ล่าจับได้แล้วแก๊งโจรไอ้โม่งปล้นทอง ตร.สุราษฎร์ฯ รวบมาได้อีก 2 หน.แก๊งเป็นอดีตครูอนุบาล ก่อนออกมาทำกิจการเต็นท์รถ แต่ยังค้างเงินค่าที่ดิน 3 ล้านบาท จึงชักชวนพวกที่ถูกยิงในที่เกิดเหตุและหลานเขยมาเป็นคนขับรถเพื่อปล้นทองหาเงินใช้หนี้ ขณะที่เจ้าของร้านหวั่นไม่ปลอดภัยหลังยิงโจรตายไปหนึ่ง เกรงจะมีญาติตามมาแก้แค้น
จากเหตุการณ์อุกอาจ แก๊งโจรใช้ปืนกลอูซี่เป็นอาวุธ และใช้รถกระบะเป็นพาหนะ บุกปล้นร้านทองแม่มาดี
ริมถนนสายบ้านปลายหริก-เคียนซา หมู่ 2 ต.เคียนซา อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี แต่ขณะจะกวาดเอาทองคำรูปพรรณ ปรากฏว่าพี่ชายเจ้าของร้านทอง ซึ่งเปิดร้านเฟอร์นิเจอร์อยู่ติดกัน ใช้อาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด ยิงต่อสู้กับคนร้ายจนเสียชีวิตคาที่ 1 ศพ ทราบชื่อภายหลัง นายธวัช วงศ์เสถียร อายุ 46 ปี ส่วนคนร้ายที่เหลือคาดมี 3 คน เห็นท่าไม่ดีขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 21 มี.ค.
นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.สุราษฎร์ธานี เดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุที่ร้านทองแม่มาดี เพื่อตรวจสอบความเสียหายภายในร้าน และพบกับนายยงค์ และนายวัฒนชัย วงษ์ประไพ สองพี่น้องที่ยิงต่อสู้กับคนร้ายจนล่าถอยหนีไป โดยนายวัฒนชัย กล่าวว่า คนร้ายได้ทองคำรูปพรรณไป 75 บาท หลังเกิดเหตุไม่ทราบว่าจะเปิดกิจการร้านทองต่ออีกหรือไม่ ต้องพูดคุยหารือกันระหว่างญาติพี่น้องก่อน และไม่รู้สึกมั่นใจความปลอดภัย เนื่องจากคนร้ายที่ถูกยิงเสียชีวิตเป็นคนในพื้นที่ เกรงญาติพี่น้องของคนร้ายจะตามมาแก้แค้น
นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า
สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่จัดกำลังมาดูแลความปลอดภัย และเร่งติดตามคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดีให้ได้ การปล้นครั้งนี้ นับว่าโชคดีที่สามารถป้องกันตนเอง และทรัพย์สินบางส่วนไว้ได้ ขณะเดียวกัน กำชับผู้ประกอบการร้านทองให้เตรียมความพร้อมโดยตลอด เนื่องจากขณะนี้ทองคำมีราคาแพง
ด้านพ.ต.อ.ชินวัฒน์ เปรมสง่า ผกก.สภ.เคียนซา กล่าวว่า
จากการตรวจสอบประวัติ นายธวัธ วงศ์เสถียร คนร้ายที่ถูกเจ้าของร้านยิงเสียชีวิต พบมีพฤติกรรมเป็นนักเลงการพนัน มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา เคยก่อเหตุคดีปล้นทรัพย์ร้านรับซื้อยางพาราในพื้นที่ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ถูกจับกุม และศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี
ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผบช.ภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท ผบก.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.อ.รณพงษ์ ทรายแก้ว รองผบก.ศสส.ภาค 8 และพ.ต.อ.ชินวัฒน์ เปรมสง่า ผกก.สภ.เคียนซา
ร่วมแถลงจับกุมแก๊งคนร้ายที่ปล้นร้านทองแม่มาดี ภายหลังติดตามจับกุมตัวได้แล้ว คือ นายศรายุทธ หรือติ๊ก คุ้มตัว อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/4 หมู่ 1 ต.บ้านนา อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี ทำหน้าที่ขับรถก่อเหตุ และนายชเลศ พวงสมบัติ อายุ 35 ปี มีศักดิ์เป็นน้าเขยนายศรายุทธ อยู่บ้านเลขที่ 76/8 หมู่ 1 ต.บ้านนา อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าขาซ้าย กระดูกแตก และที่บริเวณแก้มซ้ายมีบาดแผลฉีกขาด 1 แผล โดยจับกุมตัวได้ที่ถนนสายบ้านส้อง-ห้วยปริก ต.ห้วยปริก อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ขณะที่ญาตินำตัวหลบหนีไปกบดานนอกพื้นที่
จับอดีตครูอนุบาล-แก๊งโจรอูซี่ปล้นทอง
จากการสอบสวนนายชเลศให้การว่า เคยเป็นครูสอนนักเรียนชั้นอนุบาล โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านนาเดิม
ก่อนลาออกมาทำธุรกิจเปิดร้านจำหน่ายรถมือสองใน อ.บ้านนาสาร ต่อมานำเงิน 3,000,000 บาท ที่ได้จากการทำธุรกิจไปซื้อที่ดินในเขตเทศบาลตำบลบ้านนาสาร เพื่อขยายร้านเพิ่ม โดยที่ดินทั้งหมดราคารวม 5,000,000 บาท ทำสัญญาจ่าย 2 งวดๆ แรก 3,000,000 บาท จ่ายเรียบร้อยแล้ว ส่วนงวดที่ 2 จำนวน 2,000,000 บาท กำหนดจ่ายในช่วงเดือนมี.ค.นี้ มิฉะนั้นจะถูกยึดเงินงวดแรกทั้งหมด นายชเลศให้การต่อว่า แต่มีเงินไม่พอจึงตัดสินใจก่อเหตุปล้นร้านทอง หวังนำเงินที่ได้จากการขายทองคำไปจ่ายค่าที่ดินที่เหลือ ประกอบกับรู้จักนายธวัช ที่ถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ คบหากันมาประมาณ 10 ปี และช่วงนี้ทราบว่านายธวัชก็ร้อนเงินเหมือนกัน เนื่องจากเป็นหนี้พนัน จึงวางแผนร่วมกันปล้นทรัพย์ร้านทอง โดยนายธวัชรับหน้าที่หาอาวุธ ส่วนตนจัดหารถที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนนายศรายุทธ หลานเขยที่มาช่วยงานอยู่ที่ร้าน ทำหน้าที่ขับรถ
พ.ต.อ.รณพงษ์ กล่าวว่า การติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายรายนี้นับว่ารวดเร็วมาก
เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากพลเมืองดีช่วยชี้เบาะแสคนร้าย ประกอบกับคนร้ายถูกยิงบาดเจ็บ จากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายมีด้วยกันเพียง 3 คน ใช้รถ 2 คันก่อเหตุ คือ รถกระบะโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ ไทเกอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บง 8409 สุราษฎร์ธานี ที่ถูกยิงกระจกแตกยางระเบิด และรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีน้ำเงิน โดยทั้ง 2 คันเป็นรถของนายชเลศ และใช้อาวุธปืน 3 กระบอก คือปืนกลอูซี่ หรือปืนกลมือ 86 บรรจุ 30 นัดของนายธวัช ปืนพกสั้นขนาด .38 ของนายชเลศ และปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. ของนายเชเลศเช่นกัน แต่นายศรายุทธเป็นผู้พกพา
รองผบก.ศสส.ภาค 8 กล่าวต่อว่า ก่อนลงมือปล้น นายธวัชเดินทางไปชื้อหมวกไหมพรมและถุงมือที่ตลาดกิโลเมตรที่ 18 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี
ก่อนจะขับรถทั้ง 2 คันมาลงมือปล้น โดยจอดรถเก๋งฮอนด้าไว้บนถนนสายเซาเทิร์นซีบอร์ด แล้วนั่งรถกระบะไปร้านทอง ขับวนเวียน 2-3 รอบก่อนลงมือปล้น แต่โชคร้ายที่ถูกพี่ชายเจ้าของร้านใช้อาวุธปืนลูกซองยิงถล่มอย่างไม่ยั้ง นอกจากนี้ยังใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ยิงเสริมอีกกระบอก จนคนร้ายเสียชีวิต และบาดเจ็บ ระหว่างที่ชุลมุนและนายธวัชถูกยิงแล้ว นายศรายุทธขับรถเห็นว่านายชเลศถูกยิงบาดเจ็บ จึงลงมาช่วยลากขึ้นรถพาหลบหนี
พ.ต.อ.รณพงษ์ กล่าวว่า ก่อนคนร้ายมาเปลี่ยนใช้รถเก๋งฮอนด้าที่จอดทิ้งไว้ห่างจากจุดเกิดเหตุ 5 กิโลเมตร
ขับหลบหนีไป อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช โดยนายชเลศ โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนมารับที่สามแยกห้วยปริก ต.ห้วยปริก อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช แล้วไปรักษาตัวที่ขนำในสวนยางพารา ต.กะทูน อ.พิปูน และไปซื้อยามารักษาอาการบาดเจ็บด้วยตัวเอง พร้อมทั้งประสานเพื่อนสนิทคนหนึ่งมานำรถฮอนด้าซีวิค ที่ในท้ายรถมีทองคำหนัก 75 บาทที่ปล้นมาได้ไปเก็บไว้ในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลบ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี
รองผบก.ศสส.ภาค 8 กล่าวว่า แต่เพื่อนคนนี้เห็นว่าไม่ถูกต้อง
และกลัวความผิด จึงแจ้งให้นายวิทยา คุ้มตัว พี่เขยของนายชเลศ มารับรถกับทองคำที่ปล้นมาได้ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ ส่วนนายศรายุทธก็ติดต่อให้นายวิทยา ผู้เป็นพ่อเดินทางมารับกลับบ้านที่ อ.บ้านนาเดิม กระทั่งถูกจับกุมตัวได้เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 มี.ค. และสามารถจับกุมนายชเลศได้ขณะนั่งรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บม 4089 สุราษฎร์ธานี ที่มีนายอนุวัตร คุ้มตัว หลานของเมีย ขับรถมารับไปส่งโรงพยาบาล แต่ถูกจับกุมได้ระหว่างทาง
ด้านพล.ต.ท.ธานี กล่าวว่า จะเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
มอบโล่เกียรติคุณพลเมืองดีให้นายยงค์และนายวัฒนชัย วงษ์ประไพ สองพี่น้องที่ต่อสู้กับคนร้าย ถือว่าเป็นการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ปราบปรามคนร้าย ช่วยให้บ้านเมืองสงบสุขลดปัญหาอาชญากรรม ทำให้โจรเกรงกลัวที่จะทำผิด ส่วนการแจ้งความดำเนินคดี ในเบื้องต้นจะแจ้งข้อกล่าวหาปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน ส่วนคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องต้องดูที่พฤติกรรมว่า รู้เห็นมาตั้งแต่ต้นหรือไม่ (กรอบบ่าย)