เฉี่ยวไม่ได้หยามไม่ได้ โชเฟอร์รถร่วมฯ แทงกันสาหัสข้างถนน!
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 25 พฤษภาคม 2549 16:57 น.
โชเฟอร์รถร่วมฯ คนละสายขับปาดหน้ากันเอง จนกระจกมองข้างเฉี่ยวชนกัน เลยตะโกนด่าทอและท้าทายลงไปดวลข้างถนนทั้งมีด ไม้ คันเกียร์ เหล็กแป๊บ สุดท้ายบาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 ราย ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของผู้โดยสารที่ยังไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง
วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ร.ต.ท.วิษณุ สุระวดี ร้อยเวร สน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุ โชเฟอร์รถร่วมบริการประจำทาง ทำร้ายร่างกายกันข้างถนนจนได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณปากซอยลาดพร้าว 39 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. หลังรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นแล้วรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถร่วมประจำทางปรับอากาศสาย 44 วิ่งระหว่างท่าเตียน-แฮปปี้แลนด์ ทะเบียน 11-0117 กทม. หมายเลขข้างรถ 93-225 สีน้ำเงิน-ขาว จอดอยู่บริเวณป้ายรถเมล์ปากซอยลาดพร้าว 39 ส่วนด้านหน้าพบรถร่วมประจำทางสาย 92 เป็นรถธรรมดาสีฟ้า-ขาว ทะเบียน 10-4186 กทม.หมายเลขข้างรถ 45-116 วิ่งระหว่างคลองตัน-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ใกล้กันกับบริเวณที่รถทั้ง 2 คันจอดอยู่ พบผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทราบต่อมารายแรกชื่อ นายณรงค์ ปิ่นรโรจน์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/2 หมู่ 4 ต.บางไทรป่า อ.บางเลน จ.นครปฐม เป็นโชเฟอร์รถร่วมปรับอากาศ ปอ.44 ได้รับบาดเจ็บถูกแทงเข้าที่ท้องน้อย 1 แผล นิ้วก้อยมือซ้ายหัก ส่วนอีกคนชื่อ นายเหมวัตร์ นิลแบน อายุ 34 ปี โชเฟอร์รถร่วมสาย 92 ได้รับบาดเจ็บถูกฟันเข้าที่หลังแขนซ้าย ใต้รักแร้ซ้าย และแผ่นหลังซ้าย รวม 3 แผล อาการสาหัส เจ้าหน้าที่รีบนำตัวทั้งคู่ส่งโรงพยาบาลราชวิถีอย่างเร่งด่วน ส่วนในที่เกิดเหตุยังพบมีดสปาต้ายาวประมาณฟุตครึ่ง 1 เล่ม ด้ามคันเกียร์ทำด้วยเหล็กแป๊บน้ำ ยาวฟุตครึ่ง 1 ท่อน และเหล็กแป๊บยาวเท่ากันอีก 1 ท่อน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นตำรวจสอบปากคำ นายวิชิต ถมดี อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขสที่ 580 หมู่บ้านแฮปปี้แลนด์ 1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.พนักงานเก็บค่าโดยสาร (พกส.) หรือกระเป๋ารถเมล์สาย ปอ.44 ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายณรงค์โชเฟอร์ได้ขับรถอยู่เลนซ้ายสุด โดยวิ่งมาจากแยกลาดพร้าวมุ่งหน้าไปบางกะปิ เมื่อถึงแยกไฟแดงก่อนถึงปากซอย 39 สังเกตไปหลังรถเห็นมีรถเมล์สาย 92 จำนวน 2 คันวิ่งแข่งกันมา และมาติดสัญญาณไฟแดงอยู่ด้วยกัน เมื่อได้สัญญาณไฟเขียว นายณรงค์ได้เลื่อนรถออกไปเพื่อจะเข้าป้ายข้างหน้า แต่ปรากฏว่ารถเมล์สาย 92 ขับแซงขวามาแล้วปาดหน้าจนทำให้กระจกมองข้างเฉี่ยวกัน ทำให้นายณรงค์โมโห พร้อมเปิดกระจกหน้าต่างตะโกนด่าออกไปว่า ขับรถประสานอะไรวะ จากนั้นได้ยินโชเฟอร์รถเมล์สาย 92 ตะโกนกลับมาว่า มีปัญหาอะไรไหม ซึ่งต่อมา ทั้งคู่เกิดโต้เถียงและท้าทายกันขึ้น
ในที่สุดทั้งคู่ได้ลงจากรถมาข้างถนน โดยนายณรงค์ถือมีดสปาต้าลงไป ส่วนโชเฟอร์รถเมล์สาย 92 ถือคันเกียร์ และเหล็กแป๊บลงมา ในขณะที่กระเป๋ารถเมล์สาย 92 ถือไม้วิ่งตามลงมาอีก 1 ท่อน เมื่อทั้งคู่มาเจอกันต่างก็เข้าตะลุมบอนใส่กันและกันไม่ยั้ง ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของผู้โดยสารที่ต่างรีบวิ่งลงจากรถเพื่อความปลอดภัย โดยโชเฟอร์รถเมล์สาย 92 ใช้ด้ามคันเกียร์แทงเข้าที่ท้องน้อยนายณรงค์จนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นจึงมีคนเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกัน ก่อนที่ตำรวจจะมาและนำผู้บาดเจ็บทั้งคู่ส่งโรงพยาบาลดังกล่าว
ด้าน นายจรัญ สกัดกลาง อายุ 20 ปี พนักงานเก็บค่าโดยสารประจำรถเมล์สาย 92 ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเหมวัตร์ ลูกพี่ขับรถมาจากลาดพร้าว และไม่ได้แข่งกับใครมา จนมาถึงบริเวณสัญญาณไฟแดง ซึ่งก็เห็นว่ารถ ปอ.สาย 44 คู่กรณีจอดติดไฟแดงอยู่เลนซ้ายสุด ส่วนคันของตนจอดคู่กันอยู่ข้างๆ เมื่อได้สัญญาณไฟเขียวจึงตีคู่กันออกไป แต่มีรถเก๋งคันหน้าเกิดเบรกกะทันหันทำให้ลูกพี่ถึงกับต้องเบรกตัวโก่ง และกระจกมองข้างซ้ายไปเกี่ยวกระจกมองข้างรถ ปอ.44 เข้า จากนั้นทั้งคู่ได้โต้เถียงด่ากันไปมา และท้ากันลงไปข้างล่าง โดยลูกพี่บอกให้ตามลงไป จึงได้ถือไม้ติดมือลงไปด้วย แต่เมื่อลงไปถึงเห็นโชเฟอร์รถ ปอ.สาย 44 ถือมีดสปาต้ามา ตนจึงวิ่งหนีและเห็นลูกพี่ถูกฟันก่อน ส่วนที่โชเฟอร์รถเมล์ ปอ.44 ถูกคันเกียร์แทงเข้าที่ท้องน้อยนั้น ลูกพี่ไม่ได้แทง แต่ขว้างออกไปเท่านั้น
เบื้องต้นตำรวจยังคงต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะตั้งข้อหาและดำเนินคดีต่อไป