ปล้นข้าวสารกันแล้ว กวาด16ตัน โจรจี้ไปทั้งคันรถ

ยุคข้าวสารแพง โจรบุกจี้รถบรรทุกข้าวที่ปากช่อง

ขณะโชเฟอร์ขนจากร้อยเอ็ดไปส่งที่ฉะเชิงเทรา แต่มาพักกินข้าวที่ปากช่อง ถูกจี้ชิงไปทั้งคัน 16 ตัน ราคา 5 แสนบาท เผยหนุ่มร้อยเอ็ดขับรถสิบล้อบรรทุกข้าวหอมมะลิ จำนวน 320 ถุง มาตามถนนมิตรภาพมุ่งหน้าแปดริ้ว ระหว่างทางเจอ 2 โจรบุกขึ้นไปจี้แล้วจับปิดตา-พาไปมัดไว้ที่ไร่น้อยหน่าต.กลางดง ก่อนที่จะเชิดรถบรรทุกข้าวหลบหนี ผกก.ปากช่องรุดตรวจสอบ-ไล่ล่าคนร้าย แต่ยังไม่ปักใจเชื่อนัก

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 21 เม.ย. พ.ต.ท.จรัญ ผันกระโทก สารวัตรเวรสภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

รับแจ้งจากนายสุบิน วโรรส อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 หมู่ 4 ต.พนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ว่า ตนเป็นคนขับรถบรรทุกสิบล้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 80-5327 ร้อยเอ็ด ของหจก.ชัยวัฒน์วรัญพนมไพร บรรทุกข้าวสารหอมมะลิถุงละ 50 ก.ก. จำนวน 320 ถุง รวมน้ำหนัก 16 ตัน มูลค่าประมาณ 5 แสนบาท ออกจากโรงสีหจก.ชัยวัฒน์วรัญพนมไพร เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อนำไปส่งร้านข้าวสารใน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา แต่ถูกคนร้ายจี้ชิงรถบรรทุกข้าวสารไป ส่วนตนถูกจับมัดกับต้นน้อยหน่าในเขตต.กลางดง บริเวณริมถนนสายเลี่ยงเมืองก.ม.3-4 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง

หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิวัฒน์ สีลาเขตต์ ผกก.สภ.ปากช่อง พ.ต.ท.ขวัญเมือง โกสุมา รองผกก.สส. พ.ต.ท.ปฏิยุทธ์ สิงห์สมโรจน์ สว.สส. พ.ต.ท.ไสว เหือดขุนทด สวป. พ.ต.ต.พิเชษฐ์ อินทร์ใย สว.สป. พร้อมกำลังรุดไปยังที่เกิดเหตุ

นายสุบินให้การว่า ได้ขับรถบรรทุกข้าวสารออกจากโรงสีหจก.ชัยวัฒน์วรัญพนมไพร เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 20 เม.ย. เพื่อนำข้าวสารไปส่งที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อขับมาถึงถนนเลี่ยงเมือง อ.ปากช่อง เวลาประมาณ 19.00 น. จึงจอดรถเพื่อลงไปกินข้าวที่ร้านลาบร้อยเอ็ด จากนั้นขึ้นมาบนรถเพื่อพักผ่อน โดยนอนที่เบาะหลัง จากนั้นมีชาย 2 คนมาเคาะที่ประตูทั้ง 2 ด้าน เพื่อขอยืมประแจเบอร์ 17 โดยจะนำไปซ่อมรถที่เสีย ขณะกำลังจะหยิบกุญแจที่ถูกขอยืม ถูกชายเอาสิ่งของเป็นเหล็กจี้ด้านหลังพร้อมกดหัวให้นอนอยู่เบาะด้านหลัง จากนั้นคนร้ายอีกคนขับรถบรรทุกสิบล้อ ออกไปโดยไม่ทราบจุดหมาย เมื่อขับไปได้สักระยะได้หยุดรถ

จากนั้นคนร้ายทั้ง 2 คน ได้ช่วยกันใช้ผ้าสีฟ้าปิดตา และนำผ้าเทปแบบผ้าสีเทา มัดข้อมือทั้ง 2 ข้างไว้ด้านหลัง

ก่อนจะลากตัวลงมานั่งรถกระบะ โดยไม่ทราบสีและยี่ห้อ ซึ่งคนร้ายได้ขับรถบรรทุกมุ่งหน้าไปยังวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ต.กลางดง อ.ปากช่อง ซึ่งห่างจากถนนมิตรภาพประมาณ 3 กิโลเมตร หลังจากนั้นได้จอดที่สวนน้อยหน่าของนางลัดดา นวลดอกรักษ์ และนำตนไปมัดไว้กับต้นน้อยหน่า และรีบขับรถหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนพยายามดิ้นจนหลุดแล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน เป็นเวลาเดียวกับที่นายลอบ ปัญญารัมย์ อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรีสอร์ตกลางดงเมาเทนวิวส์ ผ่านมาพบ จึงช่วยเหลือโทรศัพท์ไปแจ้งที่สภ.กลางดง

นายเกรียงศักดิ์ หมื่นกลาง อายุ 20 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคนที่คอยดูแลอยู่ที่ป้อมยามด้านหน้ารีสอร์ต กล่าวว่า

ช่วงเวลาดังกล่าวมีรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีดำ ไม่ทราบเลขทะเบียนวิ่งผ่านด้วยความเร็ว คาดว่าจะเป็นรถคนร้ายที่นำตัวนายสุบินมามัดไว้กับต้นน้อยหน่า ตอนสายวันเดียวกัน พ.ต.อ.วิวัฒน์ สีลาเขตต์ ผกก.สภ.ปากช่อง พ.ต.ท.ขวัญเมือง โกสุมา รองผกก.สส. พร้อมกำลังตำรวจนำตัวนายสุบินไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่จุดที่จอดรถ และจุดที่ถูกผูกกับต้นน้อยหน่า ซึ่งทั้งสองจุดอยู่ห่างกันกว่า 20 กิโลเมตร เพื่อจำลองเหตุการณ์ ซึ่งในการจำลองเหตุการณ์ มีเจ้าหน้าที่บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่รับประกันรถคันดังกล่าวมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย พร้อมแจ้งว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวทำประกันกับบริษัทไว้เป็นปีที่ 11 และปีนี้ทำประกันในวงเงินเพียง 250,000 บาท โดยไม่รวมสินค้าที่บรรทุก

พ.ต.อ.วิวัฒน์กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะข้าวสารราคาสูงในขณะนี้
 
พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมจัดกำลังออกหาข่าว ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียว เพราะน่าสงสัยตรงที่คนร้ายมัดข้อมือเพียงข้างเดียวผูกกับต้นน้อยหน่า อีกทั้งไม่ทำร้ายคนขับ และคนขับก็ไม่ได้ขัดขืนแม้แต่น้อย แต่ก็ทราบว่าขณะขับขี่ถึงจุดใด ก็จะมีคนขับรถด้วยกันโทรศัพท์สอบถามตลอดว่าถึงที่ใด ซึ่งจะได้ติดตัวผู้ที่โทรศัพท์มาสอบถามว่า เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จี้ชิงข้าวสารครั้งนี้หรือไม่