อายัดทรัพย์ ร้านของเก่ากว่า30ล้าน

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 มี.ค. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผบก.ภ.จ.นครปฐม ไปที่ สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม

ตรวจทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าจะได้มาอย่างผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.สามพราน อายัดนำมาไว้ที่โรงพัก มีป้ายเครื่องหมายจราจร ป้ายบอกทาง สายอะลูมิเนียม นอกจากนี้ มีข้อต่อทองเหลืองมีเครื่องหมาย กปน. วาล์วทองเหลือง ตัวล็อกท่อน้ำทองเหลือง มีตัวอักษร กปน. มิเตอร์ทองเหลืองที่ถอดอุปกรณ์อื่นออกเหลือแต่ ทองเหลือง ทองแดงอัดก้อน ก้อนละ 1 ตัน จำนวน 71 ก้อน เศษทองเหลือง ทองแดง ตะกั่ว นอกจากนี้ ยังมีแจกัน เชิงเทียน กระถางธูป ถ้วยน้ำชา ระฆัง โกศ ทำด้วยทองเหลืองทั้งสิ้น ขณะเดียวกัน มีบางส่วนไม่สามารถนำมาไว้ที่โรงพักได้จึงอายัดพร้อมกับถ่ายรูปไว้เพื่อตรวจสอบการได้มา
 

เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 มี.ค. เวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว และฝ่ายปกครอง อ.สามพราน

เข้าตรวจค้นร้านสายสี่ รีไซเคิล เลขที่ 48/20 หมู่ 8 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน ห่างจากถนนพุทธมณฑลสาย 4 เข้าซอยไป 100 เมตร ในเนื้อที่ 2 ไร่ ภายในมีโกดังขนาดใหญ่รับซื้อของเก่านำมาหลอมส่งขายประเทศจีน นายขันติ นวกิตติ อายุ 50 ปี เจ้าของ มีใบอนุญาตถูกต้อง และนำตรวจค้นพบของทั้งหมดอยู่ในโกดัง
 

เมื่อขอดูสมุดจัดทำบัญชีซื้อขายสำหรับลูกค้า นายขันติไม่สามารถนำมาแสดงได้
 
เจ้าหน้าที่จึงอายัดสินค้าทั้งหมดเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีแขวงการทางฯ การไฟฟ้าฯ และการประปานครหลวง บริษัท ทีโอที มาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกัน แจ้งข้อหานายขันติว่าเป็นผู้ค้าของเก่า ไม่จัดทำสมุดบัญชีสำหรับการค้าและจดรายการสำคัญทั้งปวงแห่งการค้า พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ สภ.กระตีบ อ.กำแพงแสน สืบทราบว่าร้านรับซื้อของเก่าหลายแห่งนำของที่รับซื้อมาขายให้ร้านสายสี่ รีไซเคิล ในเขต สภ.โพธิ์แก้ว ซึ่งรับซื้อทองเหลืองและทองแดงทั้งหมดส่งไปยังประเทศจีน ให้ราคาดีกว่าที่อื่น จึงเข้าตรวจค้น ขณะนี้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินเหล่านี้มาตรวจสอบ พร้อมกับให้แจ้งไปยังวัดต่างๆด้วย เพราะยังมีทองเหลืองในรูปแบบแจกัน กระถางธูป เชิงเทียน จำนวนมาก หากเจ้าของร้านไม่ สามารถนำหลักฐานการซื้อมาแสดงได้ จะแจ้งข้อหาลักทรัพย์และรับของโจรด้วย

ส่วนนายดงพล รุจิธรรมธัช ปลัดฝ่ายปกครองอำเภอสามพราน เปิดเผยว่า

สิ่งของที่พบอย่างเช่น ทองแดงนั้น ถูกนำมาหลอมเป็นแท่งหนักแท่งละ 1 ตัน จำนวน 71 แท่ง และสิ่งของอื่นๆ ราคารวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30-40 ล้านบาท เพราะซื้อเป็นกิโลส่งไปขายต่างประเทศ สำหรับแผ่นป้ายบอกทางและป้ายชื่อต่างๆนั้นเป็นของกรมทางหลวง อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าหน่วยงานดังกล่าวนำออกจำหน่ายอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะหากจะจำหน่าย ต้องเป็นป้ายชำรุดเท่านั้น และจะต้องมีการประมูล มีใบเสร็จของราชการด้วย 

ส่วนการดำเนินคดีร้านรับซื้อของเก่าที่ จ.นครสวรรค์ นั้น พ.ต.ท.บุญเชิด จันทร์มณี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์

รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลขออนุมัติหมายจับผู้ที่นำของมาขายที่ร้าน ส.ทรัพย์ทวี และศาลจังหวัด นครสวรรค์อนุมัติหมายจับนายสว่าง ลำมะหิต อายุ 41 ปี อยู่บ้านมะขามเอน หมู่ 2 ต.หนองกระโดน อ.เมืองนคร-สวรรค์ ในข้อหาลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติทราบว่านายสว่างเดิมชื่อนายเชิด เป็นลูกจ้างชั่วคราวของการไฟฟ้านครสวรรค์ ย้ายไปอยู่ที่ อ.บรรพตพิสัย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัว มาดำเนินคดีต่อไป