มทภ.4ประกาศพร้อมลาออก รับผิดชอบชาวบ้านทำร้ายครู

มทภ.4ประกาศพร้อมลาออก รับผิดชอบชาวบ้านทำร้ายครู / คมชัดลึก

มทภ.4ประกาศยอมรับผิดเหตุจับกุมครูเป็นตัวประกัน ระบุพร้อมยอมรับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง หากผู้บังคับบัญชาเห็นสมควร เตรียมประกาศใช้แผนรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่ 23 พ.ค.นี้ ย้ำจนท.ทุกคนทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ครอบครัวครูสาวชาวเชียงรายยังคงทำพิธีตามความเชื่อชาวล้านนา ขณะที่กลุ่มสงขลารักสันติสุขให้กำลังใจพ่อแม่ ครูจูหลิง


วันที่ 21 พ.ค.เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) ซึ่งตั้งอยู่ภายในค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาค 4 ในฐานะ ผอ.สสส.จชต. พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ศปก.ตร.สน.ยะลา นายประเสริฐ แก้วเพชร รอง ผอ.สสส.จชต.ฝ่ายการศึกษา นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ปลัดจังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อกรณีเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่บ้านกูจิงรือป๊ะ ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีครูโรงเรียนบ้านกูจิงรือป๊ะได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย

พล.ท.องค์กร กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุรับทราบว่ากำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองซึ่งดูแลพื้นที่บ้านกูจิงรือป๊ะ ได้พบชายต้องสงสัยมาจากพื้นที่อื่นจำนวน 2 คนจึงได้ทำการตรวจค้นที่บ้านพัก ซึ่งในระหว่างการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนขนาด 11 มม. พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง จึงได้ควบคุมตัวไปตรวจสอบ

จากนั้นเวลาประมาณ 12.30 น. ทราบว่าชาวบ้านได้รวมตัวกันจำนวนมากแล้วได้เข้าไปควบคุมตัวครูโรงเรียนบ้านกูจิงรือป๊ะ 2 คน เพื่อต่อรองให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจึงได้เข้าช่วยเหลือครูทั้ง 2 คน แต่ไม่สามารถให้การช่วยเหลือดูแลครูได้ อีกทั้งเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในสังคม

ผมขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารต่างทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่แล้ว และผมในฐานะดำรงตำแหน่งเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 และได้รับมอบหมายให้ปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้อำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ในการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งให้ความดูแลความปลอดภัยของประชาชนทุกหมู่เหล่าในพื้นที่ โดยไม่ระบุว่าบุคคลนั้นๆ จะนับถือศาสนาใดก็ตาม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเหตุการณ์ที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ในฐานะที่ผมมีหน้าที่ตรงนี้ผมขอรับผิดและข้อบกพร่องต่างๆ แผนต่างๆได้วางไว้อย่างดีที่สุดแล้ว แต่ไม่สามารถกำกับให้เป็นไปตามแผนได้" ผอ.สสส.จชต. กล่าวและว่า

ได้ทำรายงานเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับทางผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นแล้ว และพร้อมยอมรับการปรับเปลี่ยนตำแหน่งในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตามแต่ผู้บังคับบัญชาจะพิจารณา

พล.ท. องค์กร ยังกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้สั่งการให้กองกำลังศรีสุนทร จัดทำแผนเสริมสร้างสันติสุขที่บ้านกูจิงรือป๊ะ ภารกิจการใช้กำลังทั้งปวงเข้าดำเนินการเพื่อนำความสันติสุขมาสู่พื้นที่ ซึ่งจะประกาศการใช้แผนนี้ในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ ในระหว่างรอการประกาศการใช้แผนได้สั่งการให้กองกำลังลงไปในพื้นที่จำนวน 2 กองร้อยทหารพราน กำลังชุดปฎิบัติการรบพิเศษและชุดปฎิบัติการจิตวิทยา

นอกจากนั้นยังได้สั่งการให้ยานพาหนะรถบรรทุกจำนวน 7 คันเพื่อเข้าไปดูแลการนำนักเรียนโรงเรียนบ้านกูจิงรือป๊ะไปเรียนในพื้นที่อื่นซึ่งได้ประสานกับส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาแล้ว และได้สั่งการให้สำรวจพื้นที่ว่าพื้นที่ใดที่ไม่ปลอดภัย เป็นพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะเกิดเหตุการณ์กับครูเช่นเดียวกับบ้านกูจิงรือป๊ะ

"ส่วนของกองทัพได้สนับสนุนยานพาหนะจำนวน 20 คัน และพร้อมให้การสนับสนุนเพิ่มอีก 50 คัน เพื่อนำครู และนักเรียนออกมาเรียนในพื้นที่ปลอดภัย พร้อมทั้งสั่งการให้ตั้งคณะการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อหาจุดบกพร่องว่าเกิดจากสาเหตุใด เพื่อนำช่องว่างของปัญหาที่พบมาปรับปรุงแก้ไข หากมีเหตุการณ์เช่นนี้อีก แต่อย่างไรก็ตามผมจะไม่ให้อภัย ถ้ายังเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาอีก สำหรับผู้ที่รับผิดชอบในพื้นที่ไม่ว่าเป็นใครก็ตามที่ผมได้ออกคำสั่งแต่งตั้งก็จะให้พ้นหน้าที่ทันที" ผอ.สสส.จชต. กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผอ.ศปก.ตร.สน.ยะลา เปิดเผยว่า จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ควบคุมตัวไว้ 2 คน คือนายอับดุลการิม มาแต และนายมูฮัมหมัดสะแปอิง รือแป และได้ประสานข้อมูลจาก ศปก.ตร.สน.ยะลา ก็พบว่านายมูฮัมหมัดสะแปอิง รือแป น่าจะเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการยิงเจ้าหน้าที่ที่สถานีรถไฟลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เนื่องจากน่าจะเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ทางโทรทัศน์วงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้

ส่วนนายอับดุลการิม มาแต มีหมายจับคดีความมั่นคง ซึ่งผลความคืบหน้าคดีนี้คือพบว่าอาวุธปืนที่พบที่ตัวนายมูฮัมหมัดสะแปอิง ก็ใช้ก่อคดีมาแล้ว 6 คดี ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่านายมูฮัมหมัดสะแปอิง ให้การรับสารภาพ และยังให้การว่าที่ผ่านมาทั้งหมดตัวนายมูฮัมหมัดสะแปอิงทำเพื่อพระเจ้า ถือว่าทุกคนที่นอกศาสนาถือว่าเป็นศัตรูกับตัวเขาจะต้องฆ่าให้หมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางตำรวจจะต้องใช้ความพยายามในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เข้าใจ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เพิ่งพบเป็นครั้งแรก

ส่วนนายอับดุลการิม ก็ให้ความร่วมมือดี และรับสารภาพส่วนคดีการจับครูเป็นตัวประกันก็มีความคืบหน้าโดยเมื่อวานนั้น (20 พ.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ได้ซักถามพยานเพื่อหาบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลแล้ว ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ก็พอจะทราบตัวบุคคลที่ก่อเหตุบ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้

ผู้การนราฯระดมทีมสืบสวนคลี่คลายคดี

พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวาณิช ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อจัดตั้งทีมสืบสวนและสอบสวนในการติดตามผู้กระทำความผิดจากคดีดังกล่าวแล้ว ซึ่งเรื่องทั้งหมดยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ โดยเฉพาะการสอบปากคำของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และจากการรับแจ้งเบาะแสของผู้ที่ให้ความร่วมมือยอมรับว่าคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก อีกทั้งคาดว่าอีกสักระยะจะสามารถเปิดเผยเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ได้

"ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก แต่สำหรับรายละเอียดต่างๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อรูปคดีและการไหวตัวของผู้ต้องสงสัย อย่างไรก็ตามคาดว่าอีกระยะหนึ่งจะสามารถสรุปเกี่ยวกับคดีดังกล่าวและให้ข้อมูลกับฝ่ายต่างๆ ได้" พล.ต.ต.ยงยุทธ กล่าว

ด้านนายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้เตรียมการจัดงานเพื่อไว้อาลัยกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งการประณามการในพฤติกรรมอันชั่วร้ายของผู้ที่ลงมือ โดยเชิญผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน รวมทั้งตัวแทนจากองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (22 พฤษภาคม 49)

กลุ่มสงขลารักสันติสุขประณามผู้ทำร้ายครู

บรรยากาศที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่ จ. เวลา 10.30 น. ของวันนี้ (21 พ.ค.) บริเวณหน้าห้องไอซียู กลุ่มพลังมวลชนในนามกลุ่มสงขลารักสันติสุขกว่า 100 คน นำกระเช้าดอกไม้มอบเป็นกำลังใจให้กับนายสูนและนางคำมี ปงกันมูล ที่มาเฝ้าดูแลอาการของ น.ส.จูหลิง ปงกันมูล ครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ ลูกสาวที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนายสูนและนางคำมี ซาบซึ้งกับน้ำใจในครั้งนี้อย่างมากจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่

ขณะเดียวกันกลุ่มสงขลารักสันติสุขร่วมกันออกแถลงการณ์ประณามผู้ทำร้ายครูอย่างโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม และเรียกร้องให้หยุดใช้วิธีการรุนแรงเพื่อความสงบสุขของพื้นที่ชายแดนภาคใต้

ส่วนจังหวัดเชียงราย ทางครอบครัวของ น.ส.จูหลิง ยังคงเดินหน้าทำพิธีฮ้องขวัญ ตามพิธีของชาวล้านนา โดยมีการเขียนชื่อ น.ส.จูหลิง ไว้ที่หน้าบ้าน รวมทั้งเตรียมข้าวตอกดอกไม้ ธูปเทียน หมากพลูเงินทอง และรูปถ่ายพร้อมวันเดือนปีเกิดของ น.ส.จูหลิง มาวางไว้ตรงลานกลางแจ้งหน้าบ้านเกิดเลขที่ 114 ม.10 ต.ปงน้อย กิ่ง อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย เพื่อทำพิธีสักการะบูชาเทวดาฟ้าดิน พร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์