กรณี น.ส.มุทิตา ไทยลิ่มทอง หรือน้องพลอย อายุ 23 ปี อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอแบค จบปริญญาโท เกียรตินิยมอันดับ 1 คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ ขับรถเก๋งสปอร์ต เบนซ์ สีบรอนซ์ ไปกระโดดชั้น 10 อาคารเอ็มไพร์เพลส ถนนสาทรใต้ เสียชีวิตสยดสยอง เบื้องต้นตำรวจคาดผู้ตายเครียดหนักหลังแฟนหนุ่มไฮโซตีตัวออกห่างไปคบดาราสาว จนต้องใช้หมึกสีแดงเขียนไดอารี่ระบายความรักด้วยหัวใจร้าวรานบันทึกความรู้สึกถึงคนรักเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนตัดสินใจกระโดดตึกยุติปัญหาชีวิต
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 มี.ค. พ.ต.ต.อดิเรก พันธุ์ใย พงส. (สบ 2) สน.ยานนาวา เจ้าของคดี กล่าวว่า
เบื้องต้นได้ขอให้เพื่อนผู้ตายติดต่อเพื่อนชายคนสนิท ชื่อปอมมาสอบสวนแต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนการสอบสวน รปภ.ของอาคารดังกล่าวที่ประจำอยู่จุดเกิดเหตุ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพบผู้ตายยืนอยู่คนเดียวบริเวณจุดกระโดด ท่าทางเครียด สูบบุหรี่พร้อมคุยโทรศัพท์ พยานไม่คิดว่าผู้ตายจะกระโดดจึงไม่สนใจ แต่เมื่อพยานหันมาอีกครั้งเห็นผู้ตายในสภาพใช้มือทั้ง 2 ข้างจับขอบกั้นลานจอดรถ ส่วนตัวห้อยอยู่ด้านนอก พยานจึงร้องเอะอะโวยวายด้วยความตกใจ ก่อนรีบวิ่งไปช่วย แต่ผู้ตายปล่อยมือที่จับขอบกั้นทิ้งตัวลงไปด้านล่างจนเสียชีวิต สำหรับสมุดบันทึกที่ทิ้งไว้ในจุดเกิดเหตุ ได้ตรวจสอบลายมือกับครอบครัวผู้ตายก่อนยืนยันว่าเป็นลายมือของลูกสาว พ่อแม่ผู้ตายจึงไม่ติดใจในสาเหตุการตาย เพราะลูกสาวเป็นคนจริงจังกับความรัก
ส่วนบรรยากาศงานสวดพระอภิธรรมศพ น.ส.มุทิตา หรือพลอย ไทยลิ่มทอง อาจารย์สาวเอแบค
หลังญาตินำศพมาประกอบพิธีที่ศาลาใหญ่ วัดชุมพลนิกายาราม อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ช่วงเย็นวันเสาร์ เป็นต้นมาเป็นไปด้วยความเศร้าสลด บรรดาญาติพี่น้องเพื่อนฝูง ซึ่งส่วนใหญ่ขับรถยนต์หรูทยอยเดินทางเข้ามาแสดงความอาลัยกันอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน นายพีระยุทธ ไทยลิ่มทอง พ่อ น.ส.มุทิตาได้นำกล่องรับบริจาคร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสกับอาจารย์มุทิตา ไทยลิ่มทอง (พลอย) มาตั้งไว้ใต้รูปถ่าย นอกจากนี้ เพื่อนยังนำขนมคุกกี้และดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่มาไว้ที่ข้างโลงศพอีกด้วย
นายพีระยุทธ ไทยลิ่มทอง อายุ 59 ปี พ่อซึ่งยังอยู่ในอาการโศกเศร้า กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า
ตนมีลูก 2 คน น้องพลอยเป็นคนสุดท้อง ตอนนี้รู้สึกปลงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ติดใจกรณีที่ลูกสาวตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะก่อนที่ลูกจะเสียชีวิตได้เขียนไดอารี่เรื่องราวทุกอย่างเอาไว้ให้ ตนได้อ่านทำให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว แต่ ไม่อยากเปิดเผยขอให้เรื่องทุกอย่างยุติลง ส่วนที่ข่าวบอกว่าตนมีอาชีพขายกระเป๋าแบรนด์เนมนั้นไม่จริง ตนเป็นเพียงนักธุรกิจเท่านั้น ไม่มีมีการค้ากระเป๋าใดๆ ส่วนนางอังศนา ไทยลิ่มทอง อายุ 47 ปี แม่ของน้องพลอย ขณะนี้อยู่ประเทศอิตาลี วันเกิดเหตุยังไม่รู้ว่าลูกสาวเสียชีวิต ญาติๆบอกแต่เพียงว่าลูกประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้คงทราบจากข่าวและกำลังหาตั๋วเครื่องบินกลับมาเมืองไทย คาดว่าจะเดินทางกลับมาในวัน 23 มี.ค. ส่วนงานสวดศพจะมีถึงวันที่ 26 มี.ค. นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากที่น้องพลอยเสียชีวิต ทางแฟนหนุ่มได้เดินทางมาแสดงความเสียใจหรือไม่ นายพีระยุทธกล่าวว่า
ปกติแล้วลูกสาวมีเพื่อนฝูงอยู่มาก ทั้งที่เรียนปริญญาตรีและปริญญาโท เวลาไปเที่ยวก็เห็นเป็นกลุ่มใหญ่ ไม่ทราบเลยว่าคนไหนเป็นแฟนของลูกสาว อย่างไร ก็ตาม ตนอยากขอร้องให้เรื่องเหล่านี้มันจบๆไปเสีย
นางศิริมา ณ พัทลุง ญาติผู้ตาย กล่าวว่า
หลังจากที่นำศพมาไว้ที่วัดประกอบพิธีรดน้ำศพ ทำให้นางกิมเอง หาญตระกูล อายุ 77 ปี แม่ของตน ซึ่งเป็นป้าของน้องพลอย และเคยเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กถึงกับเป็นลมล้มฟุบ เพราะเสียใจกับการจากไปของหลานสาวอย่างกะทันหัน ญาติต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลราชธานี ขณะนี้ยังอยู่ในห้องไอซียูแต่อาการเริ่มดีขึ้น ส่วนสาเหตุที่นำศพมาไว้ที่วัดนี้ เพราะพื้นเพเป็นชาวพระนครศรีอยุธยา ญาติพี่น้องส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่นี่
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามรายละเอียด เกี่ยวกับการตัดสินใจจบชีวิตของ น.ส.มุทิตา
แต่ได้รับการปฏิเสธจากญาติและเพื่อนๆ พร้อมกับบอกว่า ขอให้เรื่องต่างๆมันจบไป ขอให้เห็นแก่ผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เพื่อนของน้องพลอยคนหนึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ กล่าวว่า เป็นเพื่อน เรียนปริญญาโทด้วยกัน หลังจากทราบข่าวน้องพลอยกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ตนยังไม่ปักใจเชื่อว่าน้องพลอยจะคิดสั้น อยากจะให้นำไดอารี่ที่พลอยเขียนเอาไว้ก่อนจบชีวิตมาเปิดเผยให้เพื่อนๆได้รับรู้ เพราะปกติน้องพลอยมีนิสัยร่าเริง สนุกสนาน ชอบอาชีพสอนหนังสือ เวลาตรวจข้อสอบมักจะนำข้อสอบของลูกศิษย์มาให้ดู ส่วนแฟนที่ชื่อ “ปอม” ตนไม่รู้จัก แต่ก่อนหน้านี้รู้เพียงว่าพลอยมีแฟนที่ชื่อว่า “แบงค์” แต่ตอนนี้เลิกรากันไป
ส่วนเพื่อนของ น.ส.มุทิตาอีกราย กล่าวว่า
เรียนปริญญาตรีที่จุฬาฯ มาด้วยกัน เพื่อนคนนี้มีนิสัยร่าเริง เป็นผู้หญิงที่ถือว่าเก่งคนหนึ่ง เพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่คาดคิดว่าเพื่อนจะตัดสินใจจบชีวิตด้วยเหตุนี้ ส่วนแฟนนั้นตนไม่ทราบและไม่รู้จัก “ปอม” แต่อย่างใด
ด้าน นพ.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า
ทั่วไปคนที่คิดฆ่าตัวตายส่วนใหญ่ไม่มีใครที่คิดแล้วฆ่าตัวเองทันที มักวางแผนและคิดไว้ก่อนล่วงหน้าว่าจะทำอย่างไร มีจำนวนน้อยรายที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายทันที อาการพื้นฐานของคนที่จะคิดฆ่าตัวตายส่วนใหญ่จะซึมเศร้า เก็บตัว อย่างไรก็ตาม การฆ่าตัวตายของอาจารย์ สาวครั้งนี้ เท่าที่ทราบพบว่ามีความรู้สึกเสียใจ เครียด จนต้องทานยาระงับประสาท และน้อยใจแฟนหนุ่มมาก่อนหน้านี้ อาจจะได้ปรึกษาเพื่อนๆ หรือคนใกล้ชิดแล้ว แต่ไม่สามารถทำให้สภาพจิตใจดีขึ้น จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาจารย์สาวคิดตัดสินใจฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็มีโอกาสที่มีความอ่อนไหวทางจิตใจ นำไปสู่การคิดสั้นได้ตลอดเวลา คนในครอบครัวและผู้ที่อยู่ใกล้ชิด หากพบว่าลูกหลานของตนมีอาการซึมเศร้า ให้ดูแลอย่างใกล้ชิด