เหตุโศกนาฏกรรม รถบรรทุกห้องเย็น 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-0619 ระนอง หน้ารถติดสติกเกอร์ว่า “รุ่งเรืองทรัพย์”
ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่ากว่าร้อยชีวิตอัดแน่นเป็นปลากระป๋องเต็มตู้ห้องเย็นเดินทางจากแพปลา ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง มุ่งหน้าไป จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต แต่ระหว่างทางระบบปรับอากาศในห้องเย็น เกิดการขัดข้อง ทำให้ไม่มีอากาศหายใจ เป็นเหตุให้แรงงานชาวพม่าเสียชีวิต 54 ศพ มีผู้รอดชีวิต 67 คน หลังเกิดเหตุตำรวจได้เรียกตัวนายดำรงค์ ผุสดี หรือ “โกรัน” อายุ 45 ปี เจ้าของรถบรรทุกห้องเย็นมรณะไปสอบปากคำ แต่ยังให้การปฏิเสธ ส่วนนายสุชล บุญปล้อง อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 47/5 หมู่ 1 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง คนขับ อยู่ระหว่างหลบหนี ตำรวจออกหมายจับกุมแล้วนั้น โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นทำให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเริ่มหันมาให้ความสนใจกับ “ขบวนค้ามนุษย์” โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ “ดีเอสไอ” จัดชุดลงพื้นที่ร่วมคลี่คลายคดีเพื่อสาวลึกถึงขบวนการค้ามนุษย์ ขณะที่จังหวัดซึ่งมีพรมแดนติดกับพม่าก็หันมาเข้มงวดป้องกันแรงงานชาวพม่าลักลอบหลบหนีเข้าเมือง
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 11 เม.ย. พ.ต.อ.ไกรทอง จันทร์ทองใบ ผกก.สภ.สุขสำราญ จ.ระนอง
พร้อม ร.ต.ท.ศุภชัย ศรีสมโภชน์ ร้อยเวรเจ้าของคดี ควบคุมตัวนายดำรงค์ ผุสดี หรือ “โกรัน” อายุ 45 ปี เจ้าของรถบรรทุกมรณะ “รุ่งเรืองทรัพย์” ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหา “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายร่วมกันให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือ ด้วยประการใดๆเพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม, กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ไปฝากขัง ต่อศาลจังหวัดระนองครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน เนื่องจากยังสอบสวนไม่เสร็จสิ้น จำเป็นต้องทำการสอบสวนพยานอีก 15 ปาก พร้อมกันนี้พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่เป็นที่สนใจของประชาชน มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เกรงว่าหากได้รับการประกันตัวอาจจะหลบหนี ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและกระทำความผิดซ้ำ
ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนยังได้ควบคุมตัวแรงงานชาวพม่าที่รอดชีวิต ไปส่งฟ้องศาล
ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 จำนวน 50 คน เป็นชาย 27 คน หญิง 23 คน ศาลสั่งจำคุกคนละ 2 เดือน ปรับคนละ 2,000 บาท ส่วนที่เป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี ทางตำรวจได้อนุโลมไม่ดำเนินคดี เนื่องจากต้องใช้เวลานาน เพราะต้องขึ้นศาลเด็กและเยาวชน จึงนำตัวไปควบคุมไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองระนองก่อน เพื่อรอการผลักดันกลับพร้อมกัน
นางกาญจนาภา กี่หมัน ผวจ.ระนอง กล่าวว่า ทางจังหวัดได้มีการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวมาเป็นเวลานานแล้ว
โดยการสกัดคนที่เข้ามาให้อยู่เฉพาะในจังหวัด ไม่ให้ออกไปอยู่ที่อื่น แต่จะไปห้ามไม่ให้แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาเป็นไปได้ยาก เพราะมีชายแดนที่ยาวถึง 169 กม. ที่ผ่านมาก็มีการจับกุมและผลักดันกลับออกไปอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้จังหวัดมีโครงการระนองโมเดล มีการให้จดทะเบียนแรงงานต่างด้าวกำหนดมาตรการว่าห้ามเปลี่ยนนายจ้าง ห้ามออกนอกพื้นที่ หากฝ่าฝืนจะผลักดันกลับ แต่แรงงานที่เข้ามาไม่ได้มาคนเดียว มากันเป็นครอบครัวเป็นแรงงานแฝงซึ่งอาจจะทำให้ยากต่อการปกครองดูแล
พ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ รอง ผบก.ภ.จ.ระนอง กล่าวว่า ได้ให้ฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระนองลง พื้นที่ทุกจุดที่คาดว่านายสุชลคนขับรถจะเดินทางไปหลบซ่อน นอกจากนี้ทาง พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จ. ระนอง ยังได้ตั้งรางวัลนำจับจำนวน 50,000 บาท ให้กับผู้ที่สามารถชี้เบาะนายสุชลจนนำไปสู่การจับกุม