แก๊งถอดนอตเสาไฟฟ้าลุกลามไปถอดนอตบานประตูระบายน้ำแล้ว
โจรกระจอกหิวโซ บุกถอดนอตที่ขันประตูระบายน้ำรวม 4 บาน เหตุเกิดที่อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด ได้นอตและบานเหล็กไปขายได้เงินเกือบหมื่น พังเสียหายย่อยยับ ทั้งๆ ที่เป็นประตูน้ำสำคัญ เก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งและแก้ปัญหาน้ำท่วม ตร.เร่งล่าตัวแล้ว ส่วนที่จ.สุพรรณฯแก๊งลักบันไดเหล็กที่วางริมฟุตปาธสำหรับให้รถปีนข้ามเข้าร้าน ถูกขโมยเกลี้ยง บางแห่งถึงขนาดต้องซื้อโซ่มาล่ามเลยทีเดียว
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. พ.ต.ต.เสถียร กิ่งชา พงส.สบ.2 สภ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด
ได้รับแจ้งจากนายประยูร วิเศษวุฒิ กำนันตำบลบึงงาม อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด ว่า ได้มีมิจฉาชีพเข้ามาขโมยนอตที่ขันประตูระบายน้ำห้วยบ้านมะแว ม.7 ประตูระบายน้ำกุดแขแซ บ้านดอนแก้ว ม.6 ซึ่งทำการซ่อมแซมใหม่ได้เพียง 2-3 วัน นอกจากนี้ ยังถูกขโมยทองเหลืองประกบขอบประตูระบายน้ำด้านล่าง กว้าง 3 นิ้ว ยาว 2.10 เมตร ของประตูระบายน้ำบ้านมะแว หมู่ 1 และบ้านกุดแขแซ หมู่ 6 และบ้านดอนแก้ว รวม 4 บาน ราคาบานละ 2,400 บาท เป็นเงิน 9,600 บาทอีกด้วย สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของทางราชการเป็นอย่างมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบและทำบันทึกสอบปากคำ
เมื่อไปถึงพบว่าประตูระบายน้ำทั้งหมด เป็นประตูเปิด-ปิดน้ำที่ป้องกันน้ำจากลำน้ำชีเข้ามาท่วมนาข้าว บ้านเรือนประชาชน
ตั้งแต่บ้านนาแพง ม.1 บ้านท่าค้อ ม.2 บ้านมะบ้า ม.3 บ้านนางาม ม.4 บ้านวังทอง ม.5 บ้านหนองไชยวาน ม.13 บ้านดอนแก้น ม.6 บ้านมะแว ม.7 บ้านโนนราศี ม.8 บ้านโนนยาง ม.12 บ้านดอนโมง ม.9 พร้อมกั้นน้ำไว้ทำนาปรังพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ โดยนายประยูร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากนายอดิศัย สุทธิไชยยา หัวหน้ากิจกรรมส่งเสริมต่อเนื่องชลประทานร้อยเอ็ด ว่านอตที่ขันประตูระบายน้ำ ถูกมือดีขโมยไป ซึ่งเป็นการสร้างความเสียหายเลียนแบบการขโมยนอตเสาไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในจังหวัดภาคกลาง และเพื่อไม่ให้เป็นการเลียนแบบหรือเอาอย่าง ตนจึงประสานไปยังผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาแล้ว
แก๊งถอดนอต-ลามประตูระบายน้ำ!
ด้านนายศศินทร์ ตันกิจจานท์ นายอำเภอทุ่งเขาหลวง กล่าวว่า
เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้มอบหมายให้นายชาญชัย ไกรเสน ปลัดอาวุโส ลงไปดูแลแล้ว ซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้ชลประทานเป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ ที่ถูกขโมยลักนอตและขอบทองเหลืองไปขาย เพราะเป็นนอตใหม่ไขออกง่ายและขายได้ราคา ซึ่งจะได้ประสานตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนที่จ.สุพรรณบุรี เกิดกรณีชาวบ้านหวาดผวาคนร้ายแก๊งลักเล็กขโมยน้อยเช่นกัน
โดยนางฐานิตา หยองอนุกูล อายุ 59 ปี เจ้าของร้านฮั่วเฮงฮวด จำหน่ายมีดและเครื่องมือทางการเกษตร ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลอู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเคยตกเป็นเหยื่อโจรขโมยดะ ขโมยไม่เว้นแม้แต่บันไดเหล็กหรือเหล็กสามเหลี่ยมที่วางไว้ข้างฟุตปาธเพื่อให้รถปีนเข้าบ้าน จนต้องลงทุนซื้อโซ่มาล่าม เพราะไม่ไว้ใจหัวขโมยที่ลงมือก่อเหตุได้ไม่เว้นแต่ละวัน และภาพการใช้โซ่ล่ามบันไดเหล็กนี่เองที่ทำให้สะดุดตาคนและสะท้อนให้เห็นถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในยุคนี้
นางฐานิตา กล่าวว่า ตนยึดอาชีพขายเหล็กและมีดตัดอ้อยมานานกว่า 20 ปี
ที่ผ่านมา ในพื้นที่อำเภออู่ทองมีแก๊งลักขโมยสิ่งของที่ทำด้วยเหล็ก เช่น ฝาครอบท่อระบายน้ำ ประตูระบายน้ำในคลองซอยชลประทานบ่อยครั้ง แม้กระทั่งบันไดเหล็กสามเหลี่ยมสำหรับให้รถปีนขึ้นฟุตปาธเข้าร้าน ซึ่งวางอยู่ตามหน้าร้านค้าต่างๆ ในเขตเทศบาลตำบลอู่ทอง ก็ถูกมือดีขโมยไปจำนวนมาก หายกันเป็นประจำ ตำรวจจับได้บ้างไม่ได้บ้าง จนชาวบ้านหวาดผวากันหมดแล้ว
"สำหรับที่ร้านเคยถูกขโมยไปแล้ว 2 ครั้ง จึงคิดหาวิธีป้องกันช่วยเหลือตัวเอง จะหวังพึ่งตำรวจเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ คิดว่าแก๊งขโมยเหล่านี้ต้องทำกันเป็นขบวนการ และคงวางแผนกันเป็นอย่างดี คนร้ายน่าจะรู้ว่าเจ้าหน้าที่จะขับรถตระเวนตรวจพื้นตอนกี่ทุ่มกี่ยามหลังจากนั้นจึงค่อยลงมือ ฉันจึงตัดสินใจซื้อโซ่เหล็กนำมาเชื่อมติดกับบันไดเหล็กสามเหลี่ยมและเชื่อมติดกับขอบประตูเหล็กของบ้านเอาไว้อีกชั้น เพื่อป้องกันขโมย ก็ปรากฏว่าใช้ได้ผล ลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้านรวมทั้งคนที่ขับรถผ่านไปมาสงสัยเข้ามาถามว่าโซ่ล่ามอะไรไว้ จึงบอกไปว่าล่ามเหล็กสามเหลี่ยมกันขโมย ซึ่งหลายคนก็จำแบบเอาไปใช้" นางฐานิตากล่าวอย่างภูมิใจ
และว่า ที่เป็นแบบนี้คงเพราะว่าส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเศรษฐกิจไม่ดี
ฉะนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะได้เงินมาใช้ก็คือไปขโมยของคนอื่น โดยเฉพาะทรัพย์สินของทางราชการ และร้านค้าทั่วไป โดยไม่สนใจว่าจะเป็นสิ่งของอะไรทั้งสิ้นขอให้ขายได้เงินเป็นขโมยดะ บันไดเหล็กนั้นอันหนึ่งก็หนักอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 20 กิโลกรัม นำไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า ก็ได้เงินเป็นร้อยเป็นพัน