เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 เม.ย. ได้เกิดฟ้าคะนองและฝนตกลงมาอย่างหนักนานราว 1 ชั่วโมง ในหลายพื้นที่ของ กทม.
รวมถึงมีลมกระโชกแรงส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างมาก โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนักนั้น ที่บริเวณแยกห้วยขวาง หน้าสถานีดับเพลิงห้วยขวาง ได้มีลูกเห็บขนาดเท่าน้ำแข็งบด ตกลงมาด้วยราว 1-2 นาที และเมื่อลูกเห็บโดนน้ำฝนก็ละลาย แต่ก็สร้างความแตกตื่นให้ชาวบ้านในย่านดังกล่าว โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหายแต่ อย่างใด
ขณะที่ที่ถนนวิภาวดีรังสิต ขาเข้า หน้า วปอ.ในช่องทางด่วน ยังได้เกิดน้ำท่วมขัง ระดับน้ำสูง 50 ซม.
ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด รถเล็กผ่านไปมาไม่สะดวก นอกจากนี้ การที่จู่ๆฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ยังทำให้น้ำฝนไหลเข้าบ้านเรือนประชาชนในถนนประชาสงเคราะห์ จนต้องเร่งวิดน้ำกันจ้าละหวั่น เพื่อไม่ให้ข้าวของเสียหาย เช่นเดียวกับที่หน้าพัน. 1 รอ. ถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก ก็เกิดน้ำท่วมขังสูง 60 ซม. สาเหตุเนื่องมาจากเครื่องสูบน้ำไม่ทำงาน ทำให้รถวิ่งได้เฉพาะเลนขวาสุด และมีรถยนต์จอดเสียอยู่หลายคัน ซึ่งหลังจากฝนซา เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยของ กทม.และตำรวจ จร.สน.วิภาวดี ต้องมาช่วยกันอำนวยความสะดวกและแก้ไขรถที่จอดเสีย นอกจากนี้จากฤทธิ์ลมกระโชกแรง ยังทำให้ ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่บนดาดฟ้าอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นสี่แยกสุทธิสาร ถนนวิภาวดีรังสิต หักลงมาสร้างความหวาดเสียวให้กับผู้คนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย กทม.ได้เข้ารื้อป้าย และรอตรวจสอบว่ามีการขออนุญาตติดตั้งถูกต้องหรือไม่
ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษก กทม. เปิดเผยว่า
หลังเกิดพายุฤดูร้อนในกรุงเทพฯ ช่วงเวลา 14.30-15.00 น. กทม.ได้รับรายงานมีเหตุต้นไม้และป้ายโฆษณาล้ม รวมทั้งลูกเห็บตกในเขตต่างๆ รวม 9 จุด ดังนี้ ต้นไม้ล้ม 3 จุด ได้แก่ ต้นยางโค่นล้มที่ปากซอยพหลโยธิน 6 ถนนพญาไท ต้นไม้ฟาดหลังคาบ้าน เลขที่ 88/4 ชุมชนอินทามระ 1 ถนนสุทธิสาร เขตพญาไท จนไฟฟ้าดับ และบริเวณปากซอยประชาสงเคราะห์ 30 เขตดินแดง ไฟดับเช่นกัน ป้ายโฆษณาล้ม 3 จุด ได้แก่ ปากซอยวิภาวดี 6 เขตดินแดง บริเวณชุมทางรถไฟมักกะสัน ถนนนิคมมักกะสัน เขตราชเทวี และบริเวณหน้าห้างเดอะมอลล์ บางแค เขตบางแค นอกจากนี้ยังมีลูกเห็บเท่าปลายนิ้วก้อยตกที่เขตดินแดง เขตห้วยขวาง และที่เขตบางแค อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ได้ออกประกาศ กทม.เตือนภัยพายุฤดูร้อน
เพื่อให้ประชาชนระมัดระวัง หมั่นตรวจตราต้นไม้ในบ้าน และสายไฟฟ้าต่างๆ หากชำรุดให้เร่งแก้ไข และหากพบต้นไม้ปกคลุมเสาไฟฟ้าให้แจ้ง กทม. เพื่อไปตัดแต่ง รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการเร่งรื้อป้ายโฆษณาที่ผิดกฎหมายและหมั่นตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง ไม่ให้เกิดปัญหากับประชาชน ไม่เช่นนั้นจะโดนโทษทั้งทางแพ่งและอาญา ส่วน กทม.ได้เตรียมพร้อมทุกส่วนทั้งหน่วยเบสท์ดูแลแก้ไขปัญหาฉุกเฉิน ให้ทั้ง 50 เขต ติดตามปัญหาตลอด 24 ชม. เพื่อช่วยเหลือประชาชน สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดเตรียมรถยกและรถฉุกเฉินต่างๆ ส่วนสำนักอนามัยและสำนักการแพทย์จัดเตรียมรถพยาบาลและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เฝ้าระวังภัยตลอด 24 ชม. เช่นกัน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังนายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อสอบถามถึงสาเหตุของการเกิดฝนตกดังกล่าว
แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และได้รับการเปิดเผยจากนายคทาวุธ มาลัยโรจน์ศิริ หัวหน้าเวรพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ว่า ที่อากาศเป็นเช่นนี้เพราะมีความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมตอนบนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนประเทศไทยซึ่งมีอากาศร้อนอบอ้าวอยู่แล้ว จึงส่งผลทำให้เกิดฝนตกหนักและมีลูกเห็บในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพฯ จะมีสภาพอากาศเช่นนี้ไปอีก 1-2 วัน และอาจมีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อนได้ในระยะนี้อีกด้วย ส่วนพายุไต้ฝุ่น “นีโอกูรี” ในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย