รวบลุงหื่นฆ่าข่มขืนหลานสาว

ตร.พิษณุโลก ซ้อนแผนตะครุบลุงหื่นฆ่าข่มขืนหลานสาววัย 15 หลังลอยนวลมาเกือบ 1 ปีเต็ม พบเหยื่อเป็นโครงกระดูกอยู่ในป่าเมื่อต้นเดือน เม.ย. ลุงโหดสารภาพสิ้นวันเกิดเหตุดื่มเมาอาสาขี่ จยย.ไปส่งบ้าน เกิดอารมณ์เปลี่ยวเลยลวงอุ้มข่มขืน ก่อนคว้าท่อนไม้ทุบหัวดับเป็นศพหมกป่า

วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.  พ.ต.ท.สุมิตร  มั่นเมือง รอง ผกก. (ป.)

พร้อมด้วย พ.ต.ท.ราเมศ  แก้วสูงเนิน  สว.สส. ร.ต.อ.วรวุฒน์  แสวงวิทย์  รอง สวป. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหมายศาลจังหวัดพิษณุโลก  เลขที่ 98/2551 ลงวันที่ 21 เม.ย.51  เข้าทำการจับกุมนายสุทิพย์ บุญไทย  อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 253 หมู่ที่ 3 ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาคดีข่มขืนฆ่า

โดยการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา 

พ.ต.ท.อุบล  กันทะเขียว  สารวัตรเวร สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก  รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบโครงกระดูกหญิงสาวภายในป่าบริเวณทางเข้าบ้านสวนวังนกแอ่น หมู่ 7 บ้านแก่งจูงนาง ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ห่างจากถนนประมาณ 50 เมตร ที่เกิดเหตุพบโครงกระดูกของมนุษย์ ตรวจสอบแล้วเป็นโครงกระดูกหญิงสาว อายุประมาณ 15-25 ปี มีกะโหลกศีรษะและเศษกระดูกกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ  พร้อมพบเสื้อผ้าของผู้ตาย ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าที่กะโหลกศีรษะแตกร้าวคล้ายกับถูกของแข็งกระแทกอย่างแรง เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 เดือน

จากนั้นมีนายบุญเชิด บุญดี  ผญบ.หมู่ที่ 7  ต. วังนกแอ่น  และนางกาหลง  บุญดี  ภรรยา เดินทางมาขอดูโครงกระดูก

พร้อมกับยืนยันว่าลักษณะเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิตตรงกับของ น.ส.จิรนันท์  บุญดี  อายุ 15 ปี  บุตรสาวของตนที่ได้หายไปตั้งแต่เมื่อที่ 30 ก.ค. 2550 ที่ผ่านมา ขณะขับรถจักรยานยนต์ไปเล่นน้ำตกที่บริเวณท้ายหมู่บ้านและมีชาวบ้านพบนั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ของนายสุทิพย์ หรือโด่ง บุญไทย  ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุง ก่อนหายไปอย่างลึกลับ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำโครงกระดูกส่งตรวจดีเอ็นเอ ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ผลปรากฏว่าเป็น น.ส.จิรนันท์  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายถูกลวงไปข่มขืนและฆ่าทิ้งหมกป่า ก่อนจะขอศาลอนุมัติหมายจับ นายสุทิพย์ ในเวลาต่อมา

โดยในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนให้ภรรยาของนายสุทิพย์ แกล้งจะขอหย่าร้างเพื่อไปแต่งงานกับแฟนใหม่

จนผู้ต้องหาเกิดหลงเชื่อเดินทางมาปรากฏตัวที่บริเวณที่ว่าการอำเภอวังทอง ซึ่งอยู่ห่างจาก สภ.วังทอง ไม่ถึง 100 เมตร ตามที่นัดหมาย ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแสดงตัวจับกุมได้ในที่สุด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมไปสอบสวนที่ สภ.วังทอง
 
สอบสวนนายสุทิพย์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า น.ส.จิรนันท์  ผู้ตายนั้น เป็นหลานสาวแท้ๆ ของป้าตน ส่วนตนมีศักดิ์เป็นลุง 

โดยก่อนเกิดเหตุในช่วงวันเข้าพรรษาปี 2550 ตนได้เดินทางมาเยี่ยมป้าของตน ซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้กับบ้านพักของ น.ส.จิรนันท์ จากนั้นจึงได้นั่งดื่มเหล้ากับญาติ ๆ ที่บ้านป้าจนเมา  ระหว่างทางขณะตนกำลังขับขี่รถ จยย.อยู่ภายในหมู่บ้านได้เห็น น.ส.จิรนันท์ พร้อมญาติรวม 3 คน กำลังเดินทางกลับจากเล่นน้ำตกที่บริเวณท้ายหมู่บ้านและรถ จยย.เกิดน้ำมันหมดกลางทาง  ตนจึงได้อาสาพา น.ส.จิรนันท์  นั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ไปซื้อน้ำมันในหมู่บ้าน จน น.ส.จิรนันท์ เกิดหลงเชื่อ เนื่องจากเห็นว่าเป็นญาติกันจึงได้นั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ของตนไป
 

แต่ระหว่างทางตนเห็น น.ส.จิรนันท์ ซึ่งกำลังเป็นสาวและรูปร่างขาวอวบ  แถมเนื้อตัวเปียกปอนและใส่เสื้อรัดรูปจึงเกิดความต้องการทางเพศ 

จึงได้เลี้ยวรถพาผู้ตาย  เข้าไปบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางเปลี่ยวก่อนลงมือกอดจูบและลวนลาม จากนั้นจึงอุ้มเข้าไปในป่าก่อนข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง  แต่เกิดกลัวความผิดเนื่องจาก น.ส.จิรนันท์ เป็นญาติของตนเอง จึงได้คว้าไม้ท่อนทุบตีที่บริเวณศีรษะและใบหน้าของ น.ส.จิรนันท์ จำนวน 2 ครั้ง จนเสียชีวิต จากนั้นจึงได้ขับรถหลบหนีไป

กระทั่งล่าสุดภรรยาได้ติดต่อขอหย่ากับตนเพื่อไปแต่งงานกับแฟนใหม่

และได้นัดมาเจรจาและหย่าล้างกันที่ว่าการอำเภอวังทอง ตนจึงได้เดินทางมาพบ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในที่สุด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายสุทิพย์ ส่งให้ พ.ต.ท.อุบล กันทะเขียว พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อดำเนินคดีตามกำหมายต่อไป.