จับแล้วพระโหดฆ่าครูสาวซี 7 ตายเปลือยคาบ้านพักที่ห้วยแถลง โคราช
หลังตร.ตรวจสอบรอยเท้าติดโคลนบริเวณจุดเกิดเหตุชาวบ้านและพระวัดที่อยู่ใกล้เคียง พบรอยเท้าตรงกัน ก่อนบุกรวบตัวได้คากุฏิ นำตัวมาสอบเค้น สารภาพเป็นคนลงมือ จับหัวโขกกับพื้นปูนซีเมนต์จนเหยื่อแน่นิ่ง เนื่องจากแค้นขอยืมเงินจากผู้ตาย 5 พันเป็นค่าเทอมลูก แต่เหยื่อให้ได้แค่ 2 พัน
จากกรณีมีผู้พบศพน.ส.ทักขิณาวิสุทธิ์ ฤทธิเดช หรือครูเจ๊ะ อายุ 49 ปี ครูชำนาญการ ระดับ 7 โรงเรียนอนุบาลมณีราษฎร์คณาลัย อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา
ถูกคนร้ายฆ่าแล้วทิ้งศพไว้ข้างบ้านของผู้ตาย เลขที่ 54 หมู่ 8 ชุมชนสุขสันต์ หลังวัดประชาคมาราม ต.ห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา จากการตรวจพิสูจน์ สภาพศพที่ศีรษะถูกตีด้วยของแข็งจนยุบหลายแห่ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน ตรวจสอบในบ้านผู้ตาย พบทรัพย์สิน ประกอบด้วยเงินสด 7,000 บาท สร้อยคอทองคำแบบต่างๆ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องหายไป เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะรู้จักคุ้นเคยกับผู้ตายเป็นอย่างดี ผู้ตายจึงเปิดประตูออกมาพูดคุย โดยไม่ได้ล็อกประตูบ้าน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อเวลา 22.00 น วันที่ 7 เม.ย.
พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รองผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.สรศักดิ์ ชนะสิทธิ์ ผกก.สภ.ห้วยแถลง พร้อมกำลังเดินทางไปที่วัดประชาคมาราม เข้าควบคุมตัวพระสุชาติ พิมพ์ปรุ อายุ 41 ปี พระลูกวัด ผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าว จากนั้นนำตัวมาสอบสวนที่สภ.ห้วยแถลง
จับพระโหดฆ่าข่มขืนครูซี7
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่กระจายกำลังลงพื้นที่หาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม
พบร่องรอยเหยียบย่ำดินโคลนหลายรอย จึงเชิญชาวบ้านและพระเณรวัดประชาคมารามที่ตั้งอยู่ละแวกที่เกิดเหตุมาสอบสวนในฐานะพยานแวดล้อมนับสิบคน พร้อมกับขอตรวจสอบลายนิ้วมือและลายฝ่าเท้า เพื่อนำมาเปรียบเทียบว่าตรงกับร่องรอยที่พบในที่เกิดเหตุหรือไม่ ผลการเปรียบเทียบปรากฏรอยฝ่าเท้าของพระสุชาติ ตรงกับมีร่องรอยฝ่าเท้าที่ย่ำดินโคลน และทราบว่าพระสุชาติซึ่งมีกุฏิอยู่หลังวัดใกล้บ้านผู้ตาย มีความสนิทสนมกับผู้ตายชอบมานั่งพูดคุยที่บ้านเป็นประจำ จึงเข้าควบคุมตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบปากคำเบื้องต้น พระสุชาติให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำหลักฐานร่องรอยฝ่าเท้าและรอยลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุมายืนยัน พระสุชาติจึงจำนนต่อหลักฐาน และรับสารภาพว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 5 เม.ย. ออกจากกุฏิไปหาน.ส.ทักขิณาวิสุทธิ์ที่บ้านเพื่อขอยืมเงิน 5,000 บาท ไปเป็นค่าเทอมลูก 2 คน โดยนั่งคุยกันที่โต๊ะหน้าบ้าน แต่น.ส.ทักขิณาวิสุทธิ์บอกว่าให้ยืมได้เพียง 2,000 บาทเท่านั้น เพราะต้องกลับบ้านไปหาครอบครัวที่จ.พัทลุงช่วงเทศกาลสงกรานต์
พระสุชาติ ให้การต่อว่า ขณะนั้นมีฝนตกลงมา น.ส.ทักขิณาวิสุทธิ์จึงลุกขึ้นเก็บผ้าที่ตากไว้หน้าบ้านและเกิดลื่นล้มลง
ตนจึงฉวยโอกาสวิ่งเข้าไปในบ้านรื้อค้นทรัพย์สิน แต่น.ส.ทักขิณาวิสุทธิ์เห็นเหตุการณ์จึงร้องตะโกนโวยวาย จึงหันกลับไปจับศีรษะโขกกับพื้นปูนซีเมนต์หลายครั้ง จนแน่นิ่งไป ไม่ได้ข่มขืนแต่อย่างใด ก่อนจะกลับไปที่กุฏิ โดยนำสร้อยคอโทรศัพท์มือถือและเครื่องประดับใส่ถุงพลาสติกไปซ่อนไว้ใต้เมรุเผาศพของวัด ส่วนเงินสด 7,000 บาทซ่อนไว้ที่กุฏิ หลังเกิดเหตุระหว่างตำรวจและชาวบ้านมาดูศพก็มายืนปะปนกับชาวบ้านด้วย จนกระทั่งถูกจับกุม
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของพระสุชาติที่ยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืน
เพราะสภาพศพของผู้ตายเปลือยท่อนล่าง แต่ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ของแพทย์ว่ามีการข่มขืนหรือไม่ หลังสอบปากคำเบื้องต้น เจ้าหน้าที่นำตัวพระสุชาติไปสึก และแจ้งข้อกล่าวหาว่าฆ่าคนตายโดยเจตนาและนำตัวไปควบคุมที่สภ.ห้วยแถลง ต่อมาเวลา 08.30 น. วันที่ 8 เม.ย. เจ้าหน้าที่นำตัวนายสุชาติไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางครู นักเรียนและและชาวบ้านมามุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก พร้อมตะโกนสาปแช่งนายสุชาติ และพยายามจะเข้ารุมประชาทัณฑ์แต่ตำรวจกันเอาไว้ได้ และนำตัวส่งพ.ต.ท.ณรงค์ สุรทศ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ควบคุมตัวไปขออำนาจศาลจ.นครราชสีมา เพื่อผัดฟ้องฝากขังต่อไป