จากเหตุสะเทือนขวัญนายจิรายุ มูลศรี อายุ 18 ปี นักศึกษาภาคค่ำโรงเรียนเทคนิคศรีวัฒนาธุรกิจและเทคโนโลยีนานาชาติ
ใช้ปืนกระหน่ำยิง น.ส.อมรทิพย์ หรือเนเน่ โชติจิรกาล อายุ 19 ปี แฟนสาวนักศึกษาสถาบันเดียวกัน ที่ไปฝึกงานอยู่ที่ สน.พระโขนง เสียชีวิตหน้าโรงพักแล้วยิงตัวตายตาม โดยสันนิษฐานสาเหตุเบื้องต้นว่าเกิดจากความหึงหวง เนื่องจากฝ่ายหญิงเป็นสาวสวย ระดับสาวพริตตี้มอเตอร์โชว์มีชายหนุ่มหลายรายเข้ามาพัวพัน เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 เม.ย. พ.ต.ต.ภัทรวุฒิ สุนทรศารทูล สว.อก.สน. พระโขนง ในฐานะผู้รับผิดชอบดูแลการฝึกงานของ น.ส.อมรทิพย์ หรือน้องเนเน่ โชติจิรกาล เปิดเผยว่า น.ส.อมรทิพย์มาฝึกงานที่ฝ่ายธุรการของ สน.พระโขนง ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา จะสิ้นสุดสิ้นเดือนนี้ เป็นการเลือกของเจ้าตัวเองตามรายชื่อสถานที่ราชการต่างๆที่โรงเรียนกำหนดไว้ ซึ่ง สน.พระโขนง ได้รับความไว้วางจากโรงเรียนของผู้ตายมาตลอดทุกปี
พ.ต.ต.ภัทรวุฒิกล่าวต่อว่าสำหรับความสัมพันธ์ ของ น.ส.อมรทิพย์กับนายจิรายุเท่าที่ทราบ ทั้งสองคบหากันมาประมาณปีเศษ
ด้วยความที่ฝ่ายหญิงเป็นคนหน้าตาดี มักจะได้งานเป็นพริตตี้ หรือประชาสัมพันธ์เป็นประจำ เลยทำให้มีปากเสียงทะเลาะกันอยู่เรื่อย ล่าสุดในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา น.ส.อมรทิพย์ไปเป็นพริตตี้ให้รถยี่ห้อหนึ่ง นายจิรายุไปพบว่า มีลูกค้าผู้ชายไปขอถ่ายรูปด้วย จึงเกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรงภายในงาน สร้างความไม่พอใจกับ น.ส.อมรทิพย์ถึงขนาดไม่ยอมไปมาหาสู่หรือติดต่อกันอีกเลย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นวันเกิดของฝ่ายชาย น.ส.อมรทิพย์ก็ไม่ยอมไปพบหน้าหรือไปอวยพรวันเกิดแต่อย่างใด นายจิรายุจึงเดินทางมาหาที่ สน. เมื่อวันที่ 8 เม.ย.
พ.ต.ต.ภัทรวุฒิกล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น.
นายจิรายุมาหาฝ่ายหญิงที่ สน.หลังจากไม่ได้เจอหน้ากันเลยตั้งแต่งานมอเตอร์โชว์ เมื่อมาถึงตนก็ให้ทั้งสองคนเข้าไปนั่งคุยปรับความเข้าใจกันในห้องประชุมของโรงพัก โดยให้เพื่อนนักศึกษาคอยสังเกตการณ์อยู่ตลอด ดูแล้วท่าทางจะไม่มีปัญหา เลยเข้าไปเคาะห้องถามว่า ตกลงกันว่าอย่างไร ฝ่ายชายก็บอกว่า จะขอปรับเนื้อปรับตัว แต่ฝ่ายหญิงกลับบอกว่า จะขอเป็นแค่เพื่อนกัน ทำให้รู้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายอาจจะยังตกลงกันไม่ได้ หลังจากนั้น น.ส.อมรทิพย์กลับเข้ามาทำงานตามปกติ แต่ฝ่ายชายไม่ยอมกลับ นั่งรอฝ่ายหญิงอยู่ที่หน้าห้องทำงาน กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ได้ยินเสียงดังลั่นมาจากบันไดทางลงชั้นล่าง พอออกไปดูเห็นทั้งสองคนกำลังยื้อยุดฉุดกระชากกันรุนแรง จึงรีบเข้าไปห้าม กอดคอฝ่ายชายให้สงบสติอารมณ์ก่อนพาลงไปที่ชั้นล่าง จากนั้นนายจิรายุเดินกลับไปนั่งที่รถ ส่วน น.ส.อมรทิพย์มีเพื่อนรุ่นพี่ 2 พาเดินออกไปด้านนอก เมื่อหันไปดูอีกที เห็นฝ่ายชายวิ่งลงมาจากรถตรงเข้าหาฝ่ายหญิง โดยถือปืนมาด้วย จึงรีบตะโกนให้ น.ส.อมรทิพย์ระวังตัว พร้อมกลับหันไปหยิบปืนในรถออกมา
“หลังจากนั้นผมได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด พอหันไปก็เห็นทิพย์ถูกยิงล้มลงกับพื้นแล้ว ส่วนฝ่ายชายไม่เห็นว่าอยู่ไหน เลยรีบวิ่งเข้าไปดู ก็พบว่าทิพย์เขายังมีลมหายใจอยู่ เลยบอกว่า ทิพย์พี่ขอโทษนะ พี่ทำดีที่สุด แล้ว แก้ไขปัญหาได้แค่นี้ คิดว่าทำบุญมาเท่านี้นะ หลับให้สบายนะทิพย์ แล้วเขาก็สิ้นใจ ส่วนจิรายุนั้น ตอนแรกผมหาเขาไม่เจอ แต่หลังจากนั้นมีตำรวจตะโกนว่า ยิงตัวตายแล้วครับ พอหันไปเลยเห็นว่าเขายิงตัวตายอยู่ข้างๆแล้ว ตอนนั้นถ้าหยิบปืนทันผมก็ต้องยิง เป็นตำรวจคนไหนในโรงพักก็ต้องยิง เพราะไม่รู้ว่าเขาคลั่งแล้วจะไปทำร้ายใครอีกหรือเปล่า ผมคิดว่าโชคดีนะที่ผมไม่ได้ยิงใส่เขาไป เพราะถ้าเมื่อวานนี้ผมยิงเขา เรื่องจะออกมาเป็นคนละแบบเลย ผมต้องถูกมองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน” พ.ต.ต.ภัทรวุฒิกล่าว
พ.ต.ต.ภัทรวุฒิกล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องที่มีข่าวว่า ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นมือที่สามของทั้งสองฝ่ายนั้น เท่าที่ผ่านมาตนตอบไม่ได้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดชอบฝ่ายหญิงหรือไม่
แต่ในเชิงพฤติกรรมที่จะแสดงให้เห็นนั้นตอบได้ว่าไม่มี แต่หลังเวลางานอยู่นอกเหนือที่จะรู้ได้ “คู่นี้เวลารักกัน เท่าที่รู้ ก็รักกันจริงๆ เวลาหวานกัน แต่ผู้ชายเป็นคนสองอารมณ์ เวลาโมโหก็จะแรงมาก อาจจะทำอะไรให้ทะเลาะกัน จนฝ่ายหญิงขอเลิก หลังจากนั้นฝ่ายชายก็ไปง้อ ฝ่ายหญิงอาจจะเก็บมานานแล้ว จนมาถึงจุดเปลี่ยนที่งานมอเตอร์โชว์” พ.ต.ต.ภัทรวุฒิกล่าว
พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.พระโขนง กล่าวว่า ในทางคดีจบไปแล้ว
เนื่องจากนายจิรายุที่ก่อเหตุยิง น.ส.อมรทิพย์ ก็เสียชีวิตในที่เกิดเหตุด้วย พนักงานสอบสวนยังสอบปากคำเพื่อนผู้ตายที่อยู่ในที่เกิดเหตุหลายคน และการสอบปากคำผู้ปกครองของทั้งสองฝ่าย รวมถึงอาจารย์ของทั้ง 2 คน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง “เจ้าหน้าที่สอบถามเพื่อนของ น.ส.อมรทิพย์ ที่มาฝึกงานด้วยกันเล่าให้ฟังว่า ทั้ง 2 คบหากันประมาณ 2 ปี ฝ่ายชายเป็นคนที่มีอารมณ์หึงหวงมาก ถึงขนาดเวลาฝ่ายหญิงมาเรียน ร่างกายจะมีรอยฟกช้ำดำเขียวประจำ แม้กระทั่งช่วงที่มาฝึกงาน ทำให้ฝ่ายหญิงเริ่มทนพฤติการณ์ของฝ่ายชายไม่ไหว วันเกิดเหตุยังคุยกับเพื่อนว่า ไม่ไหวแล้ว วันนี้เป็นไงเป็นกันต้องบอกเลิกให้ได้” พ.ต.อ.สิทธิภาพกล่าว