สั่งสอบลูกชิ้นพิษ ขู่โทษหนักปิดรง.

ตามที่ชาวบ้านหมู่ 1 ต.บ้านฟ้า อ.บ้านหลวง จ.น่าน กว่า 300 คน พากันกินลูกชิ้นปลาในงานศพคนในหมู่บ้านแล้วเกิดอาการลิ้นชา แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก

ถูกหามส่ง รพ.บ้านหลวง ระนาวถึง 142 คน บางคนอาการหนักถูกส่งต่อที่ รพ.น่าน แพทย์ให้นอนรักษาตัว เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากลูกชิ้นปลาที่ชาวบ้านกิน อาจทำมาจากเนื้อปลาปักเป้าที่มีพิษ ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่านกำลังตรวจสอบที่มาของลูกชิ้นพิษอยู่นั้น
 

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 เม.ย.นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผวจ.น่าน
 
พร้อมด้วยนายสุเมธ สายสูง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ สสจ.น่าน นพ.คณิต ตันติศิริวิทย์ ผอ.รพ.น่าน ร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือผู้ป่วยที่นอนพักรักษาตัวต่อเนื่องหลายวัน รายละ 1,000 บาท พร้อมมอบผ้าห่มจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีผู้ป่วยที่ยังนอนพักรักษาตัวที่ รพ.น่าน อีก 32 ราย และที่ รพ.บ้านหลวง 6 ราย ส่วนใหญ่อาการดีขึ้นมาก มีเพียงนางดาวลอย มงคล อายุ 47 ปี ที่อาการหนักยังต้องให้ออกซิเจนอยู่
 

นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวว่า

อาการผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว และเชื้อดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อสภาพร่างกายในระยะยาว แต่เพื่อความไม่ประมาท ได้จัดทีมแพทย์พยาบาลเฝ้าติดตามผู้ป่วยกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง แม้จะกลับบ้านไปแล้วก็ตาม ส่วนเหตุที่ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น เนื่องจากสารป้องกันพิษในร่างกายสามารถเอาชนะพิษได้ คาดว่าวันเดียวกันนี้คงจะกลับบ้านได้เกินครึ่ง เป็นที่น่ายินดีว่าการช่วยเหลือทำได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งผู้ป่วยก็มีกำลังใจดีทุกคน เหมือนกับผู้ป่วยที่รับประทานหน่อไม้ปี๊บ เมื่อปี 2549 ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความดูแลมาตลอด
 

ส่วน นพ.บัวเรศ ศรีประทักษ์ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า

ได้รับการประสานจากทางจังหวัดน่านให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแหล่งผลิตลูกชิ้นแล้ว พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างลูกชิ้นปลาที่กำลังผลิตอยู่ส่งตรวจหาดูว่าใช่เนื้อปลาปักเป้าหรือไม่ เบื้องต้นทราบว่าเป็นเนื้อปลาที่ใช้ทำลูกชิ้นปลาตามปกติ ผู้ผลิตได้สั่งซื้อเนื้อปลามาจากที่อื่นที่ผ่านการชำแหละมาแล้ว ตรงนี้ต้องตรวจสอบตามขั้นตอนว่ามีการส่งปลาชนิดใดมาให้ ดูแล้วไม่น่าจะเป็นเจตนาในการผลิต แต่ในการจัดส่งเนื้อปลานั้นอาจมีปลอมปนมาบ้าง เพราะปกติแล้วจะไม่มีแหล่งผลิตลูกชิ้นปลาใดที่ใช้เนื้อปลาปักเป้าทำลูกชิ้น
 

ด้านนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า
 
ได้สั่งให้ นพ.ทนงสรรค์ สุทธาธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขประจำพื้นที่ ลงไปติดตามให้การช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดแล้ว เนื่องจากปลาปักเป้าเป็นปลาที่มีพิษรุนแรงถึงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นปักเป้าน้ำจืดหรือน้ำเค็มก็ตาม ซึ่งปลาปักเป้าเป็นปลาต้องห้ามตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 264 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2545 ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายอยู่แล้ว แต่ยังมีการลักลอบนำมาปรุงเป็นอาหารกันอยู่ ได้กำชับให้แพทย์พยาบาลที่ รพ.น่าน และ รพ.บ้านหลวง ให้การดูแลผู้ป่วยทุกรายอย่างเต็มที่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
 

รมว.สาธารณสุขกล่าวอีกว่า นอกจากนั้นยังได้สั่งให้ อย.และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ

เร่งตรวจสอบแหล่งผลิตลูกชิ้นปลา และเก็บตัวอย่างลูกชิ้นปลาที่วางจำหน่ายในตลาดทุกแห่งมาตรวจสอบหาสารพิษปลาปักเป้า หากพบจะให้ปิดโรงงานและดำเนินคดีถึงที่สุด มีโทษจำคุก 6 เดือนถึง 2 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนลูกชิ้นที่เป็นต้นเหตุให้ชาวจังหวัดน่านเกิดอาการเป็นพิษครั้งนี้ ได้ส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นปลาปักเป้าน้ำจืด ซึ่งได้สั่งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์สาวถึงแหล่งผลิตลูกชิ้นต้นตอที่ระบุว่าผลิตที่จังหวัดนครสวรรค์แล้ว
 

ส่วน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า

กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับตำรวจปราบปรามโรงงานที่ลักลอบนำปลาปักเป้าไปทำเป็นอาหารจำหน่ายผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง โดยประสานกับ จ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ ให้เข้มงวดแพปลาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้สำหรับพิษของปลาปักเป้าน้ำเค็มมีชื่อว่า เตทโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) และยังพบสารพิษตัวนี้ในแมงดาทะเลด้วย ส่วนปักเป้าน้ำจืดมีสารพิษซาติท็อกซิน (Satitoxin) ความร้อนไม่สามารถทำลายพิษได้ หลังได้รับพิษเข้าไปอาจจะเกิดอาการภายใน 4-6 ชั่วโมง จะมีอาการชาที่ลิ้นและริมฝีปาก ลามไปถึงหน้า แขน ขา มีคลื่นไส้ อาเจียน เป็นอัมพาต การหายใจล้มเหลวเสียชีวิตได้ ความรุนแรงขึ้นอยู่ กับปริมาณที่กินเข้าไป พิษนี้ไม่มียารักษา ร่างกายจะขับพิษออกมาเอง การดูแลจะเน้นตามอาการ โดยเฉพาะระบบการหายใจ เนื่องจากพิษจะไปจับที่ปลายประสาทที่เกาะตามกล้ามเนื้อกระบังลม และแขนขาจะเป็นอัมพาตชั่วคราว