แม้ว่าการวิ่งไฟคบเพลิงโอลิมปิกเกมส์ 2008 ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ในประเทศไทย เมื่อบ่ายวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา จะผ่านพ้นไปแล้ว
ท่ามกลางเสียงชื่นชมจากทางฝ่ายจีนว่า เมืองไทยจัดได้อย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม ในความราบรื่นดังกล่าว ก็ยังมีข่าวฉาวตามหลัง กลายเป็นรอยด่างของประเทศ เมื่อมีคนพยายามฉกคบเพลิง ซึ่งเป็นสิ่งของล้ำค่าที่หลายคนใฝ่หา ไปจากมือบรรดานักวิ่ง 80 คน ที่ได้รับเลือกมาจากหลากหลายสาขาอาชีพ โดยในรายของ “แจ๊ค” นายคริสโตเฟอร์ เบญจกุล ดาราน้ำใจงามที่ช่วยเหลือผู้อื่นจนตัวเองประสบอุบัติเหตุหวิดพิการ หนึ่งในนักวิ่งที่อยู่ในไม้ที่ 2 ก็โดนก่อนเพื่อน เพราะหลังจากจุดไฟคบเพลิงต่อให้ ร.ต.ต.วิชัย สุริยนต์ ผู้วิ่งคนที่ 3 ไปแล้ว ก็มีประชาชนจำนวนมากเข้ามายื้อยุดฉุกกระชาก และแย่งคบเพลิงของดาราน้ำใจงามไปในที่สุด ทำให้เจ้าตัวรู้สึกเสียดาย และเสียใจมาก จนต้องออกมาขอร้องผู้ที่ขโมยว่าอยากได้คบเพลิงโอลิมปิกอันดังกล่าวคืน
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย. เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ได้เปิดแถลงข่าว พร้อมด้วย “แจ๊ค” นายคริสโตเฟอร์ เบญจกุล ที่ถูกฉกคบเพลิงไป และ “ครูน้อย” น.ส.นวลน้อย ทิมกุล แม่พิมพ์หัวใจทระนง หนึ่งในทีมนักวิ่งตัวแทนของ “ซัมซุง” ร่วมในงานด้วย ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนจำนวนมาก
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า
เรื่องคบเพลิงของนายคริสโตเฟอร์ ที่หายไปหลังวิ่งเสร็จนั้น ทราบจากผู้สื่อข่าว ตอนแรกคิดว่าจะทำอย่างไรดี แต่ต่อมาคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จะได้ให้ซัมซุงประสานกับทางจีน หรือไม่คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯก็จะประสานให้ เพื่อขอมาเพิ่มเติม ซึ่งได้ขอไปแล้ว และจากข่าวที่ได้มีการเสนอข่าวไป ต้องบอกว่าคนที่ขโมยสร้างจุดด่างให้กับงานดังกล่าว ประกอบกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้พูดย้ำผ่านรายการสนทนาประสาสมัคร ต่อว่าว่าเป็นจุดด่างเช่นกัน อย่างไรก็ดี มาทราบภายหลังว่า ทางคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯได้รับคบเพลิงของนายคริสโตเฟอร์ คืนจากคณะกรรมการจัดวิ่งตั้งแต่วิ่งเสร็จแล้ว รอเพียงนัดแถลงข่าวเพื่อส่งคืนให้อย่างเดียว แต่ทว่าตอนนี้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก เมื่อทางคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ พบคบเพลิงเพิ่มอีก 1 อัน