เข้าใจผิด ดวลจับยาบ้า ตร.ฆ่าอส.

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 28 มี.ค. ขณะที่ พ.ต.ท.ทรงพล สุขกลึงมี สารวัตรเวร สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เข้าเวรอยู่บนโรงพัก

ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นชุดใหญ่หลายนัดติดต่อกัน บริเวณสี่แยกซอยข้างโรงพัก จึงรีบนำกำลังออกไปตรวจ สอบ พบรถแท็กซี่โตโยต้า สีส้ม ทะเบียน ทม 6436 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ และมีรถ จยย.ฮอนด้าคลิก สีน้ำเงิน ทะเบียน รตค 819 กรุงเทพมหานคร จอดขวางหน้ารถแท็กซี่ โดยมีชายฉกรรจ์ 2 กลุ่มดวลปืนยิงใส่กัน จึงเข้าระงับเหตุ ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ปรากฏว่าฝ่ายหนึ่งเป็นตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี อีกฝ่ายเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) จังหวัดนนทบุรี มีผู้ถูกยิงได้รับ บาดเจ็บ 2 คนคือ ส.ต.ท.บดีเทพ มณีฉาย ผบ.หมู่กลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.จ.นนทบุรี ถูกยิงที่หน้าท้อง สะโพกขวา และแขนซ้าย และนายเอกชัย อุ่นแก้ว อายุ 21 ปี เจ้าหน้าที่ อส. ถูกยิงใต้รักแร้ซ้ายทะลุขขวา รีบช่วยเหลือนำส่ง รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ แต่นายเอกชัยเสียชีวิตระหว่างทาง

หลังเกิดเหตุ นายเชิดวิทย์ ฤทธิประศาสน์ ผวจ. นนทบุรี

นายวิเชียร พุฒิวิญญู รอง ผวจ. พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สถิตย์ ต้นสงวน รอง ผบก. พ.ต.อ.สำเริง งามรัตน์ ผกก.สภ.บางใหญ่ นายพิภพ บุญธรรม นายอำเภอบางใหญ่ เดินทางไปดูศพนายเอกชัย อส.ที่เสียชีวิต และเข้าเยี่ยมอาการ ส.ต.ท.บดีเทพที่ถูกยิงบาดเจ็บ พร้อมสอบถาม ด.ต.จันทร์ ฉ่ำเย็นอุรา ตำรวจสืบสวน บก.ภ.จ.นนทบุรี ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้ความว่า ในช่วงเย็นก่อนเกิดเหตุ ที่ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี นายเชิดวิทย์ ฤทธิประศาสน์ ผวจ.นนทบุรี เป็นประธานพิธีปล่อยแถวตำรวจและอาสาสมัครรักษาดินแดนกว่า 500 นาย ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติด ก่อนจะแยกย้ายกันออกไปทำงานตามจุดที่ได้รับมอบหมาย 

ด.ต.จันทร์ให้การต่อไปว่า ต่อมา พ.ต.ท.ศิริชัย ครูประเสริฐวัฒนา รอง ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.ต.ธนา มะลิงาม สว.สส.ภ.จ.นนทบุรี พร้อมกำลัง

จับกุมตัวนายต่อศักดิ์ แสงเมฆ อายุ 32 ปี และ น.ส.ศิรินทิพย์ กลั่นวาที อายุ 29 ปี แฟนสาว ในหมู่บ้านบัวทอง ได้ของกลางยาบ้า 10 เม็ด จากนั้นนำตัวมาขยายผลให้นายต่อศักดิ์ โทรศัพท์ติดต่อนายแบงก์ ไม่ทราบนามสกุล เอเย่นต์ยาบ้าย่าน อ.บางใหญ่ เพื่อล่อซื้อจับกุม โดยนัดส่งของในหมู่บ้านบางใหญ่ซิตี้ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย ชุดสืบสวน ภ.จ.นนทบุรี 3 นาย ประกอบด้วย จ.ส.ต.ธิติวุฒิ หน่อจำปา ปลอมตัวเป็นคนขับรถแท็กซี่ โดยมี ส.ต.ท.บดีเทพ คนเจ็บ นั่งหน้าคู่ คนขับ ส่วนตนนั่งเบาะหลังกับนายต่อศักดิ์และแฟนสาว เมื่อไปถึงบริเวณที่นัดหมาย ได้ขับรถวนเวียนหาตัวนายแบงก์ มาถึงจุดเกิดเหตุข้างโรงพัก สภ.บางใหญ่ มีชายฉกรรจ์ 3 คน ขี่รถ จยย.ปาดหน้าแล้วกระโดดลงมาชักปืนจ่อมาที่รถแท็กซี่ พวกตนรีบตะโกนแสดงตัวว่าเป็นตำรวจ แต่ทั้งหมดไม่ฟังเสียง กลับระดมยิงใส่รถหลายนัด กระสุนถูก ส.ต.ท.บดีเทพได้รับบาดเจ็บ แต่ยังแข็งใจชักปืนยิงต่อสู้จนถูกนายเอกชัยเสียชีวิตดังกล่าว 

ด้านนายชินกิจ ผ่องฉวี และนายวิรัช กลัดเจริญ เจ้าหน้าที่ อส.ที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้การว่า
 
ได้รับคำสั่งให้ไปตั้งด่านตรวจบริเวณคอนโดบางใหญ่ ภายในหมู่บ้านบางใหญ่ซิตี้ พบนายอุดมพร หรือแบงก์ โกสุมลักษมี อายุ 24 ปี เอเย่นต์ยาบ้า และนายมานพ จันทร์ปล้อง อายุ 30 ปี เพื่อนคู่หู ขี่รถ จยย.ผ่านมา เรียกตรวจค้นพบยาบ้า 50 เม็ด จึงจับกุมตัว สอบถามนายแบงก์บอกว่าจะมาส่งของให้ลูกค้าที่นั่งมาในรถแท็กซี่ จึงรายงานให้นายพิภพ บุญธรรม นายอำเภอบางใหญ่ทราบ มีคำสั่งให้นำตัวผู้ ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ ดำเนินการ แต่ระหว่างนั้นลูกค้าของนายแบงก์โทรศัพท์ ติดต่อเข้ามาแจ้งว่ารอรับของอยู่ จึงปรึกษากันว่าจะขยายผลไปจับกุมผู้เสพต่อ ตนทั้งสองพร้อมด้วยนายเอกชัย ผู้ตายจึงขี่รถ จยย.ของนายแบงก์ตามประกบรถแท็กซี่คัน ดังกล่าว เมื่อมาถึงข้างโรงพักก็ตัดสินใจเข้าชาร์จจะจับกุม โดยไม่รู้ว่ากลุ่มชายในรถเป็นตำรวจที่จับกุมลูกค้าของนายแบงก์มาขยายผลล่อซื้อเช่นกัน   ทำให้เกิดเรื่องราวบานปลายถึงขั้นยิงปืนใส่กันดังกล่าว

จากนั้นนายเชิดวิทย์ ฤทธิประศาสน์ ผวจ.นนทบุรี เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายตำรวจและฝ่ายปกครอง ที่ห้องประชุม สภ.บางใหญ่

โดยเรียกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งนายแบงก์ และนายต่อศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายจับกุมมาสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย ภายหลังการประชุมนานกว่า 2 ชม. ผวจ.นนทบุรีกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการปฏิบัติงานตามมาตรการปราบปรามยาเสพติด ต้องรอสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดก่อน แต่ทราบว่าทั้ง 2 ฝ่ายต่างตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา จะให้ความช่วยเหลือทั้งคนเจ็บและผู้ตายอย่างเต็มที่เพราะถือว่าเกิดเหตุขณะปฏิบัติงาน ต่อข้อถามว่า เหตุการณ์ ดังกล่าวจะบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างตำรวจกับฝ่ายปกครองหรือไม่ นายเชิดวิทย์กล่าวว่า ได้ทำความเข้าใจทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว เป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ศุภชัย ไตรสมบูรณ์ หน. วิทยาการ จังหวัดนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 11 จ.ปทุมธานี

เดินทางไปเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ร่วมกันตรวจสอบแนววิถีกระสุนที่ยิงใส่รถแท็กซี่ โดยพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่รวม 8 ปลอก นอกจากนี้ ยังตรวจคราบเขม่าดินปืนที่มือของทั้งฝ่ายตำรวจและฝ่ายอาสาสมัครที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานต่อไป  ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 เดินทางไปเยี่ยม ส.ต.ท.บดีเทพ ที่พักรักษาตัวอยู่ห้องไอซียูของ รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ 1 หมื่นบาท โดย นพ.ชูชาติ พรพัฒนารักษ์ แพทย์ผู้ผ่าตัด กล่าวว่า อาการของ ส.ต.ท.บดีเทพ พ้นขีดอันตรายแล้ว มีบาดแผลถูกยิงที่แขนซ้าย 2 นัด หน้าท้อง 1 นัด และสะโพก 1 นัด ได้ผ่าตัดอุ้งกระดูกเชิงกรานที่แตกออกและตัดลำไส้เล็กที่ได้รับความเสียหายออกไป 10 ซม. แต่ยังคงต้องพักรักษาตัวเพื่อดูอาการต่อไป

พล.ต.ท.รชตกล่าวว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในการสูญเสียของทั้ง 2 ฝ่าย
 
ต้องถือเป็นบทเรียน เป็นอุทาหรณ์สำคัญในการทำงาน ต่อไปจะต้องมีการประชุมหารือประสานความร่วมมือในการทำงานใหม่ระหว่างตำรวจกับเจ้าหน้าที่ อส. โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพกปืนของเจ้าหน้าที่ อส. และการเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัย เบื้องต้นได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.ภ.1 เป็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว โดยให้แจ้งข้อกล่าวหากับทั้ง 2 ฝ่ายไว้ก่อน แม้ว่าจะเป็นการป้องกันตัวระหว่างปฏิบัติหน้าที่ก็ตาม เมื่อได้ข้อเท็จจริงก็ค่อยหักล้างข้อกล่าวหากันไป และช่วงเย็นวันเดียวกันนี้จะเดินทางไปร่วมงานรดน้ำศพนายเอกชัย อส.ที่เสียชีวิต ที่วัดตำหนักใต้ อ.เมืองนนทบุรี พร้อมให้ความช่วยเหลือทางครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป ส่วน ส.ต.ท.บดีเทพ จะพิจารณาความดีความชอบเป็นพิเศษ เพราะ ถือว่าเป็นผู้เสียสละในการทำงานตามนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติด