จากการสอบปากคำ ด.ต.เชาวรินทร์ ปัญญาวชิรกุล ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.3 หนองมน ผู้วิสามัญคนร้ายให้การว่า
ก่อนเกิดเหตุนั่งรถสายตรวจคันดังกล่าว มี ด.ต.พิเชษฐ์พงศ์ แก้วนารี เป็นคนขับ ออกตรวจความเรียบร้อยบนถนนทางหลวงพื้นที่รับผิดชอบ ระหว่างนั้นได้ยินศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองชลบุรี แจ้งให้ช่วยสกัดจับคนร้ายใช้แบงก์ปลอมเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ หมู่ 6 ถนนบายพาสเลี่ยงเมืองชลบุรี ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จึงขับรถสายตรวจไปดักซุ่มสกัดจับหน้าแฮปปี้เวิลด์ ถนนสุขุมวิท กระทั่งพบรถคนร้ายขับออกจากถนนบายพาสเลี่ยงเมืองห้วยกะปิเข้าสู่ถนนสุขุมวิท และวิ่งมายังจุดที่ดักซุ่มอยู่ ก่อนแซงขึ้นหน้าไปอย่างรวดเร็ว พวกตนจึงขับรถสายตรวจไล่ติดตาม
คนร้ายเห็นดังนั้นก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปโผล่ถนนเลี่ยงเมืองตลาดหนองมนแล้วเลี้ยวขวาขับย้อนศรผ่านร้าน อาหารครัวชนบท ก่อนเลี้ยวซ้ายสู่ถนนสุขุมวิทอีกครั้ง ผ่านตลาดหนองมน และ ส.ทล.2 กก.3 ชลบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทศบาลพัฒนา 1 ต.เหมือง แยกจากถนนสุขุมวิท 1 กม. พอถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายเห็นตำรวจไล่ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด จึงเปิดประตูข้างคนขับวิ่งลงจากรถ ปล่อยให้ รถเคลื่อนไถลเข้าข้างทางไปชนกระถางต้นไม้หน้าบ้านเลขที่ 180 แล้วชักปืนยิงใส่รถสายตรวจ กระสุนถูกตัวถังเหนือซุ้มล้อหน้าซ้าย ตนจึงลงจากรถชักปืน 9 มม. ยิงสวนไป 2 นัด กระสุนถูกคนร้าย 1 นัด ล้มลงเสียชีวิตคาที่
ต่อมา พ.ต.อ.วิสิทธิ์ ศิริสหวัฒน์ ผกก.วิทยาการ เขต 13 ชลบุรี
พร้อมด้วยอัยการจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และแพทย์ รพ.ชลบุรี ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ และตรวจค้นภายในรถกระบะของคนร้าย พบกระเป๋าเอกสารข้างในมีธนบัตรปลอมใบละ 1000 บาท จำนวน 29 ใบ ใบละ 500 จำนวน 30 ใบ และใบละ 100 จำนวน 1 ใบ รวมเป็นเงิน 44,100 บาท ยาบ้าบรรจุในหลอดยาดม 53 เม็ด จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน สำหรับรถกระบะคันดังกล่าวมีชื่อของ น.ส.กัญจนพร พูลทรัพย์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203/1 ถนนเทศบาลพัฒนา ต.เหมือง อ.เมืองชลบุรี อาชีพรับเหมาก่อสร้างรายย่อย เป็นเจ้าของรถ
พ.ต.ท.นิติ ทองอ่อน สว.สส. สภ.แสนสุข เปิดเผยว่า
ช่วงที่อยู่ในปั๊มน้ำมัน มีพยานเห็นว่าผู้ตายมากับเพื่อนอีก 3 คน แต่หลังเกิดเหตุยิงปะทะกับตำรวจแล้ว ปรากฏว่าเพื่อนทั้ง 3 คนหายตัวไป คาดว่าผู้ตายคงจะจอดรถให้ เพื่อนหลบหนีลงไปที่ใดที่หนึ่งก่อน คาดว่าผู้ตายและเพื่อนเป็นคนร้ายในแก๊งค้ายาบ้าและค้าแบงก์ปลอมที่เคยออกอาละวาดในพื้นที่มาแล้ว ซึ่งจะขยายผลจับกุมต่อไป สำหรับผู้ตายทำงานอยู่กับนายรัชตะ ปานทอง สามีของ น.ส.กัญจนพร พลูทรัพย์ เจ้าของรถกระบะ ซึ่งมีบ้านอยู่ในซอยที่เกิดเหตุนั่นเอง
พ.ต.ต.สมคิด เฮียงเสถียร พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า
ก่อนเกิดเหตุศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งจากพนักงานเก็บเงินปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถนนบายพาสเลี่ยงเมืองชลบุรี ว่า มีชายขับรถกระบะโตโยต้า สีดำ ทะเบียน กต 3222 ชลบุรี เข้ามาเติมน้ำมัน และจ่ายค่าน้ำมันด้วยธนบัตรปลอม ก่อนขับรถหลบหนีไป จึงแจ้งสกัดจับกุม กระทั่งคนร้ายขับรถหลบหนีเข้ามาในซอยเกิดเหตุ และยิงปะทะกับตำรวจทางหลวงที่ไล่ติดตามมาจนถูกวิสามัญดังกล่าว ขณะนี้เจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 13 ชลบุรี ตรวจเก็บหลักฐาน เช่น ปืนของคนร้าย พบเป็นปืนลูกโม่ 6 นัด แต่คนร้ายใส่กระสุนไว้ 5 นัด ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า กระสุนยิงไปแล้ว 2 นัด เหลือยังไม่ได้ยิง 3 นัด มีรอยถูกไกสับแต่ไม่ระเบิด 1 นัด จึงเก็บส่งไปตรวจพิสูจน์ ส่วน ด.ต.เชาวรินทร์ ปัญญาวชิรกุล ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.3 ผู้วิสามัญฯคนร้าย ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายไว้ก่อน พร้อมให้เจ้าหน้าที่วิทยาการ พิมพ์ลายนิ้วมือ และตรวจหาคราบเขม่าดินปืน ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป