จากเหตุโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ รถบรรทุกห้องเย็นมรณะ 10 ล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-0619 ระนอง
หน้ารถติดสติกเกอร์ว่า “รุ่งเรืองทรัพย์” ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่ากว่าร้อยคนยัดทะนานอยู่เต็มตู้ห้องเย็น เดินทางจากแพปลา ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง มุ่งหน้าไป จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต แต่ระหว่างทางระบบปรับอากาศในห้องเย็นขัดข้องทำให้ไม่มีอากาศหายใจ บรรดาแรงงานพม่าที่อยู่ภายในไม่สามารถเปิดประตูออกมาได้เพราะถูกล็อกจากด้านนอก กว่าคนขับจะได้ยินเสียงเคาะฝาผนังห้องเย็นร้องขอความช่วยเหลือเมื่อรถผ่านมาถึง ต.นาคา อ.สุขสำรวญ จ.ระนอง ห่างจากตัวเมืองระนองประมาณ 90 กม. จึงจอดรถลงมาเปิดประตูตู้ห้องเย็นดูก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบว่ามีแรงงานพม่าขาดใจตายทุรนทุรายถึง 54 ศพ มีผู้รอดชีวิต 67 คน หลังเกิดเหตุคนขับรถบรรทุกห้องเย็นมรณะหลบหนีไปนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 10 เม.ย. พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จ.ระนอง เปิดเผยว่า
พนักงานสอบสวน สภ.สุขสำราญ ได้เรียกตัวนายดำรง ผุสดี เจ้าของรถบรรทุกตู้ห้องเย็นรุ่งเรืองทรัพย์ มาสอบสวนแต่ยังให้การปฏิเสธ ต้องคุมตัวไว้สอบสวนขยายผลต่อไป ส่วนคนขับรถชื่อนายสุชล บุญปล้อง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/5 หมู่ 1 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง ได้ขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายจับแล้ว มั่นใจว่าจะจับกุมตัวได้แน่นอน ส่วนผู้ร่วมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมตายหมู่ถึง 54 ศพครั้งนี้นั้น หากตำรวจมีหลักฐานสาวถึงใครก็จะจับกุมทั้งหมด
ด้าน พ.ต.อ.ไกรทอง จันทร์ทองใบ ผกก.สภ.สุขสำราญ กล่าวว่า
ในส่วนของแรงงานต่างด้าวที่รอดชีวิตต้องถูกดำเนินคดี ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ส่วนคนขับรถซึ่งทราบชื่อแล้วแต่อยู่ในระหว่างหลบหนีได้ตั้ง 2 ข้อหา คือนำพาหรือซ่อนเร้นบุคคลต่างด้าวให้พ้นการจับกุม และข้อหากระทำการใดๆ โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างตามล่าตัวมาดำเนินคดีโดยด่วน ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนจะได้สอบปากคำแรงงานต่างด้าวที่รอดชีวิตว่า ได้เดินทางเข้ามาจากไหนและมีใครเกี่ยวข้องบ้าง เพื่อค้นหาข้อเท็จจริงต่อไป โดยได้แบ่งให้ทางจังหวัดดำเนินการในส่วนของเจ้าของรถบรรทุกห้องเย็น