เด็กรถทัวร์หื่น ทำแผนขืนใจ

จากเหตุการณ์ น.ส.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น

เดินทาง กลับจากช่วยแม่ทำงานที่กรุงเทพฯ ตกเป็นเหยื่อทรชนหื่นกาม ถูกนายสุริโย ทวีไสย์ อายุ 26 ปี พนักงานบริการประจำรถทัวร์ 2 ชั้นของบริษัท ชาญทัวร์ จำกัด สายกรุงเทพฯ-ขอนแก่น เลขข้างรถ 20-4 ข่มขืนกระทำชำเราในห้องน้ำรถทัวร์ โดยอาศัยจังหวะที่ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ชั้นล่างคนอื่นลงจากรถไปหมดแล้ว เหลือเพียง น.ส.น้ำ อยู่ลำพัง เข้าไปลวนลามกอดปล้ำ ก่อนลากเข้าไปข่มขืนในห้องน้ำรถทัวร์จนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง กระทั่งรถวิ่งมาถึงปลายทางสถานีรถปรับอากาศขอนแก่น น.ส.น้ำ กลับไปบอกผู้เป็นยายพาเข้าแจ้งความตำรวจตามจับกุมตัวนายสุริโย หนุ่มหื่นกาม รับสารภาพว่า เมาสุราเห็นผู้โดยสารสาวนั่งอยู่คนเดียวที่ชั้นล่างทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศจนก่อเหตุดังกล่าว


ความคืบหน้าการสอบสวนคดีสะเทือนขวัญที่สร้างความหวาดผวาให้กับผู้โดยสารหญิง ที่ต้องเดินทางโดยรถทัวร์ เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 เม.ย.

พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.นพเก้า โสมนัส รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ดิเรกฤทธิ์ ปานเรือนแสน สว.สส. พ.ต.ท. ต่อศักดิ์ โสดามรรค สวส. ร.ต.ท.สมพงษ์ คำมูลมี ร้อยเวรเจ้าของคดี นำกำลังตำรวจควบคุมตัวนายสุริโย ทวีไสย์ พนักงานรถทัวร์จอมหื่นกาม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณลานจอดรถทัวร์ของบริษัท ชาญทัวร์ จำกัด ถนนพิมพสุต ตรงข้ามสถานีรถปรับอากาศขอนแก่น ท่ามกลางประชาชนที่สนใจพากันมามุงดูจำนวนมาก โดยนายสุริโย มีสีหน้าเรียบเฉยไม่มีอาการสะทกสะท้าน ที่ใบหน้าด้านขวาและลำคอมีรอยขีดข่วนเต็มไปหมด
 

ขณะทำแผนฯ นายสุริโยอ้างว่า ตั้งแต่เห็น น.ส.น้ำ ขึ้นมานั่งบนรถก็รู้สึกถูกชะตา มีการพูดคุยหยอกล้อกันไปมาตามประสาหนุ่มสาว

แต่พอรถออกจากสถานีหมอชิต 2 มีผู้โดยสารคนอื่นๆนั่งอยู่ด้วยหลายคน จึงไม่ได้พูดคุยกันอีก เพราะตนต้องให้บริการผู้โดยสารคนอื่นๆด้วย ยอมรับว่าก่อนทำงานดื่มสุราเข้าไปจึงมีอาการเมาเล็กน้อย แต่ก็ทำหน้าที่ได้ตามปกติ กระทั่งผู้โดยสารที่ชั้น 1 ลงจนหมดเหลือเพียง น.ส.น้ำคนเดียว จึงเข้าไปจีบอีกครั้ง น.ส.น้ำก็พูดคุยด้วยดี เมื่อแตะเนื้อต้องตัวก็ไม่ขัดขืน ทุกอย่างจึงเลยตามเลย ในใจยังคิดว่าทำไม น.ส.น้ำไม่มีอาการเขินอายแม้แต่น้อย ทั้งยังบอกว่าประตูห้องโดยสารไม่ได้ล็อก กลัวผู้โดยสารชั้น 2 ลงมาเข้าห้องน้ำจะเห็นเข้า ก่อนที่ น.ส.น้ำจะเดินเข้าห้องน้ำจึงตามเข้าไปมีอะไรกัน ยืนยันว่าไม่ได้ข่มขู่หรือทำร้ายเพราะฝ่ายหญิงก็เต็มใจ ไม่มีการต่อสู้ขัดขืน เมื่อสำเร็จความใคร่แล้วก็รู้สึกผิด ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วพาไปนั่งที่เบาะพร้อมบอกว่า ยินดีรับผิดชอบกับการกระทำทุกอย่าง หรือมีอะไรให้ช่วยก็บอก ทำให้ น.ส.น้ำร้องไห้ ก็ได้แต่ปลอบใจ จนรถทัวร์เข้าจอดที่สถานีรถปรับอากาศขอนแก่นก็แยกทางกันไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งถูกตำรวจตามมาจับกุม
 


เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรอยขีดข่วนที่ใบหน้าว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร หากผู้เสียหายยินยอม นายสุริโยได้แต่ปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดจา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหามาทำแผนฯ นายชาญ นาประเสริฐกุล หรือเสี่ยตึ๋ง เจ้าของบริษัทชาญทัวร์ จำกัด ได้ออกมายืนดูด้วย ก่อนเดินกลับเข้าสำนักงานไปโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า นายสุริโยจะพูดอย่างไรก็ได้ แต่การกระทำแบบนี้เป็นอันตรายต่อผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะผู้หญิง และด้วยสัญชาตญาณแล้วผู้ถูกกระทำทุกรายมีการต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองให้รอดพ้นจากการกระทำอันเลวร้าย เช่นเดียวกับผู้โดยสารรายนี้ได้ต่อสู้ดิ้นรนทุกวิถีทาง ทั้งกัด ทั้งถีบ ทั้งข่วน จนหนีรอดแล้ว แต่ผู้ต้องหายังตามไปย่ำยีทั้งร่างกายและจิตใจจนสำเร็จ เท่าที่เห็นตามใบหน้า ลำคอ ของนายสุริโย ก็มีบาดแผลที่ถูกผู้เสียหายขีดข่วนเต็มไปหมด จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้เสียหายจะเต็มใจให้นายสุริโยทำร้าย
 

ด้านนายชัยรัตน์ สงวนซื่อ รักษาการอธิบดีกรมขนส่งทางบก เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ส่งรายละเอียดอย่างเป็นทางการมา แต่ได้โทรศัพท์ไปสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วและได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อมูลว่าบริษัทดังกล่าวมีการรายงานประวัติพนักงานมายังกรม ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 50 ให้ผู้ประกอบการเดินรถรายงานผู้ประจำรถ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้สั่งให้พักรถทัวร์คันที่เกิดเหตุ หยุดให้บริการโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นความล้มเหลวของกฎกระทรวงฉบับที่ 50 เพราะผู้ประกอบการไม่ค่อยรายงานข้อมูลพนักงานประจำรถกลับมา จึงสั่งการให้บริษัทผู้ประกอบการเดินรถขนส่งทุกแห่ง เข้มงวดในการตรวจสอบประวัติข้อมูลพนักงานประจำรถและรายงานกลับมายังกรมฯ หากไม่ปฏิบัติตามจะลงโทษขั้นเด็ดขาด รวมทั้งจะแก้ไขกฎกระทรวงฉบับที่ 50 ให้มีความชัดเจนมากขึ้น เช่น จากเดิมการรายงานข้อมูลการเดินรถจะมีรายละเอียดมากเกินไป ต่อไปจะให้โฟกัสเฉพาะเรื่องๆ เช่น ข้อมูลพนักงานประจำรถส่วนหนึ่ง รถก็อีกส่วนหนึ่ง เชื่อว่าจะป้องกันเหตุได้ส่วนหนึ่ง แต่ผู้ประกอบการก็จะต้องสอดส่องพฤติกรรมของพนักงานด้วย
 

ส่วน น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์ สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวถึงคดีนี้ว่า

ผู้เสียหายสามารถฟ้องดำเนินคดีแพ่งกับบริษัทเจ้าของรถทัวร์ให้ร่วมรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายได้ด้วย จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ในฐานะเจ้าของรถและนายจ้างของผู้กระทำผิด นอกจากนี้ อยากเรียกร้องไปยังกรมการขนส่งทางบกให้เพิ่มความเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยของรถทัวร์โดยสารทั้งของรัฐและเอกชน โดยควรออกกฎระเบียบห้ามดื่มแอลกอฮอล์ บนรถอย่างเด็ดขาดทั้งพนักงานและผู้โดยสารด้วย เช่นเดียวกับสายการบินในประเทศของบริษัทการบินไทยฯ เพื่อลดความเสี่ยงต่อผู้โดยสารหญิง สำหรับการสอบสวนคดีนี้ต้องระมัดระวัง ตำรวจต้องจัดพนักงานสอบสวนหญิงเป็นผู้สอบสวน หากไม่มีให้ถามความยินยอมจากผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายสามารถร้องขอให้บุคคลใดอยู่ร่วมในการสอบปากคำได้ เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาฉบับที่ 28 มาตรา 9 วรรค 2 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. 51 ที่ผ่านมา


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์