวัฒน์ ถ่ายสูงเนิน ร่วมกันจับกุมรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีเทา หมายเลขทะเบียน บง 4676 อำนาจเจริญ โดยมีนายมอน บุญฉวี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 390 หมู่ที่ 7 ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว พร้อมบรรทุกชาวลาวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอีกจำนวน 19 คน เป็นชาย 14 คน หญิง 5 คน ควบคุมตัวส่งพ.ต.ท.สายยนต์ นนท์จิตร สารวัตรเวรสภ.ด่านขุนทด ดำเนินคดี

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

กล่าวถึงกรณี พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.ระนอง ระบุว่าดีเอสไอจะรับโอนคดีการเสียชีวิตของแรงงานชาวพม่าจำนวน 54 ศพ ที่จ.ระนอง เป็นคดีพิเศษ ว่า ดีเอสไอไม่มีความประสงค์จะรับโอนคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ และยังไม่มีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อรับคดีพิเศษแต่อย่างใด ที่ผ่านมาดีเอสไอส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมสืบสวนและให้ความร่วมมือกับตำรวจในพื้นที่ ตามคำสั่งของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม เท่านั้น แต่การทำสำนวนสอบสวนยังเป็นหน้าที่ของตำรวจ อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้พนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำงานอย่างเต็มที่ และไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าข่าวที่ออกมาน่าจะเป็นความเข้าใจคาดเคลื่อน โดยตนจะติดต่อไปยังพล.ต.ต.อภิรักษ์ เพื่อชี้แจงให้ทราบรายละเอียดทั้งหมด

พ.ต.อ.ทวีกล่าวอีกว่า ดีเอสไอเข้าไปสืบสวนในคดีดังกล่าวเพราะต้องการสืบหาข้อมูลขบวนการค้ามนุษย์
 
เนื่องจากพ.ร.บ.การค้ามนุษย์ จะมีผลบังคับใช้เดือนมิถุนายนนี้ จะเป็นกฎหมายแนบท้ายพ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษ ที่ดีเอสไอสามารถเข้าไปดำเนินการได้ทันที
ดังนั้น หากมีกรณีลักษณะการค้ามนุษย์เกิดขึ้นในอนาคตดีเอสไอก็เข้าไปทำคดีได้ทันที โดยไม่ต้องให้กคพ.มีมติรับเป็นคดีพิเศษ

ด้านพ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ โฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า

ดีเอสไอจะไม่รับโอนคดีการเสียชีวิตของแรงงานชาวพม่า 54 ศพ เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากการสอบสวนของตำรวจมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ไม่จำเป็นที่ดีเอสไอต้องรับคดีมาสอบสวนเอง อีกทั้งมีข้อโต้แย้งในประเด็นข้อกฎหมายด้วยว่า คดีในลักษณะดังกล่าวเป็นเพียงคดีลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงไม่สามารถดำเนินคดีกับขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติในข้อหาค้ามนุษย์และค้าหญิงและเด็กได้ เนื่องจากข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ใช่การล่อลวงหรือบังคับขู่เข็ญคนต่างด้าวให้เข้ามาขายแรงงานในประเทศไทย

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์