หมูแฮมอีกแล้ว เสยท้ายปอ.

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 มี.ค. ร.ต.ต.ธนวินท์ บัวหลวง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.โชคชัย
 
รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกัน บริเวณปากซอยลาดพร้าว 55/2 ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีบรอนซ์ดำ หมายเลขทะเบียน 9 ธ-7617 กรุงเทพมหานคร อยู่ในสภาพชนท้ายรถปรับอากาศ สาย 545 สีฟ้าขาว วิ่งระหว่างนนทบุรี-สำโรง หมายเลขทะเบียน 12-6062 กรุงเทพมหานคร โดยรถทั้ง 2 คัน เสียหายเล็กน้อย 
 

เหตุดังกล่าวทำให้การจราจรติดขัด ร.ต.ต.ธนวินทร์ สั่งให้ ส.ต.อ.คฤโฆษ เยี่ยงกาย ตำรวจจราจรประจำป้อมตำรวจ โชคชัย 4 แยกรถคู่กรณีออก

แต่ฝ่ายคนขับรถเก๋ง เป็นชายวัยรุ่นอยู่ในสภาพตัวสั่น และไม่ยอมพูดคุย ส.ต.อ. คฤโฆษจำได้ว่าเป็นนายกัณฑ์พิทักษ์ หรือ หมูแฮม ปัจฉิมสวัสดิ์ อายุ 20 ปี บุตรชายนายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ และ น.ส.สาวิณี ปะการะนัง อดีตนางสาวไทย ที่มีคดีขับรถชนผู้อื่นเสียชีวิตและบาดเจ็บในเขตท้องที่ สน.ทองหล่อ จึงให้นายกัณฑ์พิทักษ์ ข้ามไปนั่งอีกฝั่ง ก่อน ส.ต.อ.คฤโฆษ จะขับไปจอดที่ศูนย์ควบคุมการจราจร บก.น. 4 ใต้สะพานข้ามถนนลาดพร้าวตัดถนนเลียบด่วนรามอินทรา เพื่อให้ ตกลงค่าเสียหายกับคู่กรณี โดยให้นายกัณฑ์พิทักษ์ นั่งสงบสติอารมณ์ในรถประมาณ 30 นาที จนคลายเครียดโทรศัพท์ หานายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้เป็นพ่อ เรียกประกันมาเจรจากับฝ่ายรถ ปอ.
 

กระทั่งเวลาเกือบ 16.00 น. นายกัณฑ์เอนกเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมเพื่อนชาย 1 คน

เข้าพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ประกันภัยของรถ ปอ. คู่กรณี สุดท้ายตกลงกันได้ โดยนายกัณฑ์เอนกจ่ายค่าเสียหายไป 2,000 บาท และให้บุตรชายขึ้นรถเพื่อนที่ขับมา ส่วนนายกัณฑ์เอนก ไปขับรถลูกชายแทน โดยกล่าวด้วยอารมณ์หงุดหงิดว่า ไม่ให้ขับ ก็ไม่เชื่อเรื่องยังไม่จบ ยังมาขับอีก
  

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 50 ขณะนายกัณฑ์พิทักษ์ ขับรถเบนซ์ สีดำ ทะเบียน ศศ 6699 กรุงเทพมหานคร

ถูกรถปรับอากาศร่วมบริการสีน้ำเงิน-ขาว สาย ปอ. 513 หมายเลขทะเบียน 12-0939 กทม. มีนายสถาพร อรุณศิริ ขับปาดให้รถหยุดบริเวณหน้าป้อมตำรวจจราจร ปากซอยสุขุมวิท 26 แยกอารีย์ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. ก่อนมีปากเสียงกัน นายกัณฑ์พิทักษ์ได้ใช้ก้อนหินทุบไปที่ใบหน้านายสถาพร จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนกลับเข้าไปนั่งในรถเบนซ์แล้วขับพุ่งชนผู้โดยสารที่ยืนบนทางเท้า ทำให้นางสายชล หลวงแสง พนักงานการเงิน ขสมก.เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ต่อมาวันที่ 13 มี.ค. พนักงานอัยการ มีความเห็นสั่งฟ้องนายกัณฑ์พิทักษ์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น และทำร้ายร่างกายผู้อื่นทำให้ได้รับบาดเจ็บ แต่นายกัณฑ์พิทักษ์ รับสารภาพเฉพาะข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเท่านั้น