สงกรานต์ดุ วันแรก45ศพ

ผู้คนยังหลั่งไหลเดินทางกลับภูมิลำเนาไปฉลองสงกรานต์กันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย. จนถึงวันที่ 12 เม.ย. ขณะที่เพียงแค่วันแรกของเทศกาลสงกรานต์ มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุไปแล้วเกือบครึ่งร้อย บาดเจ็บอีกกว่าครึ่งพันทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจร ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย. ต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 12 เม.ย. ว่า

เส้นทางถนนสายเอเชีย มีประชาชนเดินทางจาก กทม.ไปฉลองสงกรานต์ที่ภาคเหนือและกลับภูมิลำเนากันจำนวนมาก
จนมีรถติดขัดอย่างหนักที่บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ยาวเหยียดไปจนถึงหน้าห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทางประมาณ 10 กม. เนื่องจากมีการปรับช่องทางจราจรตรงเชิงสะพานจาก 4 ช่องเหลือเพียง 2 ช่องจราจร พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องสั่งการให้เปิดช่องทางพิเศษฝั่งตรงข้ามอีก 1 ช่องทาง ระบายรถให้ลื่นไหลไปได้ และในเวลา 10.00 น. นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รมช.มหาดไทย เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ตรวจสอบสภาพการจราจรและดูการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์จากผู้ขับขี่ยวดยานทุกชนิดของเจ้าหน้าที่ ที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย หน้าศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และยังนำเจ้าหน้าที่ติดสติกเกอร์หน้ารถยนต์ เตือนสติผู้ขับขี่ให้ระมัดระวังเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนด้วย


ส่วนเส้นทางถนนสายมิตรภาพมุ่งสู่ภาคอีสาน สภาพการจราจรมีรถหนาแน่นติดกันยาวเหยียดตั้งแต่พื้นที่ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย
 
ต่อเนื่องมาจนถึง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ไปจนถึงพื้นที่ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื่องจากเป็นทางขึ้นเนินเขา ทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้า แม้ว่าตลอดเส้นทางจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งพื้นที่และตำรวจทางหลวงรวมทั้งเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ตั้งจุดคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรทุก 15 กม. จนถึงเส้นบายพาสแยกปักธงชัย-จอหอ ไป อ.โนนสูง ตำรวจได้เปิดช่องทางพิเศษเป็น 5 ช่องทางระบายรถ

ขณะที่บริเวณสถานีขนส่งแห่งที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา เต็มไปด้วยผู้โดยสารที่เดินทางจากจังหวัดต่างๆ นับพันๆคน รอขึ้นรถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง แต่ก็ต้องผิดหวังเนื่องจากรถที่ผ่านเข้ามาที่สถานีขนส่งแห่งนี้ที่นั่งเต็มหมด บางคนที่ไม่สามารถรอให้รถว่างได้จำใจขึ้นรถไปก็ต้องยืนโดยสาร นอกจากนี้ราคาอาหาร ไม่ว่าจะเป็นข้าวแกง หรือก๋วยเตี๋ยว ไก่ย่าง ส้มตำ น้ำดื่ม ของขบเคี้ยว พ่อค้าแม่ค้าต่างพากันขึ้นราคา


ตอนสายวันเดียวกัน ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน แถลงสถิติผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2551 ประจำวันที่ 11 เม.ย. ซึ่งเป็นวันแรกของการเดินทางว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 477 ครั้ง มากกว่าปี 2550 ที่เกิด 435 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 45 ราย มากกว่าปี 2550 ซึ่งเสียชีวิต 41 ราย บาดเจ็บ 557 ราย มากกว่าปี 2550 ซึ่งมี 514 ราย สาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดเกิดจากเมาสุรา รองลงมาคือขับรถเร็วเกินกำหนด ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง รองลงมาได้แก่ ถนนใน อบต.หมู่บ้าน จุดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ทางตรง รองลงมาได้แก่บริเวณทางโค้ง ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือกลางคืน โดยเฉพาะช่วงพลบค่ำ
 


นายพงศ์โพยมกล่าวว่า
 
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดในวันที่ 11 เม.ย. คือเชียงราย 28 ครั้ง จังหวัดที่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุ 5 จังหวัดมีกาฬสินธุ์ ปัตตานี ยโสธร ระนอง สิงห์บุรี จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ 5 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต รวม 47 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บมากที่สุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 29 ราย การเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากการจราจรตามเส้นทางหลัก มีปริมาณรถหนาแน่นมาก ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาเดินทางนานกว่าปกติ อาจทำให้คนขับมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้าได้ง่าย ส่งผลให้หลับใน ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ จึงขอให้ผู้ขับขี่แวะพักตามจุดบริการ จุดตรวจ หรือสถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย และหายจากอาการเมื่อยล้า แล้วค่อยขับรถต่อไป ที่สำคัญ ได้เน้นย้ำให้ด่านตรวจเข้มงวด กวดขัน รถโดยสารไม่ประจำทางในลักษณะของการเช่าเหมาคันเป็นพิเศษ เพื่อตรวจสอบสภาพความพร้อมของผู้ขับรถ โดยเฉพาะการง่วงหรือเมา

นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า
 
ได้กำชับทุกจุด ทั้งถนนสายหลัก สายรอง ถนนเชื่อมระหว่างหมู่บ้านให้ตั้งด่านเข้มงวด มีจุดพักรถทุกจุด โดยหากมีคนเกเรดื่มสุรา จะมีรถกรงเหล็กของตำรวจอยู่ตามจุดตรวจรออยู่ ให้นั่งอยู่ในกรงเหล็กจนหายเมาแต่ถ้าเชื่อฟังก็ให้นั่งพักผ่อน และหากมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำผิดกฎหมาย เช่น ดื่มสุรา จะกักตัวไว้จนกว่าจะมีผู้ปกครองมารับ จะทำบันทึกกับตำรวจด้วย นอกจากนี้ จะเน้นย้ำจุดตรวจที่บริเวณอันตราย เช่น ที่สายสระบุรี หรือสายนครสวรรค์ เป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม จะมีรางวัลเป็นประกาศนียบัตรให้กับจังหวัดที่มีอุบัติเหตุน้อยสุด บาดเจ็บ ตายน้อยสุด แต่ที่ตายมากคงไม่ได้ลงโทษ คงลำบาก เพราะทุกคนทำงานจะไปคาดโทษคงไม่ได้

ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมช.สาธารณสุข เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ว่า

ช่วงสงกรานต์ 11-17 เม.ย.นี้ กระทรวงได้เตรียมพร้อมโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศกว่า 800 แห่ง และหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินอีกกว่า 4,000 ทีม พร้อมรับมือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยกะทันหันตลอด 24 ชั่วโมง หากประชาชนเกิดปัญหาบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทุกประเภทแจ้งได้ที่หมายเลข 1669 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งที่น่าห่วงตลอดเส้นทางที่นั่งรถจากเส้นทางกรุงเทพฯ-โคราช พบว่าปริมาณการใช้รถปิกอัพมากที่สุด และมีการดัดแปลงต่อเติมหลังคามีราวกั้นด้านข้างที่กระบะรถ ใช้ไม้กระดานรองนั่งเป็นชั้นๆ ชาวบ้านเรียกว่ารถผีน้อย มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่โดยสารมาเต็มรถ ไม่ต่ำกว่าคันละ 10 คน พร้อมสัมภาระสภาพไม่ต่างจากปลากระป๋อง ซึ่งเสี่ยงอันตรายมาก เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใดๆทั้งสิ้น


สำหรับอุบัติเหตุที่บรรดาโชเฟอร์ตีนผีซิ่งคะนองเท้า
 
เมินมาตรการ “รณรงค์ลดอุบัติภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์” ก่ออุบัติเหตุเพียบโดยเมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 12 เม.ย. ร.ต.ต.นเรนทร วีระ ร้อยเวร สภ.เมืองอ่างทอง ไปสอบสวนเหตุรถพ่วง 18 ล้อ พุ่งชนรถและประชาชนตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณจุดสกัดตู้ยาม ต.03 ถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ หมู่ 4 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง มีผู้บาดเจ็บหลายรายและรถเสียหายหลายคัน พบว่ารถพ่วง 18 ล้อทะเบียน 80-5924 สิงห์บุรี เสียหลักพุ่งชนท้ายรถกระบะนิสสัน ทะเบียน นก 2892 สุพรรณบุรี ขณะจอดรอการตรวจสอบอยู่บริเวณจุดสกัดดังกล่าว แรงปะทะทำให้พุ่งตกลงไปข้างทางทั้ง 2 คัน มีผู้บาดเจ็บติดคาซากรถกระบะ 2 ราย คือนายสมเดช อ่อนศิริ อายุ 51 ปี เจ้าของรถกระบะ และนางอรทัย ครูอ่อน อายุ 27 ปี ลูกสะใภ้ที่กำลังตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน นอกจากนี้ยังมีรถกระบะ 1 คัน และรถ จยย.อีก 3 คัน ถูกเฉี่ยวชนเสียหาย รวมทั้ง ด.ต.ยงยุทธ เฟื่องฟู อายุ 50 ปี ผบ.หมู่งาน ป. สภ.เมืองอ่างทอง ถูกชนได้รับบาดเจ็บด้วย จึงลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ส่ง รพ.อ่างทอง ส่วนนายสมคิด ช่วงเตี้ย อายุ 39 ปี คนขับรถพ่วง ถูกคุมตัวไว้ได้ทันควันในสภาพเมาสุราอย่างหนัก นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป


รายต่อมาเวลา 07.20 น.
.
ร.ต.อ.ไพบูลย์ คูณค้ำ ร้อยเวร สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา พร้อมกับ พ.ต.อ.พิษณุ วัตถุ ผกก. ไปตรวจสอบเหตุรถชนกันหน้าบริษัท ซีพี.อุตสาหกรรมจำกัด ถนนมิตรภาพ ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย พบรถกระบะโตโยต้าไทเกอร์ ทะเบียน ลย 6755 กรุงเทพมหานคร เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนน ไปชนประสานงากับรถเทรเลอร์ 18 ล้อ หัวลากทะเบียน 76-3787 กรุงเทพมหานคร และส่วนพ่วงทะเบียน 76-3792 กรุงเทพมหานคร ที่วิ่งสวนทางมาอย่างจัง แรงปะทะทำให้รถกระบะพังยับเยินมีผู้โดยสารในรถกระบะเสียชีวิตคาซากรวม 3 ศพ คือนายสำรวย คำทา อายุ 40 ปี คนขับรถ นางชะแร้ม คำทา อายุ 35 ปี ภรรยา และด.ช.วัย 5 เดือน ยังไม่ทราบชื่อ


นอกจากนี้ ยังพบผู้บาดเจ็บอีก 6 รายในรถกระบะ
 
จึงช่วยลำเลียงส่ง รพ.สีคิ้ว ทราบชื่อนายอำนวย คำทา อายุ 36 ปี นางจิตรลดา คำทา อายุ 32 ปี นายศรายุทธ คำทา อายุ 31 ปี นายสุริยัน อินทร์ตา อายุ 24 ปี นายจำปี ขามพลา อายุ 33 ปี และ น.ส.ปราณี ทองดี อายุ 18 ปี ปรากฏว่าทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย คือนายอำนวยและนางจิตรลดา รวมเป็นผู้เสียชีวิต 5 ศพ สอบสวนผู้รอดชีวิตอีก 3 รายที่รอดตายราวปาฏิหาริย์ ทราบว่าผู้ตายและผู้บาดเจ็บทั้งหมด เป็นญาติพี่น้องกัน ไปทำงานก่อสร้างที่ จ.นครปฐม อยู่ระหว่างเดินทางกลับไปเที่ยวบ้านช่วงสงกรานต์ที่ จ.สุรินทร์ โดยมีนายสำรวยเป็นคนขับมาถึงจุดเกิดเหตุ มีรถ จยย.พุ่งตัดหน้าออกมาจากข้างทาง ทำให้นายสำรวยตกใจหักหลบพุ่งข้ามเกาะกลางถนน ไปชนประสานงากับรถเทรเลอร์ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว โดยผู้รอดชีวิตทั้ง 3 รายต่างใส่เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่และเหรียญหลวงพ่อทองสุข วัดเทพมงคลติดตัว เชื่อว่าช่วยให้รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์

รายต่อมาเวลา 03.30 น. คืนวันที่ 12 เม.ย. พ.ต.ท. สมบูรณ์ ตันติวรพิพัฒน์ สารวัตรเวร สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
 
ไปสอบสวนอุบัติเหตุรถชนกันหลายคัน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก บริเวณทางเข้าวัดธรรมรัตน์ ถนนเพชรเกษม หลัก กม. ที่ 412-413 หมู่ 5 ต. ทองมงคล อ.บางสะพาน พบรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกแท็งก์ บรรจุน้ำมันปาล์ม ทะเบียน 70-0509 สุพรรณบุรี ของบริษัททศพร รุ่งเรืองจำกัด เสียหลักพุ่งตกลงไปในร่องกลางถนน พลิกตะแคงทับร่างนางอุไรวรรณ เกตุแก้ว อายุ 31 ปี ที่นั่งมาในรถพ่วงเสียชีวิตคาที่ และมีผู้บาดเจ็บติดภายในรถพ่วงอีก 3 ราย คือ นายอภิชัย พลายแก้ว อายุ 39 ปี คนขับ และเป็นสามีผู้ตาย ด.ญ.ศรีวรรณ พลายแก้ว อายุ 13 ขวบ และ ด.ญ.อรอนงค์ พลายแก้ว อายุ 5 ขวบ ทั้งหมดเป็นพ่อลูกกัน ต้องช่วยกันงัดดึงตัวออกมาอย่างทุลักทุเล


นอกจากนี้ ยังมีรถถูกเฉี่ยวชนเสียหายอีก 5 คัน
 
คันแรกเป็นรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ ทะเบียน กน 2513 สงขลา มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย คือนางผิวพรรณ โฉมงาม อายุ 40 ปี นายกรวิทย์ โฉมงาม อายุ 22 ปี ด.ญ.กาญพิชชา โฉมงาม อายุ 11 ขวบ และนางลำภู บุญมี อายุ 50 ปี คันที่สองเป็นรถกระบะโตโยต้าแบบตอนครึ่ง ทะเบียน บฉ 2725 สระแก้ว มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย คือนายมนตรี คงศิริ อายุ 44 ปี นายประพันธ์ ศิลาผ่อง อายุ 17 ปี และนายสมคิด ศิลาผ่อง อายุ 26 ปี รวมเป็นผู้บาดเจ็บทั้งหมด 10 ราย เสียชีวิต 1 ราย จึงช่วยลำเลียงส่ง รพ.บางสะพาน และ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ ยังมีรถทัวร์ถูกเฉี่ยวชนเสียหายอีก 3 คันรวด คือรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ทะเบียน 14-0859 กรุงเทพมหานคร รถทัวร์สายกรุงเทพฯ-สงขลา ทะเบียน 13-2951 กรุงเทพ-มหานคร และรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-สงขลา-หาดใหญ่ ทะเบียน 13-4038 กรุงเทพมหานคร แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจึงเดินทางต่อไปตามจุดหมายปลายทาง


สอบสวนทราบว่า

จุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง มีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันอยู่ก่อนแล้วทำให้รถชะลอตัว มีรถของหน่วยกู้ภัยสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรม 3 คัน เปิดสัญญาณไฟไว้ตลอดเวลา แต่รถพ่วงที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงเบรกไม่ทันจึงพุ่งเสยท้ายรถปิกอัพ รถกระบะ และรถทัวร์เสียหายถึง 5 คัน ก่อนที่รถพ่วงจะพุ่งตกลงไปข้างทางพลิกตะแคงข้างทับเมียคนขับเสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บถึง 10 ราย ดังกล่าว จึงอายัดตัวนายอภิชัย พลายแก้ว คนขับรถพ่วงไว้สอบสวนดำเนินคดีต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์