จ่อปืนเล็งพท. หวิดซํ้ารอยสห.

เมื่อเวลา 01.45 น. วันที่ 19 มี.ค. พ.ต.ท.อมร เจริญเกษ พงส. (สบ 3) สน.บางพลัด

รับแจ้งความจาก พ.ท.สุธน โสธร อายุ 50 ปี นายทหารพระธรรมนูญ กองบัญชาการทหารสูงสุด ให้การว่า ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ให้รับผิดชอบคดี ส.ต.อ.ประสาท จันทิมา ผบ.หมู่ ป. ช่วยงานงานสืบสวน สน.ประชาชื่น ใช้ปืนพก 9 มม. ยิง ส.ต.ชัยวุฒิ ประสมศรี ทหารสังกัดกองพันสารวัตรทหารบก กรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด เสียชีวิตในท้องที่ สน.ประชาชื่น เมื่อทำงานเสร็จ คณะทำงานได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านนิตยาไก่ย่าง ข้างกรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด จากนั้นเวลาประมาณ 4 ทุ่ม แยกย้ายกันกลับ

ตนขับรถเก๋ง ทะเบียน 7ว-0228 กรุงเทพมหานคร กลับบ้านย่านพุทธมณฑล ข้ามสะพานซังฮี้

เมื่อถึงแยกบางพลัดได้จอดรถริมถนนสิรินธร เพื่อตรวจเอกสารในคดี ขณะนั้นได้มีรถกระบะวิ่งมาจอดด้านหน้า คิดว่าน่าจะเป็นชุดปฏิบัติการในทางลับของตำรวจที่จะมาปองร้าย โดยภายในรถมีชายฉกรรจ์ 5 คน นั่งข้างหน้า 2 คน กระบะท้าย 3 คน คนที่นั่งอยู่ท้ายกระบะได้กระโดดลงมาชักปืนเล็งมาที่กระจกด้านหน้ารถ ตนจึงเปิดกระจกสอบถามว่า “ทำอะไรน้อง” เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์เดินเข้ามาใกล้ๆ มองเห็นเครื่องแบบทหารที่แขวนอยู่ในรถ จึงขอโทษบอกว่าเป็นเหตุเข้าใจผิด
 

พ.ท.สุธนให้การอีกว่า หลังจากนั้น ได้มี พ.ต.ท. สุริยงค์ โพธิจันทร์ สว.สป.สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี

แสดงบัตรข้าราชการตำรวจลงมาเคลียร์ว่ากำลังติดตามแก๊งค้ายาบ้า จึงนำบัตรข้าราชการทหารให้ พ.ต.ท.สุริยงค์ดู พร้อมกับชี้แจงให้ทราบว่า ตนเป็นคณะทำงานสอบสวนคดีตำรวจยิงทหารในท้องที่ สน.ประชาชื่นอยู่ การทำงานลักษณะอย่างนี้ ทำให้สารวัตรทหารตายไปแล้วหนึ่งคน จึงขอร้องให้ตำรวจทั้งหมด 5 นาย ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.บางพลัด แต่ พ.ต.ท.สุริยงค์พยายามบ่ายเบี่ยง ไม่ยินยอมไป อ้างว่าถ้าจะให้ลงบันทึกประจำวัน ก็ขอให้ไปลงที่ สภ.บางศรีเมือง เมื่อตกลงกันไม่ได้ ก็แยกย้ายกันไป จึงต้องการแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.สุริยงค์ กับพวกรวม 5 คน ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า 

พ.ต.อ.อดิศักดิ์ คุณพันธ์ ผกก.สน.บางพลัด กล่าวว่า

ขณะนี้ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว พนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเรียกตำรวจที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ว่าเป็นเหตุตำรวจกำลังปฏิบัติงาน หรือต้องการข่มขู่ เพราะผู้เสียหายกำลังทำคดีที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ
 

ด้าน พ.ต.ท.สุริยงค์ โพธิจันทร์ สว.สป.สภ. บางศรีเมือง เปิดเผยถึงเรื่องราวที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีว่า

ก่อนหน้านั้นเวลาประมาณ 4-5 ทุ่ม ได้นำลูกน้อง 3 คน จับกุมตัวนายเฉลิมชนม์หรือเอ็ม หินลาด อายุ 24 ปี ยึดของกลางยาบ้า 20 เม็ด ขณะสอบสวนขยายผล นายแมคโทรศัพท์เข้ามือถือของนายเฉลิมชนม์ ให้ไปรับยาบ้าอีก 200 เม็ด จึงวางแผนจับกุม โดยนัดให้ส่งมอบของบริเวณริมถนนใกล้ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง เขตบางพลัด จากนั้นไปดักรอ กระทั่งพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ ผู้ต้องหาให้การว่าใช่รถของนายแมค ตนจึงลงจากรถไปนั่งรถแท็กซี่ แล้วขับไปจอดปิดท้ายรถคันดังกล่าว ส่วนลูกน้องขับรถไปจอดขวางหน้า เสร็จแล้วลงไปชะโงกมองภายในรถ เมื่อพบว่าไม่ใช่เป้าหมายได้ยกมือไหว้ขอโทษ แต่ชายในรถไม่พอใจ เอะอะโวยวาย ตนจึงลงไปแสดงตัวพร้อมกล่าวขอโทษ ชี้แจงให้ทราบว่าเป็นการเข้าใจผิด พยายามอธิบายทุกอย่างให้เข้าใจ ไม่คิดว่าจะบานปลายกลายเป็นเรื่องเช่นนี้ ซึ่งจะติดตามตัวคนขับรถแท็กซี่ที่เห็นเหตุการณ์โดยตลอดมาให้การเป็นพยานต่อไป

ขอยืนยันว่าลูกน้องของตน ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแต่ชะโงกหน้ามองเข้าไปในรถเท่านั้น