โชเฟอร์ 54 ศพ! โผล่เข้ามอบตัว ซัดทอด โกรัน ลูกน้อง โกชุ้น

จากเหตุการณ์สลดใจกรณีขบวนการค้ามนุษย์ใช้รถ 6 ล้อห้องเย็น

ลักลอบขนแรงงานชาวพม่าอัดแน่นเต็มห้องเย็น เดินทางจากแพปลา ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จะไปส่งที่ จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต ระหว่างทางระบบปรับอากาศห้องเย็นเกิดขัดข้อง ทำให้คนงานเคราะห์ร้ายขาดอากาศหายใจเสียชีวิต 54 ศพ และอาการหนัก 66 คน หลังเกิดเหตุตำรวจจับกุมนายจิราวัฒน์ โสภาพันธุ์วรากุล หรือโกชุ้น อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/9 หมู่ 5 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง เจ้าของแพปลาโชคเจริญชัย และเจ้าของรถห้องเย็นมรณะ สอบสวนให้ยังการปฏิเสธ จึงคุมตัวไว้สอบขยายผลนั้น
 

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 เม.ย.

พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จ.ระนอง เดินทางไปที่ สภ.สุขสำราญ อ.เมืองระนอง ร่วมกับพนักงานสอบสวนเบิกตัวนายจิราวัฒน์ โสภาพันธุ์วรากุล หรือโกชุ้น เจ้าของรถมรณะ มาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดระนอง พร้อมคัดค้านการประกันตัว จากนั้น พล.ต.ต.อภิรักษ์เผยว่า จากการสอบสวนนายจิราวัฒน์ ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ อ้างว่าแพดังกล่าวไม่ได้เป็นผู้บริหาร หรือเป็นเจ้าของแล้ว แต่ให้คนอื่นเช่าดำเนินกิจการต่อ พนักงานสอบสวนจึงคัดค้านการประกันตัว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ประชาคมโลกให้ความสนใจ อีกทั้งผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพล ที่สำคัญคือทางการพม่าให้ความสนใจส่ง พ.ต.ท.เยมิน หัวหน้าหน่วยต่อต้านการค้ามนุษย์ และรองหัวหน้าปราบปรามคดีอาญาจังหวัดเกาะสอง มาประสานขอข้อมูลอย่างใกล้ชิด
 

ผบก.ภ.จ.ระนองกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จากการ สอบประวัติพบว่า ภรรยาของนายจิราวัฒน์มีคดีเรื่องการค้ามนุษย์ข้ามชาติในทำนองเดียวกันนี้มาก่อน

คือเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2539 มีการนำแรงงานพม่า 60 คนใส่รถ 10 ล้อ “บริษัทโชคเจริญขนส่ง” มีการคลุมผ้าใบมิดชิดออกจากจังหวัดระนอง เพื่อไปส่งยังจังหวัดภูเก็ต แต่ระหว่างทางผ่านท้องที่หมู่ 1 ต.บางวัน อ.คุระบุรี จ.พังงา คนงานพม่าที่อยู่ในรถสูบบุหรี่แล้วทิ้งก้นบุหรี่ไม่พ้นผ้าใบ จึงเกิดไฟไหม้คลอกแรงงานชาวพม่าเสียชีวิตไปจำนวน 39 ศพ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังประสานข้อมูลเรื่องคดีดังกล่าวไปยังพื้นที่ อ.คุระบุรี เพื่อตรวจสอบดูว่า จะมีความเกี่ยวพันกันหรือไม่อย่างไร เนื่องจากบริษัทดังกล่าวเป็นเจ้าของเดียวกับแพโชคเจริญชัย
 


พล.ต.ต.อภิรักษ์กล่าวว่า ในส่วนที่เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

มาประสานข้อมูลเพื่อให้ดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.การกระทำต่อผู้หญิงและเด็กและการฟอกเงิน เพื่อที่จะยึดทรัพย์ โดยทางดีเอสไอจะดึงคณะทำงานจาก ปปง.มาร่วมด้วยนั้น ทางเรายินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ แต่ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมกับจังหวัดอีกครั้ง เนื่องจากจังหวัดมีคณะกรรมการทำงานเรื่องการค้าผู้หญิงและเด็กอยู่อีกชุด ที่มีนางกาญจนาภา กี่หมัน ผวจ.ระนอง เป็นประธานอยู่


ด้าน พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศ และคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยว่า
 
ขณะนี้ได้ประสานขอข้อมูลจากตำรวจภาค 8 และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือการรอคำตอบจากพื้นที่ว่าจะมีการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การกระทำต่อผู้หญิงและเด็ก และการฟอกเงิน หากพื้นที่ดำเนินการแล้วจะได้ประสานไปยัง ปปง.ร่วมกันเป็นคณะทำงาน เพื่อจะได้ลงไปยังพื้นที่จังหวัดระนองอีกครั้ง
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายวันเดียวกัน นายไชยันต์ ปฎิยุทธ์ นายอำเภอสุขสำราญ จ.ระนอง
 
พร้อมด้วย พ.อ.สรรเสริญ คล้ายแก้ว รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจเสือดำ กองกำลังสุรสีห์ ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 4 รูป ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับแรงงานพม่าที่เสียชีวิตที่บริเวณจุดเกิดเหตุ บ้านบางกล้วย หมู่ 3 ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง เพื่อความสบายใจของชาวบ้านในพื้นที่ และเพื่อส่งวิญญาณของผู้เสียชีวิตไปสู่สุคติต่อไป


ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่ห้องประชุม สภ.เมืองระนอง นางกาญจนาภา กี่หมัน ผวจ.ระนอง
 
พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จ.ระนอง นำตัวนายสุชล บุญปล้อง คนขับรถห้องเย็นมรณะ แถลงข่าวโดยมี พ.ต.ท.เยมิน หัวหน้าหน่วยต่อต้านการค้ามนุษย์ และรองหัวหน้าปราบปรามคดีอาญาจังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ นางกาญจนาภากล่าวว่า เมื่อเย็นวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา พี่สาวนายสุชลเข้าพบที่จวนผู้ว่าฯ บอกว่าจะนำนายสุชลเข้ามอบตัว เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย และให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรับตัวที่กรุงเทพฯ จึงมอบหมายให้นายสมพร ปัจฉิมเพชร ป้องกันจังหวัดระนอง เดินทางไปรับ แต่ระหว่างทางได้เจรจามาพบกันที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่จวนผู้ว่าฯเพื่อความปลอดภัย
 

ด้าน พล.ต.ท.ธานีกล่าวว่า จากการสอบสวนนายสุชล ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับกลุ่มขบวนการ ค้าแรงงานต่างด้าวจริง

โดยในวันเกิดเหตุนายดำรงค์ ผุสดี หรือโกรัน เรียกให้นายสุชลมาขับรถ เพราะว่าได้รับการติดต่อจากนายหน้าคนหนึ่งว่าให้ไปขนแรงงานต่างด้าวที่แพโชคเจริญชัย หมู่ 5 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง พอนายสุชลไปถึง มีชายหญิงสองคนช่วยกันนับจำนวนแรงงานพม่าขึ้นรถ แล้วให้นายสุชลขับไปส่งที่บ้านอ่าวมะขาม ถนนศักดิเดช ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ได้ค่าจ้าง 8 หมื่นบาทต่อเที่ยว โดยก่อนออกเดินทาง ผู้หญิงจะจดเบอร์โทรศัพท์คนงานพม่าให้นายสุชลโทร.ติดต่อสอบถามความเป็นอยู่ของคนงานในรถ แต่เนื่องจากเส้นทางคดเคี้ยวต้องขับรถอย่างระมัดระวัง นายสุชลจึงไม่ได้รับโทรศัพท์ กระทั่งคนงานทุบรถดังลั่นถึงจอดรถดู พอเห็นว่าคนงานตายมากด้วยความตกใจนายสุชลจึงหลบหนี และเกรงจะไม่ปลอดภัยเลยให้ญาติติดต่อผู้ว่าฯเพื่อเข้ามอบตัว ซึ่งจะได้ขยายผลและติดตามจับกุมผู้เกี่ยวข้องต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์