ผัวเมียงูโต้ผวจ.อุดรฯเปล่าจัดฉากแต่งงาน

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 20 เม.ย. ผู้สื่อข่าวอุดรธานี เดินทางไปสังเกตการณ์ที่บ้านเลขที่ 82 บ้านดอนย่านาง ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ของนายเสถียร เคนกุดลัง ซึ่งแต่งงานกับงูเหลือม

โดยอ้างว่าเป็นผัวเมียกันในชาติปางก่อน และล่าสุดเมียงูหายไปจากบ้านแล้วนั้น โดยในวันนี้ไม่พบกับนายเสถียรแต่อย่างใด ทราบว่านางหนูตาว จันทรเลิศ ป้าของนายเสถียร นำนายเสถียรเดินทางไปทำบุญที่วัดอรุณปทุมนาราม (วัดบ้านนาบัว) ต.บ้านขาว อ.เมืองอุดรฯ เนื่องจากในวันนี้ตรงกับวันพระ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบนายเสถียรและนางหนูตาว

นางหนูตาวกล่าวว่า วันนี้เป็นวันพระจึงนำนายเสถียรมาทำบุญ เพื่อให้สบายใจขึ้นบ้าง
 
หลังจากเกิดความเครียดที่งูสาวผู้เป็นภรรยาหนีไป และกรณีที่นายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผวจ.อุดรธานี ไปให้ข่าวว่าการแต่งงานของนายเสถียรกับงูเหลือม เป็นการจัดฉากของนายเสถียรกับพวกว่า การแต่งงานครั้งนี้ตนเป็นคนจัดให้ที่บ้านดอนย่านาง หลังจากที่ตนได้ไปให้ปู่ยวน หมอทรงได้เข้าทรงแล้วว่าเขาเป็นเนื้อคู่กันจริงในชาติก่อน แล้วตามหากันจนเจอ จึงได้จัดงานแต่งงานกันที่บ้านโดยมีเพื่อนบ้านมาร่วมกันหลายคน แล้วพากันไปแต่งที่บ้านปู่ยวนที่ต.นาพู่ เพราะปู่ยวนบอกเป็นบ้านของเจ้าสาวเขาอยู่ในบึงชวน ที่นั่นก็มีชาวดอนพู่มาร่วมจำนวนมาก ซึ่งก็ทำกันจริงๆ ชาวบ้านเห็นกันทุกคน แล้วมาหาว่าเราจัดฉากได้อย่างไร ท่านผู้ว่าฯ น่าจะมาสอบถามชาวบ้านให้ดีก่อน หรือสอบถามตนก็ได้ไม่น่าจะพูดแบบนี้

นายเสถียรกล่าวว่า วันนี้เป็นวันพระ เป็นวันดีตนมาทำบุญแล้วก็รู้สึกสบายใจ ไม่อยากจะไปว่ากล่าวกับใคร

สำหรับเรื่องทั้งหมดนั้นตนได้แต่งงานกับงูสาวจริง เพราะปู่ยวนและหมอทรงหลายคนก็บอกตรงกันแล้วว่า ตนเป็นเนื้อคู่กันมาแต่ชาติก่อนจริง และป้าของตนคือนางหนูตาวที่เลี้ยงตนมาตั้งแต่เล็กก็จัดงานแต่งงานให้ที่บ้าน แล้วไปจัดที่บ้านปู่ยวนต่อ ซึ่งชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านก็รู้เห็นกันหมด ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ถูกต้องเลย แล้วหลังจากนั้นชาวบ้านที่มาดู ก็เป็นทั้งคนที่เขาอยากจะพิสูจน์ข้อเท็จจริง กับพวกที่เขาศรัทธา ตนไม่ได้ไปเกณฑ์หรือเชิญเขามาเลย ซึ่งก็พากันมามากทุกวัน แม้แต่เดี๋ยวนี้ก็ยังมีคนไปเยี่ยมที่บ้าน ไปให้กำลังใจตนอยู่เสมอหลังจากที่ทราบว่าภรรยาหายไป

นายเสถียรกล่าวต่อว่า ส่วนที่ท่านผู้ว่าฯ กล่าวว่า มาดูแล้วหาว่าตนกับพวกที่เป็นคนจ.อุบลราชธานี จัดฉากขึ้นมาเพื่อทำซีดีขายนั้น

ตนขอบอกท่านผู้ว่าฯ ให้ทราบว่า ตนไม่เคยมีญาติ หรือพรรคพวกอยู่ที่จ.อุบลราชธานีเลย เพราะทุกวันที่คนเขามาพบตนนั้นมีมาก มีการถ่ายรูปถ่ายวีซีดีกัน และก็มีนักข่าวหลายสำนักทั้งเมืองไทยและต่างประเทศเขามาทำข่าวกัน เมื่อเขาสัมภาษณ์ตนก็เล่าให้เขาฟัง ส่วนข่าวต่างประเทศเขาก็มีล่ามมาช่วยแปลให้ด้วย ก็มามากจนจำไม่ได้ เมื่อได้ภาพแล้วจะไปทำอะไรตนก็ไม่ทราบ แล้วจะไปคิดหาเงินอย่างไร แม้แต่พ่อค้าแม่ค้าที่มาขายอาหารการกิน ที่บริเวณบ้านตนยังไม่เคยเก็บเงินเขาเลย แล้วจะไปคิดจัดฉากหาเงินได้อย่างไร

"ที่กล่าวว่าผมร่วมกับพวกจ.อุบลฯ จัดฉากทำซีดีขายนั้น ขอท้าให้ท่านผู้ว่าฯ ระบุมาเลยว่าคนนั้นเป็นใคร ชื่อแซ่อะไร อยู่ที่ไหน ช่วยระบุด้วย และขณะเดียวกันขอความเป็นธรรมด้วยว่า บ้านตนโดนพายุถล่มพัดพาหลังคาสังกะสีเปิดไปเกือบครึ่งหลัง ถ้าท่านมาที่บ้านในวันก่อนจริงแล้ว ทำไมไม่เงยหน้ามองดูหลังคาบ้านตนบ้าง ก็ขอความช่วยเหลือครอบครัวตนด้วย ตอนนี้เวลาฝนตกก็ต้องให้หลานหนีไปหลบฝนอยู่ชั้นล่างสุด ก็ขอให้ท่านผู้ว่าฯ ช่วยด้วย กรุณาอย่ามาหาเรื่องจับผิดตน ซึ่งเป็นชาวบ้านจนๆ คนหนึ่ง และอย่าดูถูกชาวบ้านเลย" นายเสถียรกล่าว