ลวนลามจับโยนน้ำ สาวจมดับ สงกรานต์ป่าเถื่อน

การเล่นสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์ 2551

ในวันที่ 15 เม.ย. ซึ่งดำเนินติดต่อกันมาเป็นวันที่ 4 และเป็น วันสุดท้ายแล้วนั้น ปรากฏว่า จุดที่ผู้คนนิยมไปเล่นสาดน้ำ อาทิ ถนนข้าวสาร กทม. เริ่มคึกคักขึ้นตั้งแต่หัววัน เช่นเดียวกับที่ถนนสีลม ช่วงตัดถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ที่กลายเป็นอีกจุดที่มีฝูงชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่น หนุ่มสาว เข้ามาเล่นสาดน้ำกันจนรถราติดขัด
 

นอกจากนี้ จากการตระเวนตามสถานที่เล่นสาดน้ำทั่วกรุงและปริมณฑล

พบว่าการเล่นสงกรานต์ที่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ได้สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ใช้เส้นทางสัญจรอย่างมาก เพราะรถติดขัดยาวเหยียดตลอดทั้งเส้นประมาณ 10 กม. เนื่องจากมีรถกระบะจอดเรียงรายปิดช่องทางจราจรทั้งขาไปและกลับ เพื่อเล่นน้ำสงกรานต์ พร้อมกันนี้รถบางคันยังเปิดเพลงดังกระหึ่ม ขณะเดียวกันมีการขายเหล้าเบียร์ไม่อั้น ทำให้บรรยากาศการเล่นสาดน้ำในบริเวณนี้มีครบเครื่องทั้งเรื่องชกต่อยระหว่างวัยรุ่นชาย การลวนลาม อนาจาร รุมประแป้งวัยรุ่นสาวๆ มีให้เห็นไม่ขาดระยะ ซึ่งหญิงสาววัยรุ่นบางรายก็ท้าทายสายตาด้วยการใส่เสื้อยืดแนบเนื้อมา และเมื่อเมาได้ที่ก็กระโดดขึ้นไปบนท้ายรถกระบะ วาดลวดลายเต้นยั่วยวน ท่ามกลางวัยรุ่นกลัดมันที่ส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะที่เรียกเสียงฮือฮาคือ เด็กสาววัยรุ่นหน้าตาดี 3 คน แต่งกายชุดนักเรียนมัธยมต้น ติดเข็มกลัดที่หน้าอกปิดบังชื่อสถาบัน ยักย้ายส่ายสะโพกร่วมกับกลุ่มวัยรุ่นชายบนรถ 6 ล้อ ที่แล่นผ่านไปมาบริเวณด้านหน้าพุทธมณฑล ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาทำบุญภายในพุทธมณฑลว่าไม่เหมาะสม

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลความเรียบร้อย อยู่ด้านหน้าพุทธมณฑลถึงการจัดระเบียบการเล่นสงกรานต์ในบริเวณดังกล่าว

ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่อยากตักเตือน เพราะ 1 ปีมีครั้งเดียว เหมือนกับวันปล่อยผีของบรรดาเด็กวัยรุ่น

ส่วนที่ถนนข้าวสาร ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ทางสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสารจัดให้มีการเล่นสาดน้ำกัน ทำให้มีผู้คนหลายหมื่นคนเข้าไปเล่นสาดน้ำอย่างเมามัน ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้สถานที่รอบๆ ถนนข้าวสาร เล่นประแป้งกันอย่างมันมือ ส่งผลให้พื้นถนนเจิ่งนองไปด้วยน้ำแป้งสีขาวโพลนไปหมด โดยเฉพาะสาวๆวัยรุ่นที่เดินทางมาเล่นสาดน้ำบริเวณนี้ ทุกคนที่ถูกหนุ่มๆนำแป้งมาประที่แก้มและใบหน้า ก็ไม่ได้มีอาการโกรธเคืองแม้แต่น้อย ตรงข้ามกลับส่งยิ้มส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดด้วยความสนุกสนาน บางรายสวมเสื้อยืดใส่ขาสั้นมาเพียงชั้นเดียวมาเที่ยว และเมื่อเปียกน้ำเข้าก็เห็นลึกไปถึงชุดชั้นใน กลุ่มวัยรุ่นสาวเหล่านี้ก็ยังสามารถขยับโยกย้ายส่ายสะโพก เต้นแร้งเต้นกาได้อย่างไม่อายสายตาใคร นอกจากนี้ ยังมีนางลีนา จังจรรจา หรือลีน่า จัง อดีตผู้สมัคร ส.ว.กรุงเทพมหานคร มาร่วมสร้างสีสันด้วยการแต่งชุดไทย นั่งเสลี่ยง มาให้เด็กวัยรุ่นสาดน้ำด้วย
 

ด้านนายสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร กล่าวว่า

คาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดระหว่างวันที่ 12-15 เม.ย. ราววันละ 70-80 ล้านบาท หรือช่วง 4 วัน สะพัดกว่า 300 ล้านบาท โดยปีนี้เป็นปีแรก ที่เทศกาลสงกรานต์บนถนนข้าวสารเน้นเรื่องวัฒนธรรมไทยมากขึ้น

ขณะที่บรรยากาศการเล่นสงกรานต์วันสุดท้ายในหลายจังหวัด ก็คึกคักไม่แพ้กัน

มีประชาชนออกมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานกันตั้งแต่เช้า และยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นในช่วงบ่าย โดยที่นิยมกันมากคือนำถังน้ำใส่รถกระบะออกมาวิ่งสาดน้ำกันเป็นที่ครึกครื้น ส่งผลให้การจราจรในหลายพื้นที่มีปัญหาติดขัด เช่น ที่ถนนรอบคูเมืองด้านข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ.นครราชสีมา และที่ตามมาคือ มีเหตุทะเลาะวิวาทชกต่อยไล่ฟันเกิดขึ้นหลายจุด เช่นที่ถนนข้าวหลาม มีเหตุชกต่อยใช้ขวดเบียร์ขว้างและวิ่งไล่ตีกันของวัยรุ่น และมีรถยนต์ของทหารได้รับความเสียหายและโต้เถียงจนเลยเถิดมีการใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าข่มขู่ แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง เช่นเดียวกับที่ถนนสายจีระ หน้าคอร์ตสนามแบดมินตัน มีเหตุทะเลาะวิวาทไล่ตีกันจนได้รับบาดเจ็บหัวแตกหนังศีรษะเปิดเลือดไหลอาบ เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่าจะเข้าไปถึงที่เกิดเหตุทั้งสองฝ่ายต่างแยกย้ายหลบหนีไปก่อนแล้ว

อย่างไรก็ดี การเล่นสงกรานต์สุดห่ามจนเกิดเหตุน่าสลด เกิดขึ้นในช่วงเย็นวันเดียวกัน

โดยเวลา 17.30 น. ร.ต.ท.ประวิทย์ มีวงษ์ ร้อยเวร สภ.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง รับแจ้งมีหญิงสาวถูกจับโยนน้ำเล่นสงกรานต์จนจมน้ำเสียชีวิตที่คลองชลประทาน ริมถนนสายวิเศษชัยชาญ-บางจัก หรือถนนข้าวสุก บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. ม.5 ต.คลองขนาก จึงนำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.พิทักษ์ อดิศักดิ์ สว. พบว่าผู้เคราะห์ร้ายถูกงมขึ้นจากน้ำและนำส่ง รพ.วิเศษชัยชาญ ชื่อ น.ส.ชิดชนก ช่างยา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.12 ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ แต่เสียชีวิตระหว่างทาง แพทย์ระบุสาเหตุว่าจมน้ำจนขาดอากาศหายใจ จากการสอบสวนทราบว่าก่อเกิดเหตุ ผู้ตายพร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนจำนวนหนึ่งได้ชวนกันออกมาเล่นสงกรานต์เรื่อยไปตามถนนข้าวสุก พอไปถึงที่เกิดเหตุได้มีกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเล่นสงกรานต์เช่นกันกรูกันเข้ามาประแป้งสาดน้ำ แต่ยังไม่หนำใจได้ช่วยกันจับร่างของหญิงสาวโยนลงไปในน้ำและโดดตามลงลวนลามต่อ จนหญิงสาวจมน้ำไปต่อหน้า หลังกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจากไป กลุ่มเพื่อนจึงช่วยกันงมร่างพาส่ง รพ. แต่เสียชีวิตลงอย่างน่าสลดใจดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเล่นสงกรานต์แบบห่ามของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน

นายศุทธนะ ธีวีระปัญญา ผวจ.อ่างทอง ได้ประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน จ.อ่างทอง และมีความคิดว่าจะให้ติดตั้งกล้อง วงจรปิดคุมเข้มการเล่นน้ำสงกรานต์ของวัยรุ่นที่ไม่สุภาพและส่อไปในทางอนาจาร มีการทะเลาะวิวาทบ่อย ที่ถนนข้าวสุก อ.วิเศษชัยชาญ พร้อมทั้งกำชับตำรวจเข้มงวดกวดขัน แต่บรรดาวัยรุ่นที่คึกคะนองด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์กลับไม่รู้สึกเกรงกลัว และก่อเหตุกระทำอนาจารลวนลามหญิงสาวบนถนนอีก แต่เมื่อถูกเจ้าหน้าที่จับกุม จึงเปลี่ยนไปใช้วิธีปฏิบัติการในน้ำ เพื่อหลบสายตาเจ้าหน้าที่ โดยจะใช้วิธีการรุมเข้าไปจับอุ้มหญิงสาวโยนลงไปในคลองน้ำริมถนน และตามลงไปคลึงเค้น “บีบแตร” และลวนลามทางเพศกันอย่างโจ๋งครึ่ม และกว่าที่เหยื่อสาวจะตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำได้ก็ย่ำแย่ ท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจของกองเชียร์และผู้เห็นเหตุการณ์ เท่านั้นยังไม่หนำใจยังมีหนุ่มสาวบางคู่ยืนกอดรัดกันกลางถนน และมีหญิงสาวซึ่งคาดว่าคงดื่มสุราเข้าไปถอดเสื้อเหลือแต่ยกทรง นุ่งกางเกงสั้นจู๋ขึ้นไปยืนเต้นโชว์อย่างไม่อายสายตาคนนับพันคนด้วย

ส่วนสงกรานต์ใน 3 จังหวัดภาคใต้นั้น ปรากฏว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นายอะหมาน หมัดอะดัม ผอ.ททท.สนง.ภาคใต้ เขต 3 เปิดเผยว่า

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 12-14 เม.ย. มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประมาณ 16,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางมาในพื้นที่แนวชายแดน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่ง 3 วัน มีเงินสะพัด ในพื้นที่กว่า 30 ล้านบาท ทำให้เชื่อมั่นว่าหากหลังจากนี้ไม่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นอีก ก็จะส่งผลถึงปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า

จากการตรวจดูการเดินทางกลับเข้ามาของผู้โดยสารจากต่างจังหวัด พบว่าที่สถานีขนส่งหมอชิตยังไม่หนาแน่นมากนัก เพราะเป็นช่วงของการเริ่มทยอยเดินทางกลับ และปริมาณผู้โดยสารจะเริ่มมากขึ้นในช่วงค่ำและจะหนาแน่นมากที่สุดในวันที่ 16 เม.ย. โดยจะมีจำนวนกว่า 2 แสนคน ดังนั้นการรองรับผู้โดยสารช่วงขากลับ ระหว่างวันที่ 16-17 เม.ย. ยังคงเตรียมจัดรถโดยสารเพิ่มจากปกติ 3,800 เที่ยว เป็น 6,000 เที่ยว เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางกลับเข้ามาได้เหมือนกับช่วงการเดินทางไป
 

ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลสงกรานต์ เริ่มทยอยเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ซึ่งตลอดทั้งวันการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เพิ่มเที่ยวรถพิเศษอีก 12 ขบวน จากเที่ยวรถปกติ 256 ขบวน ระหว่างวันที่ 15-17 เม.ย.นี้ คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน และคาดว่าจะหนาแน่นที่สุดเช้าวันที่ 16 เม.ย. โดยนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ โฆษกประจำคณะกรรมการ รฟท. ยืนยันว่าหากจำนวนรถพิเศษที่เพิ่มอีก 12 ขบวน ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสาร รฟท.พร้อมเพิ่มรถเที่ยวพิเศษอีก เพื่อรองรับผู้โดยสารไม่ให้ตกค้าง