ชี้โทษรอลงอาญาทำให้คนไม่กลัว ยอดเมาแล้วขับพุ่ง

วานนี้ (7 เม.ย.) นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า

จากสถิติช่วงเทศกาลสงกรานต์จะเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด โดยอันดับ 1 มาจากความเมา รองลงไปความเร็ว ถ้าเทียบ 100 รายที่เกิดอุบัติเหตุ 80 รายจะมาจากเมาแล้วไปขับ ซึ่งเสี่ยงที่สุดของการเกิดอุบัติเหตุในประเทศไทย สำหรับกฎหมายที่ลงโทษผู้เมาแล้วขับที่มีอยู่ขณะนี้ ได้ผลบ้างในเรื่องความรับรู้ แต่การปฏิบัติยังมีจำนวนไม่มาก ดังนั้น ถึงรู้ว่ามีกฎหมายลงโทษ แต่ยังไม่ได้ปฏิบัติ ก็ไม่มีความหมาย  

"รณรงค์มาเกือบ 20 ปี ไปสำรวจถามคน 100 คน 99 คนรู้ แต่ร้อยละ 30 ยังไม่ปฏิบัติ มาจากสาเหตุแรกสุดเลย เขาเห็นว่าถึงเขาไม่ปฏิบัติก็ไม่เกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครมาทำอะไรเขา เพราะว่าโอกาสที่เขาจะโดนจับน้อยมาก หรือแม้จะโดนจับ โทษที่เขาจะได้รับก็จิ๊บจ๊อยเสียจนเขาไม่กลัว ดังนั้น ถ้าเราแก้ต่อด้วย 2 สาเหตุนี้ จะทำให้การรณรงค์เรื่องเมาไม่ขับประสบผลสำเร็จขึ้นมาอีกเยอะ" เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าว 

นพ.แท้จริง กล่าวด้วยว่า การลงโทษสำหรับผู้ที่เมาแล้วขับต้องสูงขึ้น

และความจริงโทษกำหนดไว้หนักแล้วถึงจำคุก แต่มีรอลงอาญาไว้ก่อน ขณะที่ประเทศอื่นจะไม่รอลงอาญา เพราะการเมาแล้วขับรถเหมือนอาชญากร แต่ของประเทศไทยดื่มเหล้าแล้วมาขับรถเป็นการประมาท ทั้งที่โอกาสเกิดอุบัติเหตุมีมาก และคนขับก็รู้อยู่แล้วยังทำ ถามว่าพฤติกรรมเช่นนี้ไม่เข้าข่ายเจตนาหรือ การประมาทเป็นเรื่องที่คนไม่รู้