หึงจนคลั่งจับเมียลูกมีดจี้โหด!ตร.บุกช่วย

หนุ่มใหญ่เมืองคอนหึงโหดแค้นเมียบอกเลิกจะตีจาก

กินเหล้าจนเมาปิดประตูบ้าน จับเมีย-ด.ญ.วัย 14 ลูกเลี้ยงทุบตีทารุณ ชาวบ้านเวทนาแจ้งตร.ระงับเหตุ เลยคลั่งหนักลากเมียเข้าไปในห้องน้ำใช้มีดจี้คอจับเป็นตัวประกัน สุดท้ายตร.ต้องพังประตูเข้าไปช่วย พบถูกทำร้ายจนหน้าบวมเป่ง ส่วนเด็กโดนปาดคอด้วยแต่ไม่เข้า ก่อนล็อกตัวส่งไปสงบสติอารมณ์ในห้องขัง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 มี.ค. พ.ต.ท.นิติ บุญจันทร์ สารวัตรเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช

รับแจ้งเหตุสามีทำร้ายภรรยา ที่บ้านเลขที่ 3 ถ.ประตูลอด ต.ในเมือง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ ผกก.นำกำลังชุดสายตรวจไประงับเหตุ เมื่อไปถึงพบว่า ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว เปิดเป็นร้านเสริมสวยไม่มีชื่อ ปิดประตูร้านมิดชิด ภายในได้ยินเสียงการทำร้ายทุบตีกันอย่างรุนแรง และมีเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้เปิดประตู แต่ไม่มีใครออกมาเปิดและยังคงทำร้ายกัน โดยไม่สนใจว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่หน้าร้าน เจ้าหน้าที่จึงพังประตูบ้านบุกเข้าไป

ในบ้านพบชายคนหนึ่งทราบชื่อภายหลังว่านายสมจิตร พรหมรักษา อายุ 46 ปี
 
อยู่บ้านเลขที่ 8/3 ซอยหลังวัดเสาธงทอง ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช อยู่ในสภาพเมาสุรา กลิ่นเหล้าคลุ้ง กำลังทำร้ายผู้หญิงทราบชื่อต่อมา คือ นางประหยัด คำพรหม อายุ 42 ปี และด.ญ.น้อย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี สองแม่ลูก ซึ่งเป็นภรรยาและลูกเลี้ยงนายสมจิตร เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ นายสมจิตรลากตัวนางประหยัดเข้าไปในห้องน้ำ ใช้มีดจี้เป็นตัวประกัน และตะโกนออกมาว่า "ผัวเมียทะเลาะกันอย่ามายุ่ง ตำรวจเข้ามาจะเชือดคอให้ตาย" ส่วนด.ญ.น้อยมีบาดแผลที่ลำคอเจ้าหน้าที่นำส่งร.พ.มหาราช


หลังจากนายสมจิตรลากตัวนางประหยัดเข้าไปในห้องน้ำได้ยินเสียงนางประหยัดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดอยู่ในห้องน้ำ

เจ้าหน้าที่พยายามบอกให้หยุดก็ไม่เป็นผล จึงพังประตูห้องช่วยนางประหยัดออกมาได้ พบว่าถูกซ้อมจนใบหน้าบวมเป่ง มีเลือดไหลตามใบหน้าและศีรษะ ตามร่างกายถูกทุบตี บอบช้ำไปทั้งตัว จึงนำส่งร.พ.มหาราช ส่วนนายสมจิตรปิดประตูห้องน้ำขังตัวเองไว้อีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้ออกมา นายสมจิตรเดินออกมาพร้อมขวานขนาดใหญ่ในมือ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ปืนจ่อขู่ให้ทิ้งและไม่ให้ขัดขืน ก่อนจะเข้ารวบตัวไว้ได้ท่ามกลางความระทึกของชาวบ้านที่มามุงดูจำนวนมาก ก่อนคุมตัวไปที่สภ.นครศรีธรรมราช โดยนายสมจิตรพยายามพูดจาอวดเบ่งว่าเป็นผู้กว้างขวาง รู้จักตำรวจผู้ใหญ่ แต่ตำรวจไม่สนใจ ส่งตัวเข้าห้องขังเพื่อให้สร่างเมาจะได้สอบปากคำต่อไป

นางประหยัดให้การว่า ก่อนที่ตำรวจจะมานั้นตนถูกซ้อมจนน่วมไปทั้งตัว

ถ้าช้ากว่านี้คิดว่านายสมจิตรต้องฆ่าตนและลูกแน่ๆ ขนาดตำรวจมาถึงนายสมจิตรยังไม่เลิกทำร้าย นอกจากทุบตีทำร้ายตนแล้ว ยังใช้มีดเชือดคอด.ญ.น้อยด้วย แต่โชคดีที่มีดบิ่น ไม่เช่นนั้นลูกสาวคงตายไปแล้ว จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้นางประหยัดเป็นภรรยาผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งของอ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช มีบุตรด้วยกัน 1 คน คือ ด.ญ. น้อย นักเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต นางประหยัดจึงมาเปิดร้านเสริมสวย และนายสมจิตรซึ่งเป็นนักเลงโต ไม่มีงานการทำเป็นหลักแหล่งมาติดพัน นางประหยัดตกลงปลงใจอยู่กินด้วย โดยเปิดร้านขายน้ำชากาแฟบริเวณที่ว่างข้างร้านเสริมสวยในเวลากลางคืน

ต่อมานางประหยัดมาทราบว่า นายสมจิตรไปติดพันหญิงอื่นและหลอกเงินไปบำเรอ จึงมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ

ต่อมาได้บอกเลิก แต่นายสมจิตรไม่ยอมและคอยตามหึงหวงมาตลอด เมื่อทะเลาะกันก็จะทุบตีทั้งนางประหยัดและลูกเป็นประจำ ก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันที่ 16 มี.ค. ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง นางประหยัดจึงไปแจ้งความที่สภ.เมือง แต่ตำรวจบอกว่าเป็นเรื่องระหว่างสามีภรรยาให้ตกลงกันเอง นางประหยัดจึงหนีไปนอนบ้านญาติ กระทั่งรุ่งเช้าให้ญาติไปดูที่ร้านเสริมสวยว่านายสมจิตรอยู่หรือไม่ เมื่อญาติบอกว่าไม่พบ สองแม่ลูกจึงกลับไป แต่เมื่อเข้าไปในร้านพบนายสมจิตรแอบซ่อนอยู่ เมื่อเห็นทั้งสองแม่ลูกก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง ลงมือทุบตีทำร้ายอย่างทารุณ จนกระทั่งชาวบ้านทนไม่ไหวแจ้งตำรวจมาช่วยเหลือ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์