โจรบุกเดี่ยวหิ้วระเบิดขึ้นไปจี้แบงก์ไทยพาณิชย์ กลางเมืองเชียงใหม่
ก่อนที่จะยื่นโน้ตให้พนง.หยิบเงินใส่กระเป๋าสะพาย เมื่อได้เงิน 1.5 แสนบาท แล้วก็ทิ้งกระเป๋าบึ้มไว้ในแบงก์ สร้างความแตกตื่นให้กับพนักงาน ตร.ต้องขอกำลังเก็บกู้กันวุ่นวาย เบื้องต้นตชด.นำออกมาที่ลานโล่งแล้วฉีดน้ำทำลาย จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดัง ระบุเป็นชนิดทำขึ้นมาเอง แต่มีอานุภาพรุนแรง ตร.ตั้งค่าหัว 5 หมื่นล่าโจร สงสัยนำบึ้มมาก่อเหตุป่วนเชียงใหม่ช่วงสงกรานต์
เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 9 เม.ย. เจ้าหน้าที่วิทยุ 191 บก.ภ.จว.เชียงใหม่
รับแจ้งเหตุฉุกเฉินจากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยประตูท่าแพ เลขที่ 31-33 ถ.ราชดำเนิน ต.พระสิงห์ อ.เมือง เชียงใหม่ ว่า มีคนร้ายเข้าจี้ชิงเงินสด จากพนักงานของธนาคารจำนวน 150,000 บาท แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่วิทยุ 191 ประสานไปยังพ.ต.ท.ปริญญา เพชรมณี สว.ส.สภ.เมืองเชียงใหม่ และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปยังจุดเกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.มนตรี สัมบุณณานนท์ รองผบก.ศ.สส.ภ.5 พ.ต.อ.สมพล อัครเดโชไชย รองผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่สายตรวจ ฝ่ายสืบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ ฝ่ายสืบสวนภาค 5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ จ.เชียงใหม่
เมื่อถึงที่เกิดเหตุธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยประตูท่าแพ
มีนายประกิจ โล่ประเสริฐ ผจก.เขต นางรุ่งกาญณ์ ชนะนนท์ ผจก.สาขาย่อยประตูท่าแพ และพนักงานของธนาคาร ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งชี้ไปยังกระเป๋าหนังสีดำแบบผู้หญิง 1 ใบ ที่วางอยู่หน้าธนาคารด้านนอก ว่า เป็นวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซึ่งหลังก่อเหตุชิงทรัพย์แล้วคนร้ายวางไว้ภายในธนาคารก่อนจะหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงรีบนำออกไปวางไว้นอกธนาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกันผู้คนให้ออกห่างจากจุดเกิดเหตุ พร้อมนำเชือกมาขึง นำยางรถยนต์ 4 เส้นมาวางครอบไว้ จากนั้นประสานไปยังตชด.33 มาเก็บกู้วัตถุดังกล่าว
ต่อมาหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด กก.ตชด.33 เดินทางมาถึงจึงตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย
เบื้องต้น พบว่าภายในกระเป๋า มีไฟแช็ก สายไฟพันด้วยสกอตเทปสีดำ ลักษณะคล้ายระเบิดชนิดทำขึ้นเอง ทางเจ้าหน้าที่จึงกันผู้คนออกแล้วนำกระเป๋าดังกล่าวออกไปให้ไกลผู้คน นำไปวางไว้บนที่ลานขายสินค้าซึ่งเป็นที่โล่ง แล้วพ่นน้ำทำลายไป 1 ครั้ง ปรากฏว่ากระเป๋าดังกล่าวเกิดระเบิดขึ้นเสียงดัง ท่ามกลางประชาชนที่เฝ้าดู แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นแรงระเบิดทำให้รถเก็บกู้วัตถุระเบิดกระจกแตกเล็กน้อย หลังจากตรวจสอบพบว่าภายในมีสารโพแทสเซียม และมีไฟแช็กที่เชื่อมต่อกั้นกับสายไฟ แล้วพันด้วยสกอตเทปสีดำอีกรอบหนึ่ง ซึ่งเป็นระเบิดทำเอง เจ้าหน้าที่จึงเก็บชิ้นส่วนไว้เป็นหลักฐาน
โจรหิ้วระเบิด-ปล้นระทึกแบงก์เชียงใหม่
จากการสอบสวนนางรุ่งกาญณ์ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายบุกจี้ชิงเงิน เป็นช่วงเวลาพักกลางวัน
ช่วงนั้นยังไม่มีลูกค้าเข้ามาในธนาคาร ภายในธนาคารมีเพียงพนักงานอยู่ด้านหน้า 4 คน ขณะนั้นมีชาย 1 คน ผิวดำ สูงประมาณ 165 เซนติเมตร อายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อแจ๊กเกตสีเทาคล้ายสียีนส์ กางเกงยีนส์ ตัดผมสั้นเกรียน เดินสะพายกระเป๋าสีดำเข้ามา จากนั้นเข้ามายังแผนกเปิดบัญชีใหม่ แล้วนำกระเป๋าสีดำวางบนเก้าอี้ ก่อนจะล้วงกระดาษ 1 แผ่น ออกจากกระเป๋านำมายื่นให้น.ส.อริศรา ทัศนีย์ดำรงกุล พนักงานของธนาคาร โดยในกระดาษเขียนด้วยลายมือมีข้อความว่า "ผมต้องการเงิน ไม่ต้องการชีวิต อย่าให้ผมต้องตกใจ BOOM มีระเบิดเต็มกระเป๋า" หลังจากพนักงานอ่านก็ตกใจ รีบนำกระดาษดังกล่าวมายื่นให้กับตน ตนเห็นดังนั้นจึงหยิบเงินสดที่มีอยู่ 150,000 บาทยื่นให้ โดยในระหว่างที่ตนกำลังจะยื่นเงินให้ ชายคนร้ายคุยโทรศัพท์กับใครคนหนึ่งที่โทร.เข้ามาหา ซึ่งตนฟังสำเนียงพูดเหน่อๆ คล้ายคนสุพรรณบุรี หลังจากได้เงินแล้วชายดังกล่าวก็วางกระเป๋าสีดำไว้ ตนเห็นจึงรีบตะโกนถามคนร้ายว่า "น้องทำไมทำอย่างนี้" คนร้ายจึงพูดกลับมาว่า "ได้แค่นี้ก็พอแล้ว" จากนั้นก็สะพายกระเป๋าสีดำอีกใบที่นำมาใส่เงินหนีออกจากธนาคาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบข้อมูลจึงวิทยุสกัดจับ ทั้งในเมืองและรอบนอก
แบ่งกำลังกันออกติดตามไปยังจุดต่างๆ โดยส่วนหนึ่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดของธนาคาร, ตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณสี่แยกกลางเวียง ถ.ราชดำเนิน เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบชายลักษณะคล้ายคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีดำ ไม่ทราบทะเบียน หลบหนีไปทาง ถ.ราชดำเนิน พ.ต.อ.มนตรี เปิดเผยว่า สำหรับคนร้ายรายนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังออกติดตาม สืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ พร้อมทั้งประกาศขอความร่วมมือจากประชาชน ผู้พบเบาะแสเกี่ยวกับตัวคนร้ายรายนี้ ช่วยชี้รูปภาพชายคนร้าย โดยตั้งรางวัลให้กับผู้ที่ชี้เบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายได้เป็นเงิน 50,000 บาท อีกด้วย
เวลา 21.30 น.วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองเชียงใหม่
พ.ต.อ.มนตรี พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง พ.ต.อ.สมพล อัครเดโชชัย รอง ผบก.ภ.จ. เชียงใหม่ พ.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข ผกก. และคณะชุดสืบสวนทั้งหมดร่วมประชุมและสเกตช์ภาพคนร้ายออกมาอีกครั้ง ทั้งจากการสอบปากคำพยานและจากภาพกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพหน้าคนร้ายไว้ได้ ก่อนที่จะสวมแว่นตาและหมวกแก๊ปในธนาคาร ในที่ประชุมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบดูผลการระเบิดและรัศมีของการระเบิด โดยทราบจากทางผู้เชี่ยวชาญการเก็บกู้ระเบิดของตชด.33 ว่าระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดที่มีอานุภาพรุนแรงมาก โดยทางตชด.ใช้กระสุนปืนฉีดน้ำเข้าทำลาย ส่งผลให้หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิดพังเสียหายทั้งคันและรัศมีของระเบิดดังกล่าวมีถึง 50 เมตร
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนจากต่างจังหวัดเป็นบุคคลที่เชี่ยวชาญการทำระเบิดแสวงเครื่อง
หรือระเบิดทำเองอย่างดี หรือไม่ก็เป็นบุคคลมีสี ล่าสุดตำรวจติดตามไปยังสถานีรถไฟ อาเขตขนส่งเชียงใหม่ และสนามบิน เพื่อสกัดการหลบหนีของคนร้ายแต่ไร้ผล อย่างไรก็ตามคนร้ายใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างที่เข้าปล้น ซึ่งทางตำรวจกำลังตรวจเช็กสัญญาณอยู่ในขณะนี้ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการติดตามตัวคนร้าย ประเด็นการปล้นครั้งนี้ทางตำรวจตั้งไว้หลายประเด็น เช่นคนร้ายอาจจะรับงานมาสร้างสถานการณ์ป่วนเมือง หรือลอบทำร้ายบุคคลสำคัญและเกิดยกเลิกภารกิจกลางคัน เพราะช่วงนี้ที่เชียงใหม่มักจะมีบุคคลสำคัญเดินทางขึ้นมา และในวันที่ 11 เม.ย.51 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมคณะจะมาอยู่ที่เชียงใหม่จนถึงวันที่ 13 เม.ย.51 เพื่อร่วมฉลองสงกรานต์