เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 เม.ย. ขณะที่ จ.ส.ต.ทรงวุฒิ เพ็ญภักดีกุล ผบ. หมู่งานจราจร สน.บางพลัด
ปฏิบัติหน้าที่บริเวณแยกบางพลัด รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท คู่กรณียิงปืนและใช้มีดทำร้ายกันกลางถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ใกล้ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 66/2 แขวงและเขตบางพลัด กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบนายสุรพงษ์ สถิตย์พร อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/47 หมู่ 1 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี มีร่องรอยถูกทำร้ายเป็นแผลบริเวณแผ่นหลังด้านซ้าย ยืนอยู่กับนางราตรี สถิตย์พร อายุ 67 ปี ภรรยามีแผลถลอกที่เหนือคิ้วซ้ายและขวา ข้อเท้าซ้ายแพลง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานขอรถหน่วยกู้ชีพวชิรพยาบาลรับตัวนางราตรีไปทำแผลและเข้าเฝือกที่โรงพยาบาล
ส่วนคู่กรณีอยู่ในบริเวณเดียวกันคือนายสหพัฒน์ อัตตาธรรมกุล อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/7 หมู่ 4 ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี นิ้วกลางมือขวาถูกมีดบาดเป็นแผล ไหล่ซ้ายมีร่องรอยคล้ายถูกฟันด้วยของมีคม เสื้อยืดคอปกสีน้ำเงินที่สวมใส่อยู่ขาดวิ่น ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน .32 ตกอยู่ 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกันพลเมืองดีได้นำมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต ของนายสุรพงษ์ และปืน .32 พร้อมกระสุน 4 นัด ของนายสหพัฒน์ ของกลางที่ใช้ก่อเหตุซึ่งยึดมาจากคู่กรณี มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นคุมตัวทั้ง 2 ฝ่าย มอบให้ ร.ต.อ.ทนง โศภิษฐิกุล พงส. (สบ 1) สน.บางพลัด รับตัวไว้ดำเนินคดี
บู๊บนถนน หนุ่มชักปืน-ปู่ชักมีด ตะลุมบอน
นายสหพัฒน์ให้การว่า มีอาชีพขายอาหารสัตว์ อยู่ที่ จ.ราชบุรี
ก่อนเกิดเหตุขับรถเบนซ์ อี 220 สีบรอนซ์ ทอง ทะเบียน วข 7575 กรุงเทพมหานคร กลับบ้านหลังจากไปหาแฟนสาวแถวแยกรัชโยธิน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณปากอุโมงค์ถนนจรัญสนิทวงศ์ฝั่งมุ่งหน้าแยกบางพลัด รถติดมากต้องค่อยๆขยับ ระหว่างนั้นรถเก๋งวอลโว่ รุ่น 244 จีแอลที สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 9 ง 9260 กรุงเทพมหานคร นายสุรพงษ์เป็นคนขับ วิ่งอยู่ในเลนทางลงอุโมงค์ พยายามเบียดแทรกเปลี่ยนเลนออกมาทางซ้าย กระทั่งแซงขึ้นมาอยู่หน้ารถตน หลังจากเข้ามาได้ แล้วยังชูนิ้วกลางให้อีก ระหว่างรถติดไฟแดง จึงลงไปเคาะกระจกถามว่าทำไมต้องให้ของลับด้วย อีกฝ่ายกลับถามว่ามึงมีปัญหาอะไรเหรอ ยิ่งทำให้โมโหมาก ใช้มือขวาตบหน้าคู่กรณีไป 2 ครั้ง อีกฝ่ายก็คว้ามีดที่อยู่ใต้เบาะขึ้นมาไล่ฟันถูกที่หัวไหล่ซ้าย พอเห็นฝ่ายตรงข้ามมีอาวุธ จึงวิ่งไปคว้าปืนออกมาขู่ไม่ให้เข้ามาใกล้ แต่นายสุรพงษ์ยังถือมีดตรงเข้ามาหา ต้องยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนจะเข้าไปยื้อแย่งมีดจากนายสุรพงษ์ ทั้งที่ตนยังถือปืนอยู่ในมือ กระทั่งปืนร่วงลงพื้นถนน จังหวะนั้นนางราตรีภรรยานายสุรพงษ์ลงมาจากรถคว้าปืนไปได้ นายสุรพงษ์ก็พูดเร่งเร้าให้ใช้ปืนยิงตน ทำให้ต้องหันไปแย่งปืนจากนางราตรี เป็นเหตุให้ปืนลั่นขึ้นอีก 1 นัด ขณะที่นางราตรีถูกเหวี่ยงล้มคว่ำลงกับพื้น ต่อมามีพลเมืองดีเข้ามาแยกเก็บอาวุธไว้แล้วแจ้งตำรวจ
ด้านนายสุรพงษ์ให้การว่า เคยรับราชการเป็นทหารเรือ ก่อนจะลาออกมาตั้งแต่ปี 2507
ก่อนเกิดเหตุจะขับรถไปหาเพื่อนที่แยกพรานนก หลังจากแซงหน้ารถนายสหพัฒน์ขึ้นมาก็ถูกอีกฝ่ายให้ของลับแล้วลงจากรถมาหาเรื่องตบหน้า พร้อมถือปืนติดมือมาด้วย จึงต้องเอามีดหมอของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ออกมาป้องกันตัวเอง ระหว่างที่นายสุรพงษ์ให้การตำรวจ มีว่าที่ ร.ต.สุรศักดิ์ สถิตย์พร อายุ 43 ปี บุตรชายนายสุรพงษ์ อยู่บ้านเลขที่ 204 หมู่ 2 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม อาสาสมัครตำรวจบ้าน สน.หนองแขม ทราบเรื่องบิดา-มารดาถูกทำร้าย ตามไปที่โรงพัก เมื่อเห็นนายสหพัฒน์นั่งอยู่เพียงลำพังก็ตรงเข้าทำร้ายชกเข้าที่ใบหน้า 2 หมัด ผู้สื่อข่าวที่อยู่ใกล้เหตุการณ์ต้องเรียกตำรวจที่อยู่อีกด้านหนึ่งเข้าไปดึงตัว ว่าที่ ร.ต.สุรศักดิ์ออกไป
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาห่างกันไม่นานนักได้มีนายอนุสิทธิ์ สถิตย์พร อายุ 47 ปี ผู้กำกับฝ่ายรายการสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 พี่ชายว่าที่ ร.ต.สุรศักดิ์ ขึ้นมาบนโรงพัก
เมื่อเห็นนายสหพัฒน์ก็ตรงเข้าไปทำร้ายชกเข้าที่บริเวณใบหน้าอีก 2 หมัด ทำให้นายสหพัฒน์ ถึงกับคิ้วซ้ายแตก ร.ต.ต.หญิง กุหลาบ บุญทากลาง พงส. (สบ 1) ที่อยู่ใกล้เหตุการณ์ที่สุดต้องเข้าไปปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนทำหนังสือส่งตัวนายสหพัฒน์ไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลยันฮี ส่วนนายสุรพงษ์ส่งไปตรวจร่างกายที่วชิรพยาบาล แพทย์รับตัวไว้ดูอาการ ขณะที่นางราตรีภรรยานายสุรพงษ์หลังจากแพทย์เข้าเฝือกข้อเท้าให้แล้วอนุญาตให้กลับบ้านได้
ร.ต.อ.ทนง โศภิษฐิกุล พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวน เปิดเผยว่า
หลังจากสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรกับนายสหพัฒน์ ส่วนข้อหาพยายามฆ่าต้องรอสอบปากคำพยานแวดล้อมทั้งหมดก่อน ส่วนนายสุรพงษ์แจ้งข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายอนุสิทธิ์และว่าที่ ร.ต.สุรศักดิ์ บุตรชายนายสุรพงษ์ ที่เข้าไปทำร้ายนายสหพัฒน์ ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บจะนำตัวส่งศาลจังหวัดตลิ่งชันในวันที่ 21 เม.ย.ต่อไป