ฆ่าโหดครูสาวใหญ่ซี 7 โรงเรียน อนุบาล จ.นครราชสีมา
เสียชีวิตคาบ้านพักในสภาพร่างกายท่อนล่างเปลือยเปล่าศีรษะถูกตีด้วยของแข็งจนหน้าผากแตก กะโหลกยุบ ไม่พบร่องรอยข่มขืน ขณะที่ทรัพย์สินยังอยู่ครบ ตรวจ สอบในบ้านพบเครื่องคอมพิวเตอร์ยังเปิดค้างอยู่ สันนิษฐานคนร้ายน่าจะเป็นคนรู้จัก มาหาเพื่อเจรจาปัญหาบางอย่าง แต่ตกลงกันไม่ได้เลยลงมือฆ่าทุบหัวอย่างเหี้ยมโหด ผอ.โรงเรียนเผยเหยื่อเป็นคนอัธยาศัยดี เป็นที่รักของเพื่อนครูและเด็กนักเรียน ล่าสุดลงเรียนปริญญาโท กำลังจะจบ แต่ต้องมาเสียชีวิตอย่างน่าสลด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 เม.ย. พ.ต.ท.รณรงค์ สุรทศ พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา
รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 54 ชุมชนสุขสันต์ หมู่ 8 ต.ทับสวาย อ.ห้วย แถลง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังจำนวนหนึ่ง ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในรั้วบ้านพบไทยมุงจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องกันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากที่เกิดเหตุ บริเวณข้างตัวบ้านพบศพหญิงวัยกลางคน นอนหงายสวมเสื้อซับในสีดำเพียงตัวเดียว ท่อนล่างเปลือยเปล่า คว่ำหน้าจมกองเลือด ร่างเปียกน้ำฝนและดินโคลน ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.ทักขิณาวิสุทธิ์ หรือครูเจ๊ะ ฤทธิเดช อายุ 49 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว
จากการชันสูตรพลิกศพร่วมกับแพทย์เวรนิติเวช ร.พ.ห้วยแถลง
พบที่บริเวณศีรษะ ท้ายทอยและหน้าผาก มีบาดแผลคล้ายถูกตีด้วยของแข็งจนยุบ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง ใกล้กับศพพบรอยเลือดสาดเต็มพื้นและฝาบ้านและยังพบสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น และพระเลี่ยมทองไพรีพินาศขาดตกอยู่ 1 องค์ ไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืนแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 21 เดินทางมาตรวจสอบหาเก็บหลักฐาน เพื่อประกอบการสอบสวนหาตัวคนร้าย
จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.ทักขิณาวิสุทธิ์ หรือ ครูเจ๊ะ เป็นครูชำนาญการ 2 ระดับ 7 โรงเรียนอนุบาลมณีราษฎร์คณาลัย เปิดสอนระดับอนุบาล ถึง ป.6 ในเขตเทศบาลตำบลห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง
ผู้ตายเป็นสาวโสด ถึงแม้จะอายุมากแล้วแต่ถือว่าเป็นคนหน้าตาดี เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มหลายคน เป็นชาวอำเภอตะโหมด จ.พัทลุง ย้ายจากจ.บุรีรัมย์มาสอนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลมณีราษฎร์คณาลัยเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เป็นครูประจำชั้น ป.3/1 โดยครูเจ๊ะซื้อที่ดินและปลูกสร้างบ้านหลังที่เกิดเหตุเอาไว้และอาศัยอยู่เพียงลำพัง ตั้งใจว่าจะปักหลักเป็นครูอยู่ที่อ.ห้วยแถลง จนเกษียณอายุราชการ เคยชอบพอกับครูผู้หญิงด้วยกันแต่อยู่ต่างโรงเรียน ถึงขั้นเคยมาอยู่กินด้วยกัน แต่ระยะหลังมีปัญหาจึงแยกกันอยู่
ทุบหัวฆ่าครูสาวซี7 ตายเปลือย-คาบ้าน
ก่อนจะมีผู้มาพบศพ เมื่อเวลา 08.40 น. นางสุวลี สิทธิการ เพื่อนครูโรงเรียนอนุบาลมณีราษฎร์คณาลัย มาเรียกหาครูเจ๊ะเพื่อชวนไปทำงานที่โรงเรียนพร้อมกัน แต่ไม่พบ
นางสุวลีจึงไปโรงเรียนตามลำพัง ต่อมาน้องสาวผู้ตายซึ่งเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลตะโหมด จ.พัทลุง โทรศัพท์มาหาครูเจ๊ะ เนื่องจากผู้ตายนัดหมายไว้ว่าจะเดินทางกลับบ้าน อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ในวันนี้ เพื่อฉลองเทศกาลสงกรานต์กับครอบครัว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าอาวาสวัดประชาคณาราม ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านผู้ตาย เจ้าอาวาสวัดประชาคณารามจึงให้พระลูกวัดมาดูที่บ้าน และเดินสังเกตการณ์รอบบ้านพักผู้ตายเนื่อง จากเห็นเปิดไฟทิ้งไว้ กระทั่งมาพบศพครูเจ๊ะนอนเสียชีวิตอยู่ข้างบ้าน จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
สันนิษฐานว่าก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตกำลังทำงานอยู่ในบ้านพักเพียงลำพัง เนื่องจากพบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยังเปิดทิ้งไว้
พร้อมเอกสารในการเรียนปริญญาโทวางอยู่ที่โต๊ะทำงาน คนร้ายซึ่งน่าจะเป็นรู้จักกันมาเรียกให้เปิดประตู เพื่อเข้าพูดคุยปัญหาบางอย่าง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้จึงเกิดการต่อสู้ คนร้ายอาจจะใช้ของแข็งตีเข้าที่ศีรษะ หรือไม่ก็อาจจะจับศีรษะกระแทกกับพื้นปูนจนเสียชีวิต จากนั้นจึงหลบหนีไปโดยไม่แตะต้องทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญพยานผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนหาสาเหตุการฆาตกรรมครั้งนี้ ส่วนศพของครูเจ๊ะ มอบให้หน่วยกู้ภัยฮุก.31 เคลื่อนย้ายนำไปให้แพทย์นิติเวช ร.พ.มหาราช นครราชสีมา ตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงโดยละเอียดอีกครั้ง
พ.ต.อ.สรศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนร้ายที่ลงมือฆ่าน่าจะรู้จักและสนิทสนมกับผู้ตาย
เพราะคนร้ายไม่ได้แตะต้องทรัพย์สิน และสภาพภายในบ้านก็ไม่มีร่องรอยงัดแงะ คนร้ายกับผู้ตายอาจจะทะเลาะหรือพูดจาตกลงกันในเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ได้จึงลงมือฆ่า และผู้ตายน่าจะพยายามวิ่งหนี คนร้ายจึงวิ่งไล่ตามและลงมือทุบตีอย่างเหี้ยมโหด อย่างไรก็ตามตนได้ตั้งชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีนี้โดยเร็ว เบื้องต้นได้สอบปากคำพยานแวดล้อมและเพื่อนครูไปแล้วจำนวน 5 ปาก และคาดว่าน่าจะติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุสยองได้ในเร็วๆ นี้
นายมานะ ครุธาโรจน์ ผอ.ร.ร.อนุบาลมณีราษฎร์คณาลัย เปิดเผยว่า
ครูเจ๊ะย้ายมาสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ประมาณ 9 ปี เป็นคนมีอัธยาศัยดี เป็นที่รักใคร่ของครูและนักเรียนอย่างมาก ทราบว่าปัจจุบัน ครูเจ๊ะกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สาขานครราชสีมา กำลังจะจบในเร็วๆนี้ จึงขอให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดคลี่คลายคดีนี้ โดยจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว ส่วนศพจะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ใดนั้น ยังระบุไม่ได้ ต้องรอให้ญาติพี่น้องของครูเจ๊ะ ที่มีภูมิลำเนาอยู่ จ.พัทลุง มาดำเนินการ โดยทางโรงเรียนพร้อมจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่