สลดลูกสาวฆ่าแม่ สติไม่ดีมีดแทงดับ

เหตุสลดกลางกรุง ลูกสาววัย 41 ปี ทะเลาะกับแม่

คว้ามีดทำครัวจ้วงแทง 4 แผลตายสยองคาบ้านย่าน พลับพลาไชยแล้วยืนรอมอบตัว สอบสวนอ้างแม่ชอบดุด่า เก็บกดอึดอัดมาตั้งแต่สมัยเป็นน.ศ.แพทย์ ธรรมศาสตร์ กีดกันไม่ให้คบหากับแฟนหนุ่ม ก่อนเกิดเหตุต่อว่าอีกเลยคว้ามีดแทงดับ ขณะที่เพื่อนบ้านระบุมีอาการทางประสาท เคยรักษาตัวที่ร.พ.สมเด็จเจ้าพระยา จนทุเลา หมอให้กลับบ้าน อยู่กับแม่ 2 คนมักทะเลาะเบาะแว้งลงไม้ลงมือกันประจำ

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 12 เม.ย. พ.ต.ท. สมชาย เชยล้อมขำ พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.พลับพลาไชย 1

รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกแทงเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 38 ซอยเฉลิมเขต 1 แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ที่ชั้นล่างพบสิ่งของภายในบ้านถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย และพบศพนางกิ่งแก้ว ชูเวชศิริพร อายุ 60 ปี สวมชุดนอนสีแดงลายดอก นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนโซฟา ถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่ลำตัว 4 แผล ข้างศพพบมีดทำครัวที่ด้ามและใบมีดหักแยกออกจากกันตกอยู่ ส่วนมือมีดผู้ก่อเหตุยืนรอมอบตัวอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ ทราบชื่อ น.ส.กนกพร ชูเวชศิริพร อายุ 41 ปี เป็นลูกสาวของผู้ตาย

จากการสอบสวน น.ส.กนกพร ให้การว่ามีพี่น้องทั้งหมด 6 คน

ก่อนเกิดเหตุพี่น้องในครอบครัวเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงเหลือตนและแม่เพียง 2 คน ขณะที่นั่งรับประทานอาหารกันอยู่นั้น ถูกแม่ต่อว่าอย่างรุนแรงจนทำให้มีปากเสียงกัน ตอนนั้นแม่พยายามจะทำร้าย จึงหันไปหยิบมีดทำครัวที่วางอยู่แทงแม่เสียชีวิต ก่อนหน้านี้ถูกแม่ต่อว่าอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่สมัยศึกษาอยู่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตอนนั้นแม่กีดกันไม่ให้คบหากับแฟนหนุ่ม และถูกต่อว่ามาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี จึงรู้สึกอึดอัดและบันดาลโทสะก่อเหตุสลดขึ้น

ด้านพยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ผู้ตายจะอาศัยอยู่กับลูกสาวเพียง 2 คนเท่านั้น
 
โดยจะมีลูกชายอีกคนแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนอยู่บ่อยครั้ง ผู้ต้องหามีอาการทางจิต เคยเข้ารับรักษาตัวที่ร.พ. สมเด็จเจ้าพระยา แต่ช่วงหลังอาการดีขึ้น แพทย์จึงอนุญาตให้กลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและผู้ต้องหามีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายลงมือทำร้ายร่างกายกัน จังหวะนั้นผู้ต้องหาหันไปหยิบมีดทำครัวขึ้นมา แทงผู้ตายจนเสียชีวิต ก่อนหน้านี้ผู้ตายและผู้ต้องหามักจะมีปากเสียงและก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันอยู่บ่อยครั้ง

พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำผู้ต้องหา และส่งตัวไปตรวจร่างกายว่า มีความผิดปกติทางจิตจริงหรือไม่ เพราะขณะนี้ผู้ต้องหายังให้การไม่รู้เรื่อง ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป