ตำรวจพลิกเมืองปทุมธานีล่า "ไอ้ต้อง-ไอ้ปลิง" แก๊งยาบ้าทมิฬฆ่า ส.ต.อ. กระจายกำลังเข้าค้น 3 แห่งแต่ไม่พบวี่แวว 2 คนร้าย
ติดประกาศตั้งรางวัลนำจับคนละ 2 แสนทั่วเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติเลื่อน 5 ชั้นยศเป็นพ.ต.ท. พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นค่าทำศพ แม่ร่ำไห้ที่สูญเสียลูกชาย เคยเตือนให้ระวังตัว อย่าประมาท คิดไม่ถึงจะมาด่วนจากไปแบบนี้ อีกคดีแก๊งยาบ้าเหิมยิงสายตำรวจปางตาย เผยสายตำรวจเข้าล่อซื้อยาบ้า พอแสดงตัวกลับโดนคนร้ายชักปืนยิงเข้าชายโครง แต่ก็หนีไม่รอดโดนตะครุบตัวไว้ทันควัน
จากเหตุการณ์แก๊งยาบ้าลงมือฆ่าโหดส.ต.อ.ศราวุธ จันทร์คติ อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี
โดยก่อนเกิดเหตุส.ต.อ.ศราวุธให้นายวัชระ จันทร์บำรุง และนายอนุรักษ์ บรรจง เป็นสายล่อซื้อยาบ้าจากกลุ่มคนร้าย แต่คนร้ายไหวทันจับสายทั้งคู่เป็นตัวประกันเรียกค่าไถ่ 3 หมื่นบาท โดยนัดหมายให้เอาเงินไปไถ่ที่สะพานข้ามคลองรังสิต-นครนายก 64 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยส.ต.อ.ศราวุธซ้อนแผนจับคนร้าย ปรากฏว่ากลุ่มคนร้าย 3-4 คนเปิดฉากยิงใส่จนส.ต.อ.ศราวุธเสียชีวิต นายสรวิทย์ บัวคลี่ อายุ 21 ปี ตำรวจอาสาชุมชนถูกยิงที่ขาขวาบาดเจ็บ
ในที่เกิดเหตุตำรวจจับกุมคนร้ายได้ 3 รายคือ
นายธนวัฒน์ หรือจ้อน แพงราษฎร์ นายวิษณุ หรือโต๊ด แววนิล อายุ 21 ปี ซึ่งถูกยิงเข้าที่ขาบาดเจ็บ และน.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ส่วนคนร้ายที่ยิงส.ต.อ.ศราวุธเสียชีวิตคือ นายศรีชล หรือต้อง ยศทัพ อายุ 33 ปี กับนายชาญยุทธ หรือปลิง เฉลยภาพ อายุ 25 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม โดยตำรวจได้ตั้งค่าหัวรางวัลนำจับคนละ 200,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 มี.ค. ที่อาคารอเนกประสงค์กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท. รชต เย็นทรวง ผบช.ภาค 1 กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนี้ว่า
เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 3 คน ประกอบด้วยนายวิษณุ แววนิล น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี แฟนสาว และนายธนวัฒน์ แพงราษฎร์ ส่วนผู้ต้องหาที่ยังมีอีก 2 คน คือ นายศรีชล หรือต้อง ยศทัพ มือปืนที่ยิงส.ต.อ.ศราวุธเสียชีวิต และนายชาญยุทธ หรือปลิง เฉลยภาพ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ออกหมายจับแล้ว อยู่ระหว่างไล่ล่าจับกุมมาดำเนินคดี
แก๊งยาบ้าเหิมอีก ยิงสายตร.
เวลา 13.30 น. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผบช.ภาค 1 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 1, ชุดสืบสวน จ.ปทุมธานี และชุดสืบสวนทุก สภ.ใน จ.ปทุมธานี
กระจายกันตรวจค้นพื้นที่ที่คาดว่าคนร้ายที่ยังหลบหนีไปกบดาน โดยแห่งแรกเข้าตรวจค้นที่ซอยบงกช 53 บ้านเลขที่ 24/5 หมู่ 4 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง บ้านพักนายชาญยุทธ หรือปลิง เฉลยภาพ แต่ไม่พบตัว เจ้าหน้าที่สอบสวนพ่อแม่และญาติพี่น้อง จุดที่สองเข้าตรวจที่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 5 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง บ้านพักนายศรีชล หรือต้อง ยศทัพ มือปืน แต่ก็ไม่พบตัวเช่นกัน ส่วนสุดท้ายเป็นอู่ซ่อมรถย่าน ต.คลองสอง อ.คลองหลวง แต่ก็ไม่พบตัวคนร้ายทั้งสองราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดประกาศหาตัว 2 คนร้าย
คือนายชาญยุทธ หรือปลิง ผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 624/2551 และนายศรีชล หรือต้อง ผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 627/2551 จะมีรางวัลนำจับเป็นเงินรางวัลค่าหัวคนละ 200,000 บาท หากพบหรือทราบเบาะแสสามารถแจ้งได้ที่พ.ต.อ. นันทชาติ ศุภมงคล โทร. 08-1838-5010 พ.ต.อ.วีรสันต์ สมใจ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โทร. 08-9136-4019 หรือที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เบอร์โทรศัพท์ 0-2959-2302-7 พร้อมบอกบรรดาญาติหากมีการติดต่อขอมอบตัวก็ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาเวลา 16.00 น. พล.ต.ต.สถาพร หลาวทอง ผู้ช่วยผบ.ตร., พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภาค 1, พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภาค 1, พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.ทวีพันธ์ แสงประเสริฐ, พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ, พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รองผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.พงษ์พล พงศ์พิลา ผกก.สภ.คูคต ร่วมพิธีรดน้ำศพส.ต.อ.ศราวุธ จันทรคติ ที่วัดสายไหม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมทั้งพิจารณาความดีความชอบ 7 ขั้น เลื่อน 5 ชั้นยศเป็นพ.ต.ท.
ส่วนการช่วยเหลือครอบครัวได้มอบเงินช่วยเหลือจากกองสวัสดิการตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 30,000 บาท
เงินช่วยเหลือจากแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 1 อีกจำนวนหนึ่ง มอบให้กับนายประวัติ จันทร์คติ และ นางนวล กองเกิน อายุ 59 ปี บิดามารดาไว้เป็นเงินค่าใช้จ่ายภายในงานพิธี โดยมีกำหนดสวดพระอภิธรรมศพเป็นเวลา 5 วัน และมีกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 22 มี.ค.2551 นี้ เวลา 16.00 น. ณ วัดสายไหม
นางนวล มารดา ร่ำไห้กล่าวว่า ส.ต.อ.ศราวุธเป็นลูกชายคนที่ 2 และได้ศึกษาเล่าเรียนเป็นตำรวจ
ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ จ.ปทุมธานี เหมือนกับพี่ชายคนโตคือจ.ส.ต.รัฐพล จันทร์คติ แต่พี่ชายอยู่ที่ สภ.ลำลูกกา และคอยส่งเสียดูแลพ่อและแม่ตลอด เคยบอกให้ระวังตัว อย่าประมาทกับการปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับลูกชาย รู้สึกเสียใจที่สูญเสียลูกชาย และรู้สึกว่าเร็วไปที่ลูกชายจากไป น่าจะอยู่ทำงานในหน้าที่ของตำรวจได้นานกว่านี้ แต่ก็ภูมิใจที่ลูกชายปฏิบัติได้อย่างเต็มที่ในหน้าที่ความเป็นตำรวจตามที่เข้าตั้งใจและฝันไว้