ญาติจูงมือด.ญ.14 ชาวนางรอง บุรีรัมย์ ขึ้นโรงพัก จี้คดีหลานสาวโดนเพื่อนน.ร.-รุ่นพี่รุมขืนใจบนรถทัวร์ ขณะเดินทางกลับจากทัศนศึกษา เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เหยื่อให้การคืนเกิดเหตุนั่งอยู่บนรถชั้นบน ลงไปเข้าห้องน้ำชั้นล่างเห็นคู่กรณีนั่งกินเหล้าขาวพร้อมชักชวนให้นั่งคุยด้วย ก่อนจะโดนจับขืนใจ แจ้งความแล้วคดีไม่คืบหน้า
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. นางอ่อน (นามสมมติ) อายุ 50 ปี และน้อย (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ยายและป้าด.ญ.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า หลานสาวถูกเพื่อนร่วมห้องและรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกัน ล่วงละเมิดทางเพศ บนรถทัวร์ขากลับจากทัศนศึกษา แต่คดีไม่มีความคืบหน้า นางอ่อนให้การว่า เมื่อคืนวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากคณะครู 10 คนของโรงเรียน พานักเรียนชั้นม.1-3 ประมาณ 50 คน เดินทางไปทัศนศึกษาที่จ.จันทบุรี โดยออกเดินทางเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ด้วยรถทัวร์ปรับอากาศแบบ 2 ชั้น และกลับวันที่ 1 เม.ย. เวลาประมาณ 22.00 น. เมื่อรถจอดหน้าโรงเรียนพบว่าด.ญ.ก้อยนอนสลบไม่ได้สติอยู่ในรถ ครูจึงให้นักเรียนนำน้ำมาสาดให้ตื่น แล้วให้เพื่อนขับรถจักรยานยนต์มาส่งที่บ้านในสภาพสะลึมสะลือ และบอกกับญาติว่าด.ญ.ก้อยเมาหมดสติ เมื่อญาติเห็นอาการด.ญ.ก้อย จึงช่วยกันนำส่งร.พ.นางรอง
นางน้อยกล่าวว่า หลังจากนำส่งร.พ.นางรองในสภาพที่ยังไม่ได้สติ แพทย์ได้ให้น้ำเกลือและใช้เครื่องช่วยหายใจ ผ่านไป 30 นาทีด.ญ.ก้อยจึงรู้สึกตัวและร้องขอความช่วยเหลือจากแม่แล้วสลบไปอีกครั้ง
จากนั้นก็เพ้อหวาดผวาทั้งคืน จนรุ่งเช้าอาการยังไม่ดีขึ้น เมื่อดูตามร่างกายก็พบรอยจ้ำคล้ายถูกปากดูดที่ลำคอเกือบ 10 จุด ที่ขาอ่อนก็มีรอยช้ำเขียวหลายแห่ง ส่วนช่องคลอดและกางเกงชั้นในมีรอยเหมือนน้ำอสุจิเปรอะเปื้อน จึงเข้าแจ้งความกับสภ.นางรอง เพราะสงสัยว่าหลานสาวอาจจะถูกข่มขืน แต่จนถึงวันนี้คดีไม่มีความคืบหน้า ต่อมาได้มีครูในโรงเรียนมาวิ่งเต้นกับที่บ้าน ให้ถอนแจ้งความเพราะโรงเรียนกลัวจะเสียชื่อเสียง โดยตกลงจะชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 10,000 บาท แต่ไม่ยอมจ่ายเงินให้ ส่วนนักเรียนที่โรงเรียนเมื่อพวกตนไปสอบถามก็ไม่ตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น
แจ้งจับนร. รุมขยีดญ. บนรถทัวร์
นางน้อย กล่าวต่อว่า ด.ญ.ก้อย ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า
วันเกิดเหตุเป็นขากลับขณะรถกำลังวิ่งอยู่ ได้ลงมาชั้นล่างของรถโดยสารเพื่อจะเข้าห้องน้ำ ที่ชั้นล่างมีเด็กนักเรียนชายห้องเดียวกัน 2 คน คือ ด.ช.ใหญ่ (นามสมมติ) และด.ช.เก่ง (นามสมมติ) และนักเรียนรุ่นพี่ ม.3 คือนายวิทย์ (นามสมมติ) นั่งดื่มเหล้าขาวกันอยู่ในอาการมึนเมา และชวนให้ตนนั่งคุยด้วย โดยนั่งคุยประมาณ 20 นาทีก็ขอตัวกลับไปชั้นบน ทันใดนั้นเองเด็กชายทั้งสามก็กระโดดเข้ามาล็อกตัวไว้ โดยด.ช.ใหญ่และด.ช.เก่งได้จับตัวไว้ ส่วนนายวิทย์ได้จูบที่ลำคอหลายครั้ง ต่อมาทั้ง 3 คนก็เข้ามารุมกระชากเสื้อและกางเกง จากนั้นตนไม่รู้สึกตัวอีกเลย จนมาฟื้นที่ร.พ.
นางน้อยกล่าวอีกว่า พ่อแม่ด.ญ.ก้อยแยกทางกัน อาศัยอยู่กับตนและยาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะครูไม่มีความรับผิดชอบ
ปล่อยให้เด็กนักเรียนที่เรียนแค่ม.2 ดื่มสุราในรถ ไม่เชื่อว่าครูจะไม่ทราบเรื่อง เพราะมีครูไปกว่า 10 คน รวมถึงผู้อำนวยการโรงเรียนด้วย ยิ่งกว่านั้นครูเมื่อเห็นเด็กมีอาการผิดปกติ ควรจะพาไปหาหมอไม่ใช่ปล่อยทิ้งตามลำพัง จึงอยากจะให้โรงเรียนออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเหตุการณ์นี้เป็นการทารุณจิตใจเด็กอย่างแรง จนไม่กล้าสู้หน้าเพื่อน อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผลพิสูจน์ของแพทย์ว่าน้องเมย์ถูกข่มขืนหรือไม่ ต้องรอผลจากแพทย์อีกครั้ง และอยากขอให้ตำรวจเร่งสอบสวนเอาผิดและดำเนินคดีกับนักเรียนที่ก่อเหตุโดยเร็ว เกรงว่าเรื่องจะเงียบหาย เพราะขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
พ.ต.ต.สำราญ ศรีพลกัง พงส.(สบ 2) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เจ้าของคดี กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนี้ว่า
เหตุการณ์เกิดประมาณ 22.14 น. หลังจากนั่งรถทัวร์ปรับอากาศ 2 ชั้นกลับจากทัศนศึกษา นักเรียนชาย 3 คนนำสุราออกมาดื่มกันบนรถและชวนให้นักเรียนหญิงร่วมดื่มด้วย โดยลงมาดื่มสุรากันที่ชั้นล่างของรถ ไม่นานนักเรียนหญิงเกิดอาการเมาสุราประกอบกับร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางจึงหลับไม่ได้สติ อาจารย์จึงแจ้งให้ญาติมารับตัวกลับไป พร้อมทั้งสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่ทางญาติยังไม่ปักใจเชื่อในสิ่งที่นักเรียนชาย 3 คนพูด จึงให้นักเรียนหญิงไปตรวจร่างกายที่ร.พ.นางรองผลการตรวจแพทย์ระบุว่าไม่มีร่องรอยการข่มขืน จึงไม่มีความผิดทางอาญา ทางญาติจึงไม่ติดใจเอาความ ต่อมาได้แจ้งให้มารดามารับตัวนักเรียนหญิงกลับไป