เอพีรายงานเมื่อ 25 มี.ค. ว่า หลังจากทางการเวียดนามกวาดล้างธุรกิจหาคู่ให้ผู้หญิงแต่งงานกับหนุ่มต่างแดน โดยเฉพาะหนุ่มเกาหลีใต้ ทำให้ธุรกิจนี้หันไปเล็งตลาดใหม่ที่กัมพูชา โดยเฉพาะในหมู่บ้านยากจน
นายจอห์น แม็กจีโอกัน ผู้ประสานงานโครงการขององค์การนานาชาติว่าด้วยการอพยพย้ายถิ่น หรือไอโอเอ็ม ประจำประเทศกัมพูชา
เปิดผลการสำรวจและศึกษาที่พบว่า ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา สาวกัมพูชากว่า 2,500 คนแต่งงานไปกับหนุ่มเกาหลีใต้ผ่านธุรกิจจัดหาคู่ ซึ่งคนในกัมพูชาเองไม่ค่อยรู้มาก่อน หลังจากที่ฝั่งเวียดนาม ชาติเพื่อนบ้านกวาดล้างอย่างหนัก เพราะเป็นธุรกิจที่ขัดแย้งกับความเป็นคอมมิวนิสต์อย่างสิ้นเชิง
"ธุรกิจนี้กลายเป็นธุรกิจใหญ่ในกัมพูชา เราจะเห็นนายหน้าจัดหาคู่แต่งงานเพิ่มขึ้นมาก เพราะที่นี่เป็นตลาดใหม่ที่ทำเงินได้สูงมากทีเดียว" นายแม็กจีโอกัน กล่าว
จากรายงานของไอโอเอ็ม องค์การที่มีสำนักงานใหญ่ในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า
ฝ่ายชายที่ต้องการจัดซื้อภรรยาต้องจ่ายเงินให้นายหน้าราว 20,000 ดอลลาร์ หรือราว 630,700 บาท ส่วนครอบครัวเจ้าสาวได้รับเงินเพียง 1,000 ดอลลาร์ หรือราว 35,000 บาทเท่านั้น ขณะที่ทางการกัมพูชาไม่สนับสนุนธุรกิจนี้ เพราะเหมือนการค้ามนุษย์ โดยเมื่อเดือนก่อน ทางการเพิ่งยกเลิกบริษัทจัดหาคู่ของเกาหลีใต้ไป 2 แห่ง และนายกรัฐมนตรีฮุน เซน เตือนชาวบ้านอย่าได้คิดสั้นขายลูกสาวให้คนต่างชาติ
สำหรับหนุ่มเกาหลีใต้ที่นิยมมาใช้บริการธุรกิจนี้ ส่วนใหญ่ทำงานโรงงานหรือเป็นเกษตรกร
อยู่ที่บ้านเกิดหาผู้หญิงเกาหลีแต่งงานด้วยยาก เพราะฝ่ายชายมีรายได้ต่ำ เมื่อนำผู้หญิงกัมพูชาไปแต่งงานด้วย ดูผิวเผินอาจจะคิดว่า ประสบความสำเร็จ แต่เกิดกรณีไม่น้อยที่มีการผิดสัญญากัน รวมถึงหย่าร้าง และมีการใช้ความรุนแรงต่อฝ่ายหญิง ถ้าผู้หญิงหนีกลับบ้านจะต้องจ่ายค่าปรับ 31,500 บาท
ด้านเจ้าหน้าที่สถานทูตเกาหลีใต้ในกรุงพนมเปญให้ข้อมูลว่า มีเจ้าสาวชาวกัมพูชาขอวีซ่าไปแต่งงานในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากจำนวน 72 รายในปี 2547 เป็น 1,792 รายเมื่อปีก่อน